ดาราช่อง 3 เริ่มจากศูนย์! สอบติดหมอจุฬา ด้วยความตั้งใจไม่ย่อท้อ
อู๋ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล จากนักแสดงช่อง 3 สู่เส้นทางแพทย์จริงที่จุฬาฯ: ก้าวใหม่ของวัย 23 ปี
หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตากับ อู๋ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล นักแสดงช่อง 3 ที่หลายครั้งเราเห็นเขาใส่เสื้อกาวน์บนจอละคร รับบทหมอ แต่ล่าสุดหนุ่มอู๋ได้สร้างความฮือฮาให้กับแฟน ๆ และวงการบันเทิงอีกครั้ง เพราะ ไม่ได้เป็นหมอแค่ในละครอีกต่อไป แต่กำลังจะกลายเป็น แพทย์ตัวจริง หลังจากสอบติด คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 4 กันยายน 2568 อู๋ได้โพสต์ภาพตัวเองในชุดเสื้อกาวน์ พร้อมแคปชั่นสั้นแต่ทรงพลังว่า
"ไม่ได้เป็นหมอแค่ในละครแล้วน้าาา จะเป็นหมอจริงๆ แล้ว"
โพสต์นี้สร้างความดีใจให้กับเพื่อนในวงการและแฟนคลับเป็นอย่างมาก มีคนเข้ามาแสดงความยินดีมากมาย ทั้งคอมเมนต์แบบตลกขบขันและซาบซึ้ง เช่น
"คุณหมอ หล่อเกินไป"
"เก่งมากคับอู่"
"หล่อ ฉลาด ใจบุญ"
การก้าวจาก นักแสดงช่อง 3 ที่จบจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มาสู่เส้นทางแพทย์ เป็นสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง แต่ความมุ่งมั่นและความตั้งใจของอู๋ ทำให้เขาก้าวขึ้นมาบนเส้นทางใหม่ที่ท้าทายและเต็มไปด้วยความหวัง
เส้นทางสู่แพทย์อินเตอร์ จุฬาฯ (CU-MEDi)
สิ่งที่น่าสนใจคือ อู๋ไม่ได้เรียนแพทย์ทั่วไป แต่สอบติด หลักสูตรแพทย์นานาชาติ (CU-MEDi) ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีปริญญาตรีจากสายอื่น ๆ สามารถเรียนต่อแพทย์ได้ โดยหลักสูตรนี้เน้นการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สัมผัสทั้งด้านวิชาการและการปฏิบัติทางการแพทย์แบบสากล
การเข้าสู่หลักสูตรนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องสอบแข่งขันสูงและมี พื้นฐานวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ (Science) ที่เข้มข้น ซึ่งอู๋มาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ เริ่มต้นจากศูนย์ จึงถือเป็น ความสำเร็จที่ไม่ธรรมดา
นอกจากความมุ่งมั่น อู๋ยังต้องใช้เวลา เรียนและเตรียมตัวอย่างเข้มข้น ก่อนสอบเข้าแพทย์นานาชาติ โดยค่าเทอมรวมตลอด 4 ปีอยู่ที่ประมาณ 4.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูง แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่เขาฝันไว้
แรงสนับสนุนจากเพื่อนและครอบครัว
อู๋โพสต์ข้อความขอบคุณทุกคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้อย่างอบอุ่นและซาบซึ้งใจ โดยเฉพาะเพื่อนร่วมงานและคนใกล้ชิดที่ช่วยสนับสนุนเขาตลอดเส้นทาง
เขาโพสต์ว่า
"ขอบคุณช่อง 3 ที่ให้โอกาสได้ทำงานมาตลอด 13 ปี ได้มีโอกาสเรียนรู้ผู้คน ได้รู้จักตัวเอง ขอบพระคุณพี่ดิวที่สมรักษ์ พี่แหม่ม ที่ดูแลและให้ละครอู๋เล่นมาตลอดที่อยู่ช่อง 3 แล้วก็ช่วยเขียน LOR ส่งคณะแพทย์ด้วยนะครับ"
นอกจากนี้เขายังกล่าวถึงเพื่อนบิวที่เป็น สายแรกที่โทรไปบอกว่า 'มึงกูจะสอบหมอ' และช่วยหาครูมาสอนติวให้ เนื่องจากเขาไม่มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์มาก่อน เป็นการเริ่มต้นจากศูนย์อย่างแท้จริง
เพื่อนอีกคนที่มีบทบาทสำคัญคือ พราว @rujee_k ที่แนะนำเพื่อนอีกคนชื่อ คริสตี้ @christysrithawong มาช่วยแนะนำและให้คำปรึกษาตลอดเส้นทางการเตรียมตัวสอบ
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเบื้องหลังความสำเร็จของอู๋ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงคนเดียว แต่เกิดจาก การสนับสนุนและแรงใจจากเครือข่ายคนรอบข้าง
อู๋ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล: ประวัติและผลงาน
เพื่อให้แฟน ๆ และผู้อ่านได้รู้จักตัวตนของอู๋มากขึ้น ขอสรุปประวัติและผลงานดังนี้
ชื่อเต็ม: สมิทธิ ลิขิตมาศกุล
ชื่อเล่น: อู๋
อายุ: 23 ปี
น้ำหนัก/ส่วนสูง: 71 กิโลกรัม / 184 เซนติเมตร
การศึกษา: ปริญญาตรี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ความสามารถพิเศษ: เล่นเปียโน, สมาชิกวงดนตรีบอยแบนด์ The Fins
ผลงาน: ถ่ายแบบ, เดินแบบ, ถ่ายโฆษณา
ผลงานโฆษณา: ธนาคารไทยพาณิชย์, มาม่า, Mitsubishi, Modernform, Terminal21, True3G, ฟาร์มาตอน
อู๋มีประวัติการทำงานในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ทำให้เขามีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แต่การตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางแพทย์แสดงให้เห็นถึง ความตั้งใจจริงในการพัฒนาตัวเองและช่วยเหลือสังคม
ความท้าทายและการเริ่มต้นใหม่
การเริ่มเรียนแพทย์หลังจากมีปริญญาตรีและมีผลงานในวงการบันเทิงไม่ใช่เรื่องง่าย การเรียนแพทย์ต้องใช้ทั้งความอดทน ความขยัน และความเข้าใจเชิงวิชาการสูง
อู๋เริ่มต้นจาก ศูนย์ทางด้านวิทยาศาสตร์ ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ ไปจนถึงวิชาการแพทย์ขั้นพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับใครที่เคยเรียนคณะอื่น
นอกจากนี้ การเรียนในหลักสูตร แพทย์นานาชาติ CU-MEDi ยังต้องเรียนภาษาอังกฤษอย่างเข้มข้น และมีการฝึกปฏิบัติจริงในโรงพยาบาล ทำให้อู๋ต้องปรับตัวทั้งเรื่องเวลาและการใช้ชีวิตประจำวัน
ความมุ่งมั่นเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
อู๋กล่าวถึงความตั้งใจของเขาว่า หลังจากนี้จะใช้ ความรู้ ความสามารถช่วยเหลือคนอื่น อย่างเต็มที่ และขอให้แฟน ๆ เป็นกำลังใจให้กับนิสิตแพทย์คนนี้
เส้นทางของเขาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่หลาย ๆ คน ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพหรือทำตามความฝัน แม้จะเริ่มช้ากว่าเพื่อน ๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความพยายาม และการสนับสนุนจากครอบครัว เพื่อน และครูบาอาจารย์ ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
สรุป
เรื่องราวของ อู๋ สมิทธิ ลิขิตมาศกุล เป็นตัวอย่างของการ ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเอง จากนักแสดงสู่เส้นทางแพทย์จริง เป็นการยืนยันว่า ความฝันไม่จำกัดสายอาชีพ และทุกความพยายามจะนำไปสู่ความสำเร็จ
แฟน ๆ และผู้ติดตามต่างเฝ้ารอการเรียนแพทย์ของอู๋อย่างใกล้ชิด และคาดหวังว่าเขาจะใช้ความรู้ช่วยเหลือผู้ป่วยและสังคมในอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจ เส้นทางของอู๋คือหนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ความพยายาม ความมุ่งมั่น และแรงสนับสนุนจากรอบข้าง จะช่วยให้ฝันเป็นจริงได้เสมอ








