ไม่ไปสิงคโปร์แล้ว “ทักษิณ” บินเลี้ยวไปดูไบด้วยเครื่องส่วนตัว
นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ พร้อมครอบครัว ข้อมูลล่าสุดเผยเส้นทางบินเปลี่ยนจุดหมายปลายทาง
วันที่ 4 กันยายน 2568 ที่อาคารผู้โดยสาร อากาศยานส่วนบุคคล (MJets) ท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเตรียมเดินทางออกนอกประเทศ โดยมีปลายทางเบื้องต้นระบุว่าเป็น ประเทศสิงคโปร์
ตามข้อมูลที่ได้รับ ผู้ร่วมเดินทางมีทั้งหมด 5 คน สำหรับเที่ยวบินไป-กลับ โดยแจ้งว่าจะกลับในวันที่ 5 กันยายน 2568
รายละเอียดเครื่องบินเจ็ตและการจัดการเดินทาง
เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวที่นายทักษิณใช้เป็นรุ่น Bombardier Global 7500 ซึ่งถือเป็นเครื่องบินเจ็ตลำใหญ่และทันสมัย สามารถเดินทางระยะไกลและให้ความสะดวกสบายสูงสุดในการเดินทางระหว่างประเทศ
จากข้อมูลที่ได้รับการยืนยัน นายทักษิณเดินทางไป ประเทศสิงคโปร์ เพื่อทำธุระส่วนตัวพร้อมครอบครัวจำนวน 5 คน ซึ่งมี น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรสาวรวมอยู่ด้วย
ก่อนการเดินทาง นายทักษิณได้ ขออนุญาตออกนอกประเทศในคดีชั้น 14 และได้ยื่นเอกสารกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เรียบร้อยแล้ว การขออนุญาตดังกล่าวเป็นไปตามข้อกำหนดของศาล เพื่อให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีการยืนยันว่าผู้โดยสารทั้งหมดมีแผนจะเดินทางกลับในวันที่ 5 กันยายน 2568 เนื่องจากต้องรอฟังคำพิพากษาในคดีชั้น 14 วันที่ 9 กันยายน 2568
ข้อมูลล่าสุดจาก FLIGHTRADAR24
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลล่าสุดจาก FLIGHTRADAR24 เผยว่า เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของนายทักษิณ ไม่ได้บินไปยังสิงคโปร์ตามที่ระบุไว้
เมื่อเวลา 21.09 น. เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 GL7T ของนายทักษิณ บินผ่านน่านฟ้าสากล กำลังออกจากทะเลอันดามัน ผ่านทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา มุ่งหน้าผ่านหมู่เกาะอันดามันและหมู่เกาะนิโคบาร์ของประเทศอินเดีย กลางมหาสมุทรอินเดีย
จากเส้นทางบินดังกล่าว คาดว่าจุดหมายปลายทางที่แท้จริงอาจเป็น เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แทนสิงคโปร์
การเดินทางและข้อสังเกต
การเปลี่ยนเส้นทางบินของเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่สร้างความสนใจอย่างมาก เนื่องจากอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ และการเคลื่อนไหวในต่างประเทศมักถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด
เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวช่วยให้ผู้โดยสารสามารถ กำหนดเวลาและเส้นทางการเดินทางได้เอง ทำให้มีความยืดหยุ่นสูงสุดในการเดินทางธุระส่วนตัวหรือครอบครัว
นอกจากนี้ การเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตยังช่วยให้ ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และสามารถควบคุมเวลาเดินทางได้ตามกำหนดการของตัวเอง
บริบททางกฎหมายและคดีความ
การเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณมีความเกี่ยวข้องกับ คดีมาตรา 112 ที่อยู่ในชั้นพิจารณาคดีศาลอาญา การอนุญาตให้อดีตนายกรัฐมนตรีเดินทางออกนอกประเทศ เป็นไปตามข้อกำหนดของศาล โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์
ศาลได้วางเงื่อนไขและกำหนดมาตรการเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่าง ถูกต้องตามกฎหมาย โดยก่อนเดินทาง นายทักษิณและครอบครัวต้องยื่นเอกสารขออนุญาตต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และได้รับการประทับตราอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ หลังจากศาลมีคำพิพากษา ทนายความของนายทักษิณสามารถนำเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตเดินทางกลับมาดำเนินการต่อได้ ทำให้การเดินทางครั้งนี้สามารถทำได้ อย่างโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย
ความสนใจของสังคมและสื่อมวลชน
ทันทีที่มีรายงานการเดินทางข่าวนี้ ถูกแชร์และพูดถึงใน โซเชียลมีเดียและสื่อข่าวออนไลน์ อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเรื่องของบุคคลสาธารณะและเกี่ยวข้องกับคดีความที่สังคมให้ความสนใจ
หนึ่งในประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ คือ การร่วมเดินทางของ บุตรสาวคนโต พินทองทา คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนความใกล้ชิดของครอบครัว
นอกจากนี้ การเปลี่ยนเส้นทางบินและการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสร้างความสงสัยว่า จุดหมายปลายทางที่แท้จริงของการเดินทางอาจแตกต่างจากที่ประกาศไว้
บทสรุป
สรุปได้ว่า การเดินทางของ นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 เป็นการเดินทาง ออกนอกประเทศพร้อมครอบครัว 5 คน เพื่อทำธุระส่วนตัว โดยมี บุตรสาวคนโต พินทองทา คุณากรวงศ์ ร่วมเดินทางด้วย
แม้ในช่วงแรกจะมีรายงานว่า ปลายทางคือสิงคโปร์ แต่ข้อมูลล่าสุดจาก FLIGHTRADAR24 ชี้ให้เห็นว่าเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี เปลี่ยนเส้นทางบิน ผ่านน่านฟ้าสากลเหนือทะเลอันดามัน มุ่งหน้าไปทางหมู่เกาะของอินเดียและมหาสมุทรอินเดีย คาดจุดหมายปลายทางอาจเป็น ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การเดินทางครั้งนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของศาลและได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสะท้อนถึงการจัดการชีวิตส่วนตัวของบุคคลสาธารณะ และยังสร้างความสนใจอย่างมากทั้งจากสื่อมวลชนและประชาชน




