อินฟลูดังเคลียร์ชัด ปมดราม่า “สั่งปูนิ่ม ได้เนื้อปู” ลั่นเตรียมดำเนินคดี
"เซญ่า กะทะร้อน" อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง เคลียร์ดราม่า "ปูนิ่มผัดผงกะหรี่" ยันไม่ใช่เรื่องกินฟรี พร้อมประกาศดำเนินคดีคนบิดเบือน
ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โลกโซเชียลเต็มไปด้วยกระแสร้อนแรงเกี่ยวกับกรณีดราม่า "ปูนิ่มผัดผงกะหรี่" ที่กลายเป็นประเด็นใหญ่โต จากการรีวิวร้านอาหารของอินฟลูเอนเซอร์สาวชื่อดังที่ใช้ชื่อว่า "เซญ่า กะทะร้อน" โดยเรื่องราวดังกล่าวเริ่มจากเหตุการณ์เล็ก ๆ อย่างการสั่งอาหาร แต่กลับกลายเป็นที่ถกเถียงและบานปลายจนหลายฝ่ายเข้าใจผิดไปว่าเธอต้องการ "กินฟรี"
ล่าสุด เซญ่า ได้ออกมาโพสต์ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว เพื่อเคลียร์ข้อเท็จจริงทั้งหมด พร้อมยืนยันชัดเจนว่า จุดสำคัญไม่ใช่เรื่องค่าอาหาร แต่คือความคลาดเคลื่อนระหว่างสิ่งที่เธอสั่งกับสิ่งที่ได้รับ รวมถึงการจัดการปัญหาของร้านที่ไม่ตรงใจเธอ พร้อมประกาศว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่นำเรื่องไปบิดเบือน
จุดเริ่มต้นของดราม่า
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเซญ่าไปทานอาหารที่ร้านอาหารเก่าแก่แห่งหนึ่งที่เธอเคยมีความทรงจำดี ๆ ร่วมกับครอบครัว เธอสั่งเมนู “ปูนิ่มผัดผงกะหรี่” ซึ่งเป็นเมนูที่ตั้งใจอยากทานและตั้งใจจะรีวิว แต่เมื่ออาหารมาถึง กลับพบว่าเป็น “ปูผัดผงกะหรี่ (เนื้อปูธรรมดา)”
เซญ่ามองว่านี่คือความผิดพลาดในการรับออเดอร์หรือการจัดการของร้าน แต่แทนที่ปัญหาจะถูกแก้ไขอย่างเหมาะสม กลับกลายเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ จนตัดสินใจนำเรื่องมาเล่าในโซเชียล ซึ่งกลายเป็นชนวนของดราม่าครั้งนี้
คำชี้แจงจาก "เซญ่า กะทะร้อน"
เซญ่าออกมาโพสต์ยาว ชี้แจงว่าเจตนาที่แท้จริงของเธอไม่ใช่การพยายามกินฟรีหรือทำให้ร้านเสียหาย แต่เธอต้องการเล่าประสบการณ์ตรง เพื่อสะท้อนถึงมาตรฐานการบริการของร้านอาหาร
เธอกล่าวว่า
เธอไปที่ร้านเพราะ อยากรีวิวบรรยากาศร้านเก่าแก่ ที่เคยไปกับครอบครัว และยังถ่ายคลิปตั้งแต่เดินเข้าไปจนถึงตอนชมบรรยากาศ
สิ่งที่ผิดพลาดคือ สั่ง “ปูนิ่ม” แต่ได้ “เนื้อปู” ซึ่งไม่ตรงกับสิ่งที่ตั้งใจ
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าอาหารผิดแล้วจะกินฟรี แต่เธอมองว่าการบริการควรมีการ จัดการที่เหมาะสม เช่น การเปลี่ยนจานใหม่ ลดราคา หรือเก็บจานผิดไป เพื่อความพึงพอใจของลูกค้า
เซญ่าอธิบายเพิ่มเติมว่า เดือน ๆ หนึ่งเธอออกไปทานอาหารนอกบ้านกว่า 20–30 ร้าน บางร้านอาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือ วิธีการรับผิดชอบของร้าน
ทำไมถึงเลือกที่จะถ่ายรีวิว
เซญ่าเปิดเผยว่า เธอถ่ายคลิปรีวิวร้านอาหารเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว และร้านนี้ก็เป็นร้านที่เธออยากนำเสนอเพราะมีความผูกพันตั้งแต่อดีต
“ทีแรกตั้งใจจะไปถ่ายรีวิวเพราะเป็นร้านที่เคยมาทานบ่อยสมัยก่อน อยากแนะนำให้ผู้ติดตามรู้จัก ยังมีคลิปที่ถ่ายตั้งแต่เดินเข้าร้านและชื่นชมบรรยากาศอยู่เลย ไม่ได้ตั้งใจจับผิดตั้งแต่แรก”
จากคำพูดนี้จะเห็นได้ว่า เจตนาของเธอไม่ได้หวังโจมตีร้านอาหาร แต่ต้องการสร้างคอนเทนต์บวก ๆ เสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกลายเป็นชนวนให้เกิดความเข้าใจผิด
มุมมองต่อการจัดการปัญหา
เซญ่าชี้ให้เห็นถึง มาตรฐานการจัดการความผิดพลาดในร้านอาหาร ว่าที่ผ่านมาเธอเคยเจอร้านที่เสิร์ฟผิด แต่ร้านจะเก็บจานทันทีและแก้ไขให้ใหม่ โดยไม่สนใจว่าลูกค้าทานไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
“การที่หยุดทาน เพราะเราเคยเจอกรณีแบบนี้ ร้านอื่นเขาจะเก็บจานที่เสิร์ฟผิดมาทันที แล้วไปแก้ปัญหาหลังบ้านเอง ไม่ได้โยนให้ลูกค้าต้องลำบากใจ”
คำชี้แจงนี้สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งที่เธอต้องการไม่ใช่การโวยวายเอาเปรียบร้าน แต่คือการเรียกร้องมาตรฐานการบริการที่ควรจะเป็น
กระแสสังคมและการบิดเบือน
เมื่อเรื่องถูกเผยแพร่ออกไป กลับมีบางฝ่ายนำประเด็นไปบิดเบือน จนกลายเป็นกระแสโจมตีว่าเธอต้องการ “กินฟรี” หรือสร้างดราม่าเพื่อเรียกยอดวิว ซึ่งทำให้เซญ่ารู้สึกเสียหายทั้งในแง่ภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในฐานะอินฟลูเอนเซอร์
เธอจึงประกาศอย่างชัดเจนว่า จะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่นำเรื่องไปบิดเบือนและใส่ร้าย เพราะถือเป็นการกระทบต่อชื่อเสียงและรายได้จากงานในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์
มิติของอินฟลูเอนเซอร์กับร้านอาหาร
ดราม่านี้สะท้อนประเด็นสำคัญในยุคปัจจุบันที่อินฟลูเอนเซอร์มีบทบาทอย่างมากต่อธุรกิจร้านอาหาร
รีวิวเชิงบวก สามารถสร้างกระแส ทำให้ร้านมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
รีวิวเชิงลบ หรือการเล่าเหตุการณ์ไม่ดี สามารถทำให้ชื่อเสียงร้านเสียหายอย่างรุนแรง
ดังนั้น ทั้งอินฟลูเอนเซอร์และร้านอาหารต้องมี ความรับผิดชอบร่วมกัน อินฟลูเอนเซอร์ควรเล่าเรื่องอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใส่สีตีไข่ ขณะเดียวกัน ร้านอาหารก็ต้องใส่ใจมาตรฐานบริการและรู้จักวิธีแก้ไขเมื่อเกิดความผิดพลาด
ข้อคิดจากกรณี "ปูนิ่มผัดผงกะหรี่"
1. สำหรับร้านอาหาร – ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งสำคัญคือการรับผิดชอบและการแก้ไขที่เหมาะสม เช่น การเปลี่ยนอาหาร ลดราคา หรือขอโทษลูกค้าอย่างจริงใจ
2. สำหรับผู้บริโภค – ควรสื่อสารกับร้านอย่างตรงไปตรงมา หากเจอปัญหาเพื่อให้ร้านมีโอกาสแก้ไขก่อน ไม่ควรด่วนสรุปหรือเผยแพร่โดยไม่ให้โอกาสร้าน
3. สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ – การรีวิวมีอิทธิพลสูง ต้องมีความรอบคอบในการเล่าเรื่อง และควรย้ำข้อเท็จจริงเพื่อไม่ให้เกิดการบิดเบือน
4. สำหรับสังคมออนไลน์ – ควรใช้วิจารณญาณในการเสพข่าว ไม่ควรตัดสินฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจากข้อมูลเพียงด้านเดียว
สรุป
กรณี "ปูนิ่มผัดผงกะหรี่" ของ เซญ่า กะทะร้อน เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าดราม่าในโลกออนไลน์สามารถเริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ อย่างการสั่งอาหารผิด แต่หากมีการบิดเบือนก็สามารถขยายกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่กระทบต่อชื่อเสียงและความเชื่อมั่นได้
เซญ่ายืนยันอย่างหนักแน่นว่า ไม่เคยมีเจตนากินฟรีหรือทำลายร้าน แต่ต้องการชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของมาตรฐานการบริการ พร้อมย้ำว่าจะเอาผิดกับผู้ที่บิดเบือนข้อมูล เพราะถือเป็นการกระทบต่อเกียรติและอาชีพของเธอ
สุดท้าย บทเรียนจากกรณีนี้คือ ทั้งผู้บริโภค ร้านอาหาร และอินฟลูเอนเซอร์ ควรมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และมุ่งเน้นการสื่อสารที่สร้างสรรค์ เพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องเล็ก ๆ บานปลายจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โตในสังคม












