เผยโมเมนต์สุดท้าย! 'ทักษิณ' ยังยิ้ม บอกลาลูกสาวก่อนกรมราชทัณฑ์คุมตัว
ก่อแก้ว พิกุลทอง เผยนาที “ทักษิณ” ยิ้มได้ แม้ต้องเข้ารับโทษ จำคุก 1 ปี ฝากลูกสาวทั้งสองดูแลแม่
วันที่ 9 กันยายน 2568 กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูก ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้เข้ารับโทษจำคุก 1 ปี ในคดีโรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 และต้องกลับเข้ารับโทษที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ทันที หลังจากที่พักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจเป็นเวลาเกือบ 6 เดือน
ในโอกาสนี้ ก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาเผยเรื่องราวความประทับใจและความรู้สึกส่วนตัว ผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว “ก่อแก้ว พิกุลทอง - Kokaew Pikulthong” หลังเข้าร่วมฟังการอ่านคำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ โดยเป็นผู้ที่นั่งอยู่ในห้องร่วมกับอดีตนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญอื่น ๆ ของพรรค
นาทีประทับใจขณะกรมราชทัณฑ์คุมตัว
ก่อแก้ว พิกุลทอง เล่าถึงนาทีที่ กรมราชทัณฑ์มารับตัวอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ตึงเครียดและเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงใจ แต่ ทักษิณยังคงยิ้มได้ พร้อมหันไปบอกลากับ ลูกสาวทั้งสองคน ด้วยความอบอุ่น
“ในระหว่างขั้นตอนการรับตัวของกรมราชทัณฑ์ ท่านนายกฯ ทักษิณยังยิ้มได้ และบอกลูกสาวทั้งสองว่า ‘ไม่เป็นไร ๆ...ฝากดูแลแม่ด้วย’ ก่อนจากลา”
สำหรับก่อแก้ว นี่เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ตระหนักถึง ความโหดร้ายของการเมือง แม้บุคคลนี้จะเคยสร้างผลงานและนโยบายที่มีประโยชน์ต่อประเทศมากมาย แต่ก็ต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้
ความรู้สึกหลังฟังคำวินิจฉัยของศาล
ก่อแก้วกล่าวต่อว่า ในระหว่างการอ่านคำวินิจฉัยของศาลฎีกาฯ แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บุคคลสำคัญหลายคนในพรรคเพื่อไทยได้ร่วมฟังด้วยความสงบนิ่ง ไม่ว่าจะเป็น
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายสมชาย อดีตนายกรัฐมนตรี
นางแพทองธาร
คุณพินทองทา และสามี
“ทุกท่านนั่งฟังการอ่านด้วยความสงบนิ่ง ทั้งก่อนและหลังจากที่ศาลมีคำสั่งให้ท่านนายกฯ ทักษิณกลับไปติดคุกหนึ่งปี และเริ่มนับหนึ่งใหม่”
ก่อแก้วยังระบุว่า แม้ว่าจะเศร้าและสะเทือนใจ แต่ตนเองยังคงรู้สึกกำลังใจและมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าต่อไปในทางการเมือง
การเมืองไทยและชะตากรรมของอดีตนายกรัฐมนตรี
ข้อความของก่อแก้วสะท้อนถึง ความรู้สึกที่ซับซ้อนระหว่างความเศร้าและความภาคภูมิใจ ในเวลาเดียวกัน โดยกล่าวว่า
“การเมืองช่างโหดร้าย คนที่เคยสร้างผลงานและคุณงามความดีมากมาย ท่านโยบายจนเป็นที่ประจักษ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำไมต้องมารับชะตากรรมแบบนี้?”
ข้อความนี้สะท้อนถึงความรู้สึกของผู้ที่ติดตามการเมืองไทยมานาน และตอกย้ำถึง ความขัดแย้งและความซับซ้อนของระบบการเมืองไทย ที่บางครั้งแม้บุคคลจะมีผลงานมากมาย แต่ก็ต้องเผชิญกับกระบวนการทางกฎหมายที่เข้มงวด
ประวัติการกลับประเทศไทยและการพักโทษ
ย้อนกลับไปในวันที่ 22 สิงหาคม 2566 นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับประเทศไทย หลังจากที่ศาลฎีกาฯ พิพากษาใน 3 คดี และลงโทษจำคุกรวมทั้งหมด 8 ปี หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวไปที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แต่เนื่องจากมีอาการป่วยวิกฤต จึงถูกส่งไปพักรักษาที่ โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14
ระหว่างการรักษา นายทักษิณอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 6 เดือน และไม่ได้กลับเข้าเรือนจำในช่วงเวลานั้น ต่อมาได้รับ พระราชทานอภัยโทษลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี และมีการพักโทษบางส่วนเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567
เหตุการณ์นี้ถือเป็น บทเรียนทางประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่แสดงให้เห็นว่า แม้บุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาประเทศ จะต้องเผชิญกับกระบวนการยุติธรรม แต่ก็ยังคงความสง่างามและรักษามาตรฐานของการเมือง
ความประทับใจและแรงบันดาลใจ
ก่อแก้วยังเล่าว่า การเห็นอดีตนายกรัฐมนตรี ยิ้มและแสดงความอบอุ่นต่อครอบครัว เป็นช่วงเวลาที่สร้างความประทับใจและแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
“ส่วนตัวผมคิดในใจเงียบ ๆ แต่กึกก้องในสมองว่า การเมืองช่างโหดร้าย แต่เราต้องเดินหน้าต่อ หัวใจดวงนี้ 100%”
ข้อความนี้สะท้อนถึง ความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อประชาชน แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายและเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด
สรุป: บทเรียนทางการเมืองและความรับผิดชอบ
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของบุคคล แต่ยังเป็น บทเรียนทางการเมืองที่สำคัญ ทั้งในเรื่องของความรับผิดชอบต่อกระบวนการยุติธรรม และความเข้มแข็งของครอบครัวและพรรคการเมือง
1. ความสง่างามของนักการเมือง – การเข้ารับโทษโดยไม่หลบหนี แสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและกระบวนการยุติธรรม
2. บทเรียนสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่ – การเผชิญหน้ากับความยากลำบากและสถานการณ์ท้าทายอย่างสงบ แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางจิตใจ
3. ความสำคัญของครอบครัวและกำลังใจ – การบอกลาและฝากดูแลครอบครัวเป็นสัญลักษณ์ของความรักและความผูกพันที่ไม่อาจวัดค่าได้
4. การเมืองไทยและกระบวนการยุติธรรม – แม้บุคคลจะมีผลงานมากมาย กระบวนการทางกฎหมายยังต้องดำเนินไปอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม
ในที่สุด เรื่องราวของ นายทักษิณ ชินวัตร และนาทีที่กรมราชทัณฑ์มารับตัวเพื่อเข้ารับโทษจำคุก 1 ปี กลายเป็น เหตุการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจและบทเรียนสำคัญทางการเมืองไทย ทั้งสำหรับนักการเมืองรุ่นใหม่และประชาชนผู้ติดตามเหตุการณ์






















