กัน จอมพลัง เดือด! ถูกเขมรขู่ทำร้ายลูกสาว โพสต์สวนแรง
ดราม่าระอุ! “กัน จอมพลัง” โพสต์เดือด ถูกขู่สังหารลูกสาววัย 2 ขวบ ปมปะทะดุเดือดไทย–กัมพูชา
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย–กัมพูชา กำลังทวีความเข้มข้น เมื่อ “กัน จอมพลัง” หรือ นายกัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ นักเคลื่อนไหวด้านสังคมที่มักออกมาแสดงจุดยืนชัดเจนในประเด็นสิทธิปวงชน ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่ามีการข่มขู่เอาชีวิต ลูกสาววัยเพียง 2 ขวบ ของตน โดยผู้ที่ขู่ดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นฝ่ายกัมพูชา
เขาเผยว่า มีการตัดต่อภาพลูกสาวของเขาในลักษณะที่สะเทือนใจ นำไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อสร้างแรงกดดันและหวังผลทางจิตวิทยา พร้อมท้าทายว่าเป็นการตอบโต้เพราะ “เขมรสู้ไม่ได้” จึงใช้วิธีการเล่นงานครอบครัวแทน
เนื้อหาที่กัน จอมพลัง โพสต์: ขู่เด็กไทยเพื่อแลกการเมือง?
กัน จอมพลัง ระบุข้อความสำคัญในโพสต์ว่า
“เขมรสู้ผมไม่ได้ จึงใช้วิธีการสกปรก ขู่สังหารลูกสาวผมซึ่งอายุเพียง 2 ขวบ และตัดต่อภาพว่าลูกผมถูกทำร้าย นำมาลงเป็นจำนวนมาก... ผมจึงขอตอบโต้บ้าง ใครพบเห็นขอทานเขมร และเขมรทำผิดกฎหมายในไทย แจ้งมาได้เลย ผมจะจัดการให้เต็มที่”
ข้อความดังกล่าวสะท้อนความไม่พอใจอย่างรุนแรง และกันยังเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นคนกัมพูชาที่กระทำผิดกฎหมายในไทย ให้รีบแจ้งเพื่อตนจะดำเนินการตามกฎหมาย
จากทุนการศึกษา สู่การข่มขู่ส่วนตัว
ก่อนหน้านี้ กัน จอมพลัง เคยออกมาโจมตีกรณี นักเรียนกัมพูชาที่ได้รับทุนจากเงินคนไทย แต่กลับไปเป็นทหารกัมพูชาและโพสต์ด่าประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของกระแสความไม่พอใจในสังคมไทย หลายคนเห็นด้วยกับเขาที่ว่า “เด็กไทยในชนบทจำนวนมากยังขาดโอกาส แต่เงินภาษีและเงินบริจาคกลับถูกใช้ไปกับนักเรียนต่างชาติ”
แต่ล่าสุดเรื่องราวได้ยกระดับจาก การถกเถียงด้านการศึกษา ไปสู่ การข่มขู่ครอบครัวและลูกสาววัย 2 ขวบของกัน จอมพลัง ทำให้สถานการณ์ยิ่งดุเดือด และสร้างแรงสะเทือนใจให้กับประชาชนจำนวนมาก
การโจมตี “เด็ก 2 ขวบ” จุดที่สังคมรับไม่ได้
สิ่งที่ทำให้คนไทยจำนวนมากโกรธและวิจารณ์อย่างหนัก คือการที่ฝ่ายตรงข้ามเลือกใช้วิธีการข่มขู่เด็กที่ยังไร้เดียงสา
เด็กวัยเพียง 2 ขวบ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับความขัดแย้ง
การนำภาพเด็กมาตัดต่อและเผยแพร่ ถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
ในมุมมองทางสังคม วิธีการนี้ถูกมองว่าเป็นการกระทำที่ “ต่ำช้า” และไม่อาจยอมรับได้
ประเด็นนี้ทำให้กระแสสังคมเอนเอียงมาทางการปกป้องครอบครัวของกัน จอมพลัง และเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงเข้ามาดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
กัน จอมพลัง ตอบโต้: จะจัดการเขมรผิดกฎหมายในไทย
กันไม่เพียงแค่โพสต์ข้อความระบายความไม่พอใจ แต่ยังประกาศชัดว่า จะ ตอบโต้ด้วยการเข้มงวดต่อคนกัมพูชาที่ทำผิดกฎหมายในไทย โดยขอให้ประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเห็น “ขอทานเขมร” หรือแรงงานกัมพูชาที่กระทำผิด ให้รีบแจ้งเขาเพื่อจัดการ
ข้อความนี้ถูกตีความไปในสองทิศทาง
1. ฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่าเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีคนไทย และปกป้องครอบครัวจากการถูกข่มขู่
2. ฝ่ายที่กังวล กลัวว่าข้อความดังกล่าวอาจถูกใช้เป็นข้ออ้างในการก่อกระแสเกลียดชัง (Hate Speech) ต่อแรงงานกัมพูชาที่สุจริตและเข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายในไทย
คนไทยใจดีกับเด็กเขมร แต่เขมรตอบแทนด้วยการข่มขู่?
กัน จอมพลัง ยังได้วิจารณ์สังคมในประเด็นที่ว่า คนไทยจำนวนมากแสดงน้ำใจต่อเด็กกัมพูชา ไม่ว่าจะผ่านการบริจาค หรือแม้แต่การสนับสนุนทุนการศึกษา แต่กลับกัน เมื่อเป็นเด็กไทยที่ถูกข่มขู่ กลับเงียบเสียง
“ตอนเด็กเขมรถูกแตะ ทั้งที่พ่อแม่ทำผิดกฎหมาย คนไทยออกมาปกป้องกันใหญ่ แต่ตอนนี้เด็กไทยอายุเพียง 2 ขวบถูกขู่สังหาร กลับเงียบกริบ”
ข้อความนี้สร้างแรงกระเพื่อมในโลกออนไลน์ เพราะสะท้อนถึงความรู้สึก “สองมาตรฐาน” ที่กันมองเห็น และต้องการให้คนไทยหันมาใส่ใจความปลอดภัยของเด็กไทยไม่ต่างจากเด็กกัมพูชา
มุมมองด้านความมั่นคง: การข่มขู่ที่ไม่ควรถูกมองข้าม
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงบางรายออกมาเตือนว่า การข่มขู่เอาชีวิตลูกสาววัย 2 ขวบของกัน จอมพลัง แม้จะดูเหมือนการโจมตีส่วนบุคคล แต่ในเชิงลึกแล้วเป็น สงครามจิตวิทยา ที่อาจส่งผลต่อสังคมไทยโดยรวม
เป็นการสร้างความหวาดกลัว (Fear Tactic)
มีเป้าหมายเพื่อทำลายขวัญกำลังใจของผู้ที่ออกมาต่อต้าน
อาจบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับแรงงานกัมพูชาในระยะยาว
เสียงประชาชน: ปกป้องครอบครัว และทบทวนนโยบาย
ในโลกออนไลน์ มีเสียงประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงความเห็นใจต่อครอบครัวของกัน จอมพลัง โดยเฉพาะการปกป้องเด็กที่ยังไร้เดียงสา ขณะเดียวกัน หลายเสียงก็เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับ
การให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนกัมพูชา
การจัดการแรงงานต่างชาติในไทย
การป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติที่อาจใช้ครอบครัวเป็นเครื่องต่อรอง
บทเรียนที่ไทยต้องคิด
เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงแค่ดราม่าบุคคลหนึ่งกับกัมพูชา แต่ยังสะท้อนถึงปัญหาใหญ่ 3 ประการของไทย ได้แก่
1. ความเปราะบางด้านความมั่นคง – แม้แต่บุคคลสาธารณะก็ยังถูกข่มขู่ผ่านครอบครัว
2. นโยบายต่างชาติที่ย้อนศร – การให้โอกาสทางการศึกษาอาจกลับกลายเป็นการสร้าง “คู่แข่ง” หากขาดการติดตามผล
3. ความเป็นธรรมในสังคมไทย – เด็กไทยจำนวนมากยังขาดโอกาส ขณะที่ทุนและทรัพยากรถูกมอบให้ต่างชาติ
สรุป: สงครามจิตวิทยาที่ไม่ควรมองข้าม
กรณี “กัน จอมพลังถูกขู่สังหารลูกสาววัย 2 ขวบ” ไม่เพียงเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ยังสะท้อนถึงความตึงเครียดในความสัมพันธ์ไทย–กัมพูชา และตั้งคำถามต่อระบบนโยบายภายในของไทยเอง
สิ่งที่สังคมเรียกร้องคือ
การปกป้องสิทธิมนุษยชนของเด็กอย่างจริงจัง
การปรับท่าทีของรัฐบาลไทยต่อกัมพูชา
การทบทวนระบบทุนและการดูแลแรงงานต่างชาติ
ในท้ายที่สุด ไม่ว่าความขัดแย้งจะลงเอยอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือ การปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของเด็กที่ไร้เดียงสา ซึ่งไม่ควรถูกนำมาเป็นเครื่องมือในการต่อรองทางการเมืองหรือการแก้แค้นใดๆ
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
พฤติกรรมสระผมผิดวิธี เสี่ยงผมร่วง
รอยสักภาษาไทยคำว่า "อูบุนตู" บนแขนแฟนหนุ่มของ "นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์" แปลว่าอะไรกันนะ
หญิงชาวเคนยาขับรถชนคูเมืองเชียงใหม่ ในคืนลอยกระทง
หากเลิกบุหรี่วันนี้ หลังจากสูบบุหรี่มวนสุดท้าย 20 นาทีต่อมา ร่างกายจะดีขึ้นอย่างไรบ้าง
บอดี้การ์ดส่วนตัวของ "แองเจลินา โจลี" ถูกจับไปเป็นทหาร
กิจกรรมแก้เครียดตามกรุ๊ปเลือด
เคล็ดลับป้องกัน "ผิวแตก" ในฤดูหนาว
Social Media Detox สิ่งที่ควรทำเมื่อติดโซเชียลมากไป ปรับสมดุลฟื้นฟูสุขภาพจิต
ชาเขียวดีต่อสุขภาพผู้ชาย
นทท.ดื้อคำเตือน ปีนหน้าผาสูงพลาดตกเจ็บหนัก กู้ภัยกว่า 20 คน ช่วย 4 ชม.
🇻🇳 เวียดนามเตรียมรับมือ “คัลแมกี” ขึ้นฝั่งวันนี้! ชาวบ้านงัดภูมิปัญญาท้องถิ่น สู้พายุแรงด้วย “ถุงน้ำ-กระสอบทราย” ถ่วงหลังคา กันปลิวว่อน
ตร.ท่องเที่ยวกระบี่ระดมกำลังคุมเข้ม “เทศกาลลอยกระทง”
หลายพื้นที่ของกรุงพนมเปญถูกน้ำท่วม
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
ทำร้ายร่างกายไม่ใช่ปรับแค่ 500 บาท เปิดก่อนไม่ได้แปลว่าชนะ!





