ด่วนกลับถึงไทย! เครื่องบินเจ็ท “ทักษิณ” แตะรันเวย์ดอนเมือง
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางถึงไทยแล้ว! เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 ลงจอดดอนเมือง เตรียมขึ้นศาล 9 กันยายนนี้
ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความสนใจอย่างกว้างขวาง เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เดินทางกลับสู่มาตุภูมิอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่าเขาได้ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 เดินทางจากดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) แวะพักที่สิงคโปร์ ก่อนบินตรงมายังสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยได้ลงจอดเมื่อเวลา 14.54 น. ของวันที่ 8 กันยายน 2568
ข้อมูลการบินระบุว่า เที่ยวบินหมายเลข T7GTS ของเครื่องบิน Bombardier Global 7500 ได้ออกเดินทางจาก ดูไบ ในเวลา 21.00 น. ของวันที่ 7 กันยายน จากนั้นได้มุ่งหน้าไปยัง สิงคโปร์ เพื่อแวะพัก ก่อนบินต่อเข้าสู่ประเทศไทย
สนามบินปลายทาง: Mjet สนามบินดอนเมือง
เวลาลงจอดจริง: 14.54 น.
จำนวนผู้โดยสารบนเครื่อง: 5 คน
จำนวนลูกเรือ: 3 คน
รวมทั้งหมด: 8 คน
แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้โดยสารบนเครื่องอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าหนึ่งในนั้นคือ นายทักษิณ ชินวัตร และบุคคลใกล้ชิดที่ร่วมเดินทางกลับมาด้วย
เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวรุ่น Bombardier Global 7500 ถือเป็นหนึ่งในเจ็ตหรูที่ทันสมัยและทรงพลังที่สุดในโลก
ความเร็วสูงสุด: Mach 0.925 (ประมาณ 1,142 กม./ชม.)
ระยะทางบินไกลสุด: 14,260 กิโลเมตร สามารถบินตรงข้ามทวีปได้โดยไม่ต้องหยุดเติมน้ำมัน
ห้องโดยสาร: หรูหรา 4 โซน มีห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องนอน และห้องทำงาน
ราคาโดยประมาณ: มากกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,500 ล้านบาท)
การเลือกใช้เครื่องบินรุ่นนี้สะท้อนถึง ความพร้อมและความสะดวกสบายในการเดินทางระยะไกล รวมทั้งเป็นการยืนยันถึงสถานะทางเศรษฐกิจของนายทักษิณที่ยังคงมั่นคงและทรงอิทธิพล
การเดินทางกลับมาของอดีตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ได้รับความสนใจจาก สื่อมวลชนและสังคมออนไลน์ อย่างกว้างขวาง
ที่สนามบินดอนเมืองมีการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด
สื่อหลายสำนักเกาะติดสถานการณ์ตลอดทั้งวัน
มีการคาดการณ์ว่าจะมีผู้สนับสนุนบางส่วนเดินทางมารอ แต่ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด
ทั้งนี้ การกลับมาของทักษิณถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่หลายฝ่ายกำลังจับตา
รายงานล่าสุดระบุว่า นายทักษิณมีกำหนดจะ ขึ้นศาลในวันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ชั้น 14 เกี่ยวกับ คดีโรงพยาบาลตำรวจ
แม้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ แต่เป็นที่ทราบกันดีว่า นายทักษิณเคยมีคดีความหลายกรณีที่ยังอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งการเดินทางกลับมาครั้งนี้อาจมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ การเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและการเมือง
ปฏิกิริยาจากสังคมและการเมือง
การกลับมาของนายทักษิณสร้างเสียงสะท้อนหลากหลาย
1. ฝ่ายสนับสนุน: มองว่านี่เป็นโอกาสดีที่อดีตนายกรัฐมนตรีผู้มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจไทยจะกลับมา และอาจมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศในอนาคต
2. ฝ่ายตรงข้าม: แสดงความกังวลว่าการกลับมาของเขาจะก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมทางการเมือง และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งรอบใหม่
3. ประชาชนทั่วไป: บางส่วนจับตาด้วยความสนใจ โดยเฉพาะประเด็นการดำเนินคดีในศาลว่าจะมีผลต่ออนาคตของทักษิณอย่างไร
การเดินทางกลับไทยของทักษิณครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของ การกลับบ้านหลังจากอยู่นอกประเทศมานาน แต่ยังมีความหมายเชิงการเมืองอย่างลึกซึ้ง
เป็นการยืนยันว่าเขายังมี อิทธิพลและฐานมวลชนจำนวนมาก
อาจเกี่ยวข้องกับ การจัดสมดุลทางการเมืองภายในประเทศ
มีนัยสำคัญต่อ อนาคตของพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับตระกูลชินวัตร
หลายฝ่ายมองว่า เหตุการณ์นี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลและทิศทางทางการเมืองในอนาคต
สิ่งที่ต้องจับตาต่อไป
1. กระบวนการทางกฎหมาย – ศาลจะมีคำตัดสินอย่างไรในคดีโรงพยาบาลตำรวจ
2. ท่าทีของฝ่ายการเมือง – พรรคการเมืองต่างๆ จะมีท่าทีอย่างไรต่อการกลับมาของเขา
3. แรงกระเพื่อมจากประชาชน – กลุ่มผู้สนับสนุนและผู้ต่อต้านจะเคลื่อนไหวหรือไม่
4. ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการลงทุน – นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติอาจจับตาเสถียรภาพทางการเมืองที่จะเกิดขึ้น
การเดินทางกลับมาของ ทักษิณ ชินวัตร ด้วยเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 และการลงจอดที่สนามบินดอนเมืองในวันที่ 8 กันยายน 2568 ถือเป็นเหตุการณ์ที่มี นัยสำคัญทางการเมืองและสังคม อย่างยิ่ง
ขณะที่เขามีกำหนดจะขึ้นศาลในวันที่ 9 กันยายนนี้ คำถามใหญ่ที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอคือ อนาคตของทักษิณจะเป็นอย่างไรต่อไป?และการกลับมาครั้งนี้จะเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยหรือไม่






















