เดือด! "ฟาโรห์" แฟน ส.ส.หมิว สิริลภัส สวนกลับ "คำผกา" ปมบูลลี่โรคซึมเศร้า
ไม่ขอทน! ฟาโรห์ แฟน หมิว สิริลภัส ส.ส.พรรคประชาชน เดือด โต้กลับ “คำผกา” ปมบูลลี่โรคซึมเศร้า ลั่น “นี่ไม่ใช่เรื่องตลก”
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โลกออนไลน์เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อน หลังเกิดดราม่าครั้งใหญ่ในวงการการเมืองและสื่อ เมื่อ แขก – คำผกา (ลักขณา ปันวิชัย) พิธีกรชื่อดัง ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนัก กรณีใช้ถ้อยคำและกิริยาที่ถูกมองว่า “บูลลี่โรคซึมเศร้า” ในระหว่างการพูดถึง หมิว – สิริลภัส กองตระการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน
ประเด็นนี้ทวีความร้อนแรงอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่เพียงแค่ ส.ส.หมิว ออกมาโพสต์ข้อความตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา แต่แฟนหนุ่มของเธออย่าง ฟาโรห์ – เดชภณ ค่าสีแก้ว เจ้าของช่องยูทูบ The Common Thread ก็ได้ออกมาโพสต์คลิปยาวกว่า 3 นาทีครึ่ง เพื่อตอกกลับคำผกาอย่างดุเดือด พร้อมยืนยันว่า “โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องตลก”
จุดเริ่มต้นของดราม่า: คำผกาพูด “บูลลี่ซึมเศร้า” กลางรายการ
เรื่องราวเริ่มต้นจากการอภิปรายในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการโหวตนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา โดยในระหว่างนั้น หมิว สิริลภัส ได้ลุกขึ้นอภิปรายถึงปัญหาการจัดสรรงบประมาณด้านสุขภาพจิตของประเทศไทย ซึ่งเธอเล่าด้วยอารมณ์สะเทือนใจจนมีน้ำตาคลอ
ต่อมาในรายการหนึ่งที่คำผกาทำหน้าที่พิธีกร มีการพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าว แต่แทนที่จะสะท้อนมุมมองเชิงสร้างสรรค์ กลับกลายเป็นว่า คำผกาได้ พูดล้อเลียน บูลลี่ และใช้ถ้อยคำที่ทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่าเธอกำลังมองโรคซึมเศร้าเป็นเรื่องขำขัน
สิ่งที่สร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ชมคือ ในขณะที่คำผกาพูดด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน พิธีกรร่วมอีก 2 คนที่อยู่ในรายการก็ไม่มีใครออกมาห้ามปรามหรือแก้ไขบรรยากาศ ซึ่งทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ “ขาดความรับผิดชอบทางสังคม”
การตอบกลับของ “หมิว สิริลภัส”: ชัดเจนและตรงประเด็น
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในโลกออนไลน์ หมิว สิริลภัส ได้ออกมาเคลื่อนไหวทันที โดยเธอแชร์โพสต์ของนักวิชาการชื่อดัง ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ และเขียนข้อความตอบกลับคำผกาอย่างเผ็ดร้อนว่า
“คนแบบนี้เข็น ขุด ยังไง ก็ขึ้นมาจากตมไม่ได้หรอกค่ะ อยากจะด่ายังไงก็ตามใจ แต่ อย่าลืมว่าหมิวไม่ได้เป็นสนามอารมณ์ของคนแบบนี้ อย่าคิดว่าโยนหินมาแล้วจะได้ดอกไม้กลับ แสดงมันออกมาเยอะ ๆ ก็ดีแล้วค่ะ คนเขาจะได้รู้ว่าเนื้อแท้เขาเป็นคนยังไง”
ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ต่อไปอย่างกว้างขวาง และได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคซึมเศร้าและครอบครัว ที่มองว่าการล้อเลียนปัญหาสุขภาพจิตไม่ควรถูกทำให้เป็นเรื่องบันเทิง
ฟาโรห์ แฟนหนุ่ม หมิว สิริลภัส ออกโรงปกป้อง: “โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องตลก”
ไม่เพียงแค่หมิวที่ออกมาโต้กลับด้วยตัวเอง แต่แฟนหนุ่มของเธอ ฟาโรห์ เดชภณ ก็ได้ออกมาโพสต์คลิปยาว 3 นาทีครึ่ง ผ่านช่องติ๊กต๊อก @thecommonthread โดยเขาได้กล่าวถึงความรู้สึกในฐานะคนรักว่า
“วันที่แฟนผมร้องไห้ในสภาคือวันที่เธออภิปรายถึงความเจ็บปวดของงบประมาณการจัดการสุขภาพจิตของคนไทยที่มันต่ำเตี้ยจนน่าใจหาย สวนทางกับอัตราการจากโลกนี้ไปของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน”
เขาย้ำอย่างชัดเจนว่า “การเจ็บป่วยด้วยโรคสุขภาพจิตไม่ใช่สิ่งที่ใครสมควรนำมาล้อเลียนหรือหัวเราะ” เพราะนั่นคือความทุกข์ทรมานที่ผู้ป่วยและครอบครัวต้องเผชิญในชีวิตจริง
“การที่ใครสักคนเจ็บป่วยด้วยโรคสุขภาพทางจิต มันไม่ใช่เรื่องตลก มันไม่ใช่สิ่งที่ใครสมควรเอามาเมคฟัน... ในวันนี้คุณยังเป็นพิธีกรที่ดีไม่ได้ ขออย่างน้อยที่สุดเป็นมนุษย์ที่ไม่หัวเราะกับความทุกข์ทรมานของคนอื่นให้ได้ก่อน”
คำพูดนี้ของฟาโรห์กลายเป็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง และได้รับการแชร์ต่อจำนวนมากในโลกออนไลน์
สังคมตั้งคำถาม: เสรีภาพในการแสดงออก vs ความรับผิดชอบต่อสังคม
ดราม่าครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นใหญ่ที่สังคมไทยกำลังเผชิญ นั่นคือ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ของสื่อและบุคคลสาธารณะ เทียบกับ ความรับผิดชอบต่อสังคม
ฝ่ายที่เห็นด้วยกับหมิวและฟาโรห์ มองว่า การพูดล้อเลียนโรคซึมเศร้าเป็นการ ซ้ำเติมผู้ป่วย และทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสังคม
ขณะที่บางคนอาจมองว่า คำผกามีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น แต่สิทธิใด ๆ ก็ควรต้องอยู่บนพื้นฐานของ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และไม่ทำร้ายกลุ่มเปราะบาง
ทำไมการบูลลี่โรคซึมเศร้าจึงเป็นเรื่องอันตราย?
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหลายคนเคยเตือนว่า “การล้อเล่นกับโรคซึมเศร้า” อาจนำไปสู่ผลกระทบที่ร้ายแรงกว่าที่คิด
1. ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกด้อยค่า: ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ามักต่อสู้กับความรู้สึกไร้ค่าอยู่แล้ว การถูกล้อเลียนซ้ำเติมอาจทำให้ความรู้สึกนั้นรุนแรงขึ้น
2. สร้างทัศนคติผิด ๆ ในสังคม: คนทั่วไปอาจเข้าใจว่าโรคซึมเศร้าเป็นแค่การ “งอแง” หรือ “อ่อนแอ” ทั้งที่จริงแล้วเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษา
3. เสี่ยงต่อการตัดสินใจสุดท้ายของผู้ป่วย: มีสถิติทั่วโลกที่ระบุว่าโรคซึมเศร้าเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย
เสียงสะท้อนจากโซเชียล: ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับคำผกา
เมื่อคลิปคำผกาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เสียงส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วย และมองว่าเป็นการแสดงออกที่ขาดความละเอียดอ่อน โดยความคิดเห็นที่ถูกแชร์มาก เช่น
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลก การบูลลี่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าเหมือนซ้ำเติมบาดแผลในใจเขา”
“พิธีกรควรมีจรรยาบรรณมากกว่านี้”
“ขอบคุณหมิวและแฟนที่ออกมาพูดแทนผู้ป่วยหลายคน”
บทสรุป
ดราม่าครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงความขัดแย้งระหว่างบุคคล แต่ยังตอกย้ำถึง ความท้าทายของสังคมไทยในการพูดคุยเรื่องสุขภาพจิต ว่าควรจะเป็นเรื่องที่ได้รับความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ มากกว่าที่จะถูกทำให้เป็นเพียงมุกตลก
การออกมาพูดอย่างตรงไปตรงมาของ หมิว สิริลภัส และการปกป้องของ ฟาโรห์ เดชภณ ทำให้สังคมหันมาจับตาและตั้งคำถามต่อวงการสื่อว่า ถึงเวลาหรือยังที่ต้องยกระดับมาตรฐานการนำเสนอเรื่องสุขภาพจิตในที่สาธารณะ
สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาจเป็นบทเรียนสำคัญ ที่ทำให้คนไทยตระหนักมากขึ้นว่า โรคซึมเศร้าไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ใช่เรื่องตลก

















