ศึกบ็อกซ์ออฟฟิศ Superman vs Man of Steel ผู้ชนะที่แท้จริงชัดเจนแล้ว!

วงการหนังซูเปอร์ฮีโร่กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ Superman (2025) ของผู้กำกับ เจมส์ กันน์ (James Gunn) เปิดตัวและทำรายได้ทะลุหลักร้อยล้านไปทั่วโลก ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับ Man of Steel (2013) ผลงานของ แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder) ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นของจักรวาล DCEU เดิม จนกลายเป็นการต่อสู้ระหว่าง “ซูเปอร์แมนคนใหม่” กับ “ซูเปอร์แมนยุคเก่า” ที่แฟน ๆ ให้ความสนใจอย่างมาก

---

Superman (2025) เปิดศักราชใหม่ให้ DCU

ปี 2025 ถือเป็นปีสำคัญของ DC Studios เพราะเป็นการรีบูตจักรวาลครั้งใหญ่หลัง DCEU ปิดฉากไปในปี 2023 โดยได้ เดวิด โครเวนสเว็ต (David Corenswet) มารับบท ซูเปอร์แมน หรือ บุตรแห่งคริปตัน แทน เฮนรี คาวิลล์ (Henry Cavill)

ผลลัพธ์คือเสียงตอบรับเชิงบวกจากนักวิจารณ์และผู้ชม ทำให้ Superman (2025) กลายเป็นหนังเปิดจักรวาลใหม่ที่แฟน ๆ ให้ความหวังสูงสุด ทั้งในแง่คุณภาพและรายได้

---

รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศ: Superman แซง Man of Steel ในสหรัฐฯ

ข้อมูลล่าสุด (ณ วันที่ 8 กันยายน 2025) ระบุว่า

Superman (2025) ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 614.1 ล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ: 353.3 ล้านดอลลาร์

ต่างประเทศ: 260.8 ล้านดอลลาร์

ในขณะที่ Man of Steel (2013) ของเฮนรี คาวิลล์ ทำรายได้รวม 670.1 ล้านดอลลาร์

สหรัฐฯ: 291 ล้านดอลลาร์

ต่างประเทศ: 379.1 ล้านดอลลาร์

นั่นหมายความว่า ซูเปอร์แมนเวอร์ชันโครเวนสเว็ต ทำรายได้ในสหรัฐฯ สูงกว่าภาคเก่าชัดเจน แต่ยังตามหลังยอดรวมทั่วโลกอยู่ราว 56 ล้านดอลลาร์

---

ผลกำไร: Superman (2025) คือผู้ชนะ

แม้ยอดรวมทั่วโลกยังไม่แซง แต่ Variety รายงานว่า Superman (2025) ทำกำไรโรงภาพยนตร์ให้ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส (Warner Bros.) และ DC Studios กว่า 125 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จสูงมากเมื่อเทียบกับต้นทุนการสร้างและการโปรโมต

ตรงกันข้ามกับ Man of Steel (2013) ที่แม้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ DCEU และทำเงินมากกว่าในตลาดโลก แต่ต้นทุนและความคาดหวังในเวลานั้นสูงกว่ามาก ทำให้ผลตอบแทนเชิงธุรกิจไม่หวือหวาเท่า

---

มรดกของ Man of Steel และความหมายของ Superman (2025)

Man of Steel (2013) เปิดจักรวาล DCEU และวางรากฐานให้กับหนังรวมฮีโร่อย่าง Batman v Superman และ Justice League แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องโทนหนักและมืดเกินไป แต่แฟน ๆ หลายคนยังคงรักเวอร์ชันของ เฮนรี คาวิลล์

Superman (2025) เปิดจักรวาล DCU เวอร์ชันใหม่ ด้วยโทนที่สดใส มีความหวัง และเป็นมิตรกับผู้ชมทั่วไปมากขึ้น นี่คือทิศทางที่ เจมส์ กันน์ ต้องการให้จักรวาลใหม่เดินไป เพื่อดึงดูดทั้งแฟนเก่าและคนดูรุ่นใหม่

---

ตารางรายได้ของหนัง Superman (คัดเฉพาะสำคัญ)

Superman (1978) : 300.4 ล้านดอลลาร์

Superman Returns (2006) : 391 ล้านดอลลาร์

Man of Steel (2013) : 670.1 ล้านดอลลาร์

Batman v Superman (2016) : 874.3 ล้านดอลลาร์

Justice League (2017) : 661.3 ล้านดอลลาร์

Superman (2025) : 614.1 ล้านดอลลาร์ (ยังคงอัปเดตต่อเนื่อง)

---

DCU เอาชนะ Marvel ในปี 2025

นอกจากการชนกับภาคเก่าแล้ว Superman (2025) ยังเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่ทำรายได้สูงสุดของปี แซงหน้าคู่แข่งจากฝั่งมาร์เวล ได้แก่

The Fantastic Four: First Steps : 511.5 ล้านดอลลาร์

Captain America: Brave New World : 415.1 ล้านดอลลาร์

Thunderbolts : 382.4 ล้านดอลลาร์

ถือเป็นชัยชนะที่ทำให้ DCU เริ่มต้นอย่างแข็งแกร่งและมีความหวังสำหรับอนาคต

ก้าวต่อไป: Man of Tomorrow และ Supergirl

ด้วยความสำเร็จของ Superman (2025) ทำให้ ภาคต่อ Man of Tomorrow (2027) ได้ไฟเขียวทันที โดยคาดว่าจะเริ่มถ่ายทำในปี 2026 และยังมี Supergirl (2026) ที่ถูกวางตัวเป็นอีกก้าวสำคัญของจักรวาล DCU

แม้รายได้ทั่วโลกของ Superman (2025) จะยังไม่ถึง Man of Steel แต่ในแง่กำไรและทิศทางอนาคต ถือว่าหนังของเจมส์ กันน์คือผู้ชนะที่แท้จริง หนังเรื่องนี้ไม่เพียงพาซูเปอร์แมนกลับมาโลดแล่นบนจอใหญ่ แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า DCU สามารถสู้กับ Marvel Studios ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซูเปอร์แมนเวอร์ชันใหม่นี้จึงไม่ใช่แค่หนังอีกเรื่องหนึ่ง แต่คือการประกาศศักดาของจักรวาล DCU ที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!