โค่นบัลลังก์! "ลาร์รี เอลลิสัน" ผงาดขึ้นเศรษฐีเบอร์ 1 ของโลก แซง "อีลอน มัสก์" ชั่วคราว
ศึกชิงบัลลังก์มหาเศรษฐีโลก “ลาร์รี เอลลิสัน” แซง “อีลอน มัสก์” ชั่วคราว หลังหุ้น Oracle พุ่งทะยาน จากเทรนด์ AI
ในโลกของมหาเศรษฐีระดับโลก การขยับขึ้นลงเพียงไม่กี่พันล้านดอลลาร์ก็อาจเปลี่ยนอันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดได้ทันที เหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนที่สุด เมื่อ ลาร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison) ผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทซอฟต์แวร์และคลาวด์รายยักษ์อย่าง Oracle สามารถแซงหน้า อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอ Tesla และ SpaceX ขึ้นครองตำแหน่ง บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ได้สำเร็จเป็นการชั่วคราว หลังราคาหุ้น Oracle ทะยานสูงที่สุดในรอบกว่า 30 ปี แต่ท้ายที่สุด มัสก์ก็คว้าตำแหน่งคืนได้ในวันเดียวกัน
การพุ่งทะยานของ Oracle: อานิสงส์จากกระแส AI
รายงานจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ระบุว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Oracle พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงกว่า 43% ในระหว่างวัน ก่อนจะปิดตลาดที่เพิ่มขึ้น 36% ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992 ปรากฏการณ์ครั้งนี้ทำให้มูลค่าตลาดของ Oracle เพิ่มขึ้นกว่า 244,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.8 ล้านล้านบาท)
แรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการประกาศผลประกอบการที่เหนือความคาดหมาย โดย ซาฟรา แคทช์ (Safra Catz) ซีอีโอของ Oracle เปิดเผยว่า บริษัทสามารถเซ็นสัญญามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์กับลูกค้ารายใหญ่ถึง สี่ราย ในไตรมาสล่าสุด และยังมีแนวโน้มว่าจะได้เซ็นสัญญาเพิ่มเติมอีกในอนาคตอันใกล้
ที่สำคัญที่สุด Oracle กำลังกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักด้าน โครงสร้างพื้นฐานสำหรับ AI เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยี AI ต้องการพลังงานการประมวลผลมหาศาล และ Oracle มีระบบคลาวด์และศูนย์ข้อมูลที่พร้อมรองรับความต้องการนั้น ตัวอย่างชัดเจนคือ ข้อตกลงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ Oracle จะจัดหาพลังงานไฟฟ้าขนาด 4.5 กิกะวัตต์ ให้กับ OpenAI บริษัทผู้อยู่เบื้องหลัง ChatGPT เพื่อนำไปใช้ขับเคลื่อนซูเปอร์คอมพิวเตอร์และโมเดล AI
ทรัพย์สินพุ่งขึ้นมหาศาลในวันเดียว
จากราคาหุ้นที่ทะยานขึ้น เอลลิสันซึ่งถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ Oracle ก็ได้รับผลประโยชน์โดยตรง ทรัพย์สินสุทธิของเขาเพิ่มขึ้นถึง 89,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท) ภายในเวลาเพียงวันเดียว จนทำให้เขามีทรัพย์สินรวมกว่า 383,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การเพิ่มขึ้นครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เขาแซงหน้าอีลอน มัสก์ขึ้นครองตำแหน่งมหาเศรษฐีเบอร์หนึ่งของโลกได้ในช่วงสั้น ๆ แต่ยังถูก Bloomberg ระบุว่าเป็น “การเพิ่มขึ้นของความมั่งคั่งในวันเดียวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกไว้” อีกด้วย
ศึกแย่งบัลลังก์: มัสก์ทวงคืนตำแหน่งในไม่กี่ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาดหุ้น เมื่อปิดตลาดวันพุธ ทรัพย์สินของอีลอน มัสก์กลับมาอยู่ที่ 384,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าเอลลิสันเพียง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้มัสก์สามารถทวงคืนตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้สำเร็จ
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มัสก์เสียตำแหน่งชั่วคราว ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกแซงมาแล้วสองครั้ง ได้แก่
ในปี 2021 โดย เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ (Bernard Arnault) ซีอีโอ LVMH
ในปี 2024 โดย เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) ผู้ก่อตั้ง Amazon
แต่มัสก์ก็มักจะกลับมาทวงคืนตำแหน่งได้เสมอด้วยมูลค่าบริษัท Tesla และ SpaceX ที่ยังคงแข็งแกร่ง
ลาร์รี เอลลิสัน: จากนักศึกษาลาออกสู่เจ้าของเกาะ
เส้นทางชีวิตของเอลลิสันก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เขาเกิดเมื่อปี 1944 ปัจจุบันอายุ 81 ปี เริ่มต้นก่อตั้ง Oracle ในปี 1977 หลังลาออกจากมหาวิทยาลัยโดยยังไม่จบการศึกษา
Oracle เริ่มต้นจากการเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล ก่อนจะขยายธุรกิจสู่ระบบคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานคอมพิวเตอร์ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่อย่าง Microsoft, Amazon และ Google ได้ในปัจจุบัน
นอกจากความสำเร็จทางธุรกิจแล้ว เอลลิสันยังเป็นเจ้าของเกาะ Lanai ในรัฐฮาวายกว่า 98% และเป็นผู้สนับสนุนหลักที่ช่วยชุบชีวิตการแข่งขันเทนนิส Indian Wells ในแคลิฟอร์เนีย จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “แกรนด์สแลมที่ห้า”
อีลอน มัสก์: เสาหลักของนวัตกรรม
ด้านอีลอน มัสก์ แม้จะเจอความผันผวนของมูลค่าทรัพย์สินอยู่บ่อยครั้ง แต่เขายังคงเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในวงการเทคโนโลยีโลก เขาคว้าตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดครั้งแรกในปี 2021 และครองตำแหน่งนี้เป็นส่วนใหญ่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
มัสก์สร้างความมั่งคั่งจากหลายบริษัท โดยเฉพาะ Tesla และ SpaceX รวมถึงการลงทุนในโครงการต่าง ๆ เช่น Neuralink และ The Boring Company ล่าสุดเขายังได้รับแพ็กเกจค่าตอบแทนใหม่จาก Tesla มูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 32 ล้านล้านบาท) หากสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่วางไว้
บทเรียนจากศึกมหาเศรษฐี
กรณีนี้ชี้ให้เห็นหลายประเด็นสำคัญ
1. ความผันผวนของตลาดหุ้นกำหนดความมั่งคั่งมหาเศรษฐี – การขึ้นหรือลงเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงนับแสนล้านดอลลาร์ในทรัพย์สินของบุคคลได้ในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
2. AI คือปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ – ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผลและพลังงานจากบริษัท AI กำลังสร้างโอกาสมหาศาลให้กับบริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ เช่น Oracle
3. การแข่งขันระหว่างมหาเศรษฐีคือการแข่งขันเชิงเทคโนโลยี – เอลลิสันกับ Oracle กำลังขึ้นมาโดดเด่นในคลาวด์และ AI ขณะที่มัสก์ยังคงครองพื้นที่ด้านยานยนต์ไฟฟ้าและอวกาศ
สรุป
การที่ ลาร์รี เอลลิสัน สามารถแซงหน้า อีลอน มัสก์ ขึ้นเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกได้ แม้เพียงชั่วคราว ถือเป็นอีกหนึ่งหลักฐานว่ากระแส AI กำลังสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจโลกและตลาดทุน การพุ่งขึ้นของราคาหุ้น Oracle เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าใครก็ตามที่สามารถจับโอกาสในตลาด AI ได้ย่อมมีโอกาสก้าวขึ้นมาอยู่แนวหน้าของโลกธุรกิจ
แม้มัสก์จะทวงคืนตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว แต่ความสำเร็จของเอลลิสันก็ทำให้โลกจับตามอง Oracle มากขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่าศึกชิงบัลลังก์มหาเศรษฐีโลกในยุค AI ยังมีความพลิกผันอีกมากรออยู่ในอนาคต





















