ชี้ชัด! ทักษิณ เดินทางสิงคโปร์ ใครไปด้วย ยืนยันกลับไทยแน่ไม่หนี
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกนอกประเทศ พร้อมครอบครัว เตรียมทำธุระส่วนตัวที่สิงคโปร์
วันที่ 4 กันยายน 2568 เวลา 17.10 น. ที่อาคารผู้โดยสาร อากาศยานส่วนบุคคล (MJets) ท่าอากาศยานดอนเมือง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวเตรียมเดินทางไปต่างประเทศ โดยมีจุดหมายปลายทางเบื้องต้นที่ประเทศสิงคโปร์
ตามข้อมูลที่ได้รับแจ้ง ผู้ร่วมเดินทางมีทั้งหมด 3 คนสำหรับเที่ยวบินแรก และมีแผนจะเดินทางกลับในวันถัดไป คือวันที่ 5 กันยายน 2568
รถยนต์หรูและการเคลื่อนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี
ต่อมาเวลา 19.20 น. รถยนต์หรู Mercedes-Maybach ทะเบียน พร 195 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถที่นายทักษิณเคยใช้ในการไปศาลอาญา ในการส่งฟ้องคดี มาตรา 112 เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา และยังเป็นรถที่ใช้เข้าไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทย ขับออกจากท่าอากาศยานดอนเมือง
การเคลื่อนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรีและครอบครัวถูกติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นบุคคลสาธารณะและเคยมีคดีความสำคัญที่สังคมให้ความสนใจ
รายละเอียดการเดินทางและผู้ร่วมเดินทาง
แหล่งข่าวยืนยันว่า นายทักษิณ เดินทางไปประเทศสิงคโปร์เพื่อทำธุระส่วนตัว พร้อมครอบครัวจำนวน 5 คน ซึ่ง มี น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ บุตรสาวรวมอยู่ด้วย
ผู้สื่อข่าวระบุว่า ก่อนเดินทาง นายทักษิณได้ ขออนุญาตออกนอกประเทศในคดีชั้น 14 และได้ยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ มีการยืนยันว่าจะกลับในวันที่ 5 กันยายน 2568 ช่วงบ่าย เพราะต้องรอฟังคำพิพากษาในคดีชั้น 14 ซึ่งจะมีการอ่านคำพิพากษาในวันที่ 9 กันยายนนี้
การอนุญาตออกนอกประเทศตามข้อกำหนดของศาล
ทาง เนชั่นทีวี รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวในศาลยุติธรรมว่า เมื่อศาลอาญามีคำพิพากษา ยกฟ้องนายทักษิณ ในคดีมาตรา 112 โดยไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์ การเดินทางออกนอกประเทศของอดีตนายกรัฐมนตรีถือเป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมาย
ตามข้อกำหนดของศาลในระหว่างพิจารณา หากไม่มีการสั่งขัง สามารถทำเรื่องขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศได้ โดยหลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ทนายความของนายทักษิณสามารถนำเอกสารเกี่ยวกับการอนุญาตการเดินทางออกนอกประเทศกลับมาดำเนินการต่อได้ทันที
ความสำคัญของการเดินทางครั้งนี้
การเดินทางครั้งนี้ของอดีตนายกรัฐมนตรีได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนและประชาชนอย่างมาก ไม่เพียงเพราะอดีตนายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสาธารณะ แต่ยังมีประเด็นเกี่ยวข้องกับ คดีความและการตรวจสอบการใช้สิทธิ์ออกนอกประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ
นอกจากนี้ การเดินทางยังถูกจับตามองเพราะมี บุตรสาวคนโตรวมอยู่ในเครื่องบินด้วย ซึ่งสะท้อนภาพของครอบครัวและความใกล้ชิดในชีวิตส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี
ข้อสังเกตเกี่ยวกับเส้นทางและการจัดการเดินทาง
การใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวสำหรับเดินทางต่างประเทศของนายทักษิณ เป็นสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว โดยสามารถกำหนดเวลาและเส้นทางเองได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการเดินทางเพื่อทำธุระส่วนตัวหรือครอบครัว
เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวยังช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทางสำหรับบุคคลสาธารณะ อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนตัวได้รวดเร็วตามกำหนดการที่ต้องการ
กระแสข่าวและความสนใจของสังคม
ทันทีที่มีรายงานการเดินทางของนายทักษิณ ข่าวนี้ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชนออนไลน์อย่างรวดเร็ว มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในแง่การเมืองและชีวิตส่วนตัวของอดีตนายกรัฐมนตรี
หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงคือ บุตรสาวร่วมเดินทางไปด้วยหรือไม่ ซึ่งจากการยืนยันของสื่อและเอกสารที่ยื่นต่อเจ้าหน้าที่ ตม. พบว่าการเดินทางเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย และมีการอนุญาตอย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ การเดินทางยังสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นปัจเจกบุคคลของอดีตนายกรัฐมนตรีที่สามารถจัดการเรื่องส่วนตัวได้ด้วยตัวเอง
การจัดการกับคดีและการเดินทางออกนอกประเทศ
การเดินทางของอดีตนายกรัฐมนตรีครั้งนี้มีความเกี่ยวข้องกับ คดีมาตรา 112 ซึ่งเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก
การยกฟ้องของศาลอาญาในคดีนี้และการไม่ได้สั่งขังระหว่างอุทธรณ์ทำให้สามารถ ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศได้ ตามข้อกำหนดของศาล นอกจากนี้ ทนายความยังสามารถนำเอกสารเกี่ยวกับการเดินทางออกนอกประเทศกลับมาดำเนินการตามขั้นตอนของศาลได้อย่างถูกต้อง
บทสรุป
สรุปได้ว่า การเดินทางของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2568 เป็นการเดินทางไปทำธุระส่วนตัวที่ประเทศสิงคโปร์ พร้อมครอบครัวจำนวน 5 คน รวมถึง บุตรสาวคนโต พินทองทา คุณากรวงศ์ การเดินทางดำเนินไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีการยื่นเอกสารต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ
เหตุการณ์นี้ยังเป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึง การบริหารจัดการชีวิตส่วนตัวของบุคคลสาธารณะ การเดินทางออกนอกประเทศในช่วงที่สังคมให้ความสนใจ ทำให้เกิดการจับตามองอย่างใกล้ชิดทั้งจากสื่อมวลชนและประชาชน
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวและการจัดการเรื่องการเดินทางอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดของศาลยังช่วยสร้างความมั่นใจว่าทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างโปร่งใสและถูกต้องตามกฎหมาย


















