โป๊ะแตก! โฉนดบ้านหมอบีโอนให้อดีตพระอลงกต แต่เขียนชัด ถ้าเจ้าตาย บ้านต้องคืน
เปิดโฉนด “บ้านหรู 70 ล้าน” หมอบีโอนให้หลวงพ่ออลงกต ปมปริศนาสัญญาเงื่อนไขซ่อนเร้น
จากกระแสร้อนแรงที่สังคมกำลังจับตาเกี่ยวกับ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” หรือ นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้เคยมีชื่อเสียงในโลกออนไลน์จากการอ้างว่าสื่อสารกับวิญญาณและทำพิธีกรรมต่าง ๆ แต่กลับตกเป็นผู้ต้องหาคดีใหญ่หลังถูกสอบสวนเรื่องบัญชีเงินบริจาค ล่าสุดประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง คือกรณี บ้านหรูมูลค่ากว่า 70 ล้านบาท ที่ก่อนหน้านี้หมอบียืนยันหนักแน่นว่าเป็นทรัพย์สินที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรง ไม่เกี่ยวข้องกับเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ แต่กลับมีการพบข้อมูลว่า บ้านหลังดังกล่าวได้ถูกโอนกรรมสิทธิ์ไปเป็นชื่อของ อดีตพระอลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี
การเปิดโปงกลางรายการ “โหนกระแส”
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 รายการชื่อดัง โหนกระแส ที่มี “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” เป็นพิธีกรหลัก ได้หยิบยกเอกสารสำคัญมานำเสนอ โดยเผยให้ผู้ชมเห็น “โฉนดที่ดินและบ้านหลังใหญ่” ซึ่งยืนยันว่าไม่ใช่เพียงข่าวลือ แต่เป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
หนุ่ม กรรชัยเปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ไม่ได้มีมูลค่าเพียง 30 ล้านบาทอย่างที่เคยเข้าใจกัน แต่เมื่อรวมกับค่าตกแต่งและการรื้อสร้างใหม่ กลายเป็น ทรัพย์สินที่มีมูลค่ารวมกว่า 70 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นบ้านหรูระดับมหาศาลในพื้นที่
จากบ้านหมอบี → โอนสู่หลวงพ่อ
ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในรายการระบุว่า ก่อนหน้านี้มีบุคคลใกล้ชิดหมอบีรายงานไปถึงหลวงพ่ออลงกตว่า หมอบีมีพฤติกรรม “ชักเงินออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์” ซึ่งเงินเหล่านี้ถูกอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริจาคเพื่อวัด
เดือนเมษายน 2568 – หลวงพ่อเริ่มทราบเรื่องและเรียกหมอบีเข้ามาพูดคุย
เดือนมิถุนายน 2568 – ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน โดยหมอบีตกใจเมื่อเห็นว่ามีหลักฐานชัดเจน จึงยินยอมมอบ รถยนต์หรูจำนวน 3 คัน และ บ้านหรูหลังดังกล่าว ให้แก่หลวงพ่อเพื่อเป็นการชดใช้
หลังการเจรจา มีการลงนามโอนบ้านอย่างเป็นทางการ บ้านจึงตกมาอยู่ในชื่อหลวงพ่ออลงกต
การหวนคืนของหมอบีและ “สัญญาเงื่อนไข”
เรื่องราวยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะในเดือน กรกฎาคม 2568 หมอบีกลับเข้ามาหาหลวงพ่ออีกครั้ง โดยครั้งนี้มีการทำเอกสาร “สัญญาแยก” ระบุว่า
บ้านหลังนี้ถูกมอบให้หลวงพ่อจริง แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องนำไปใช้เป็นศูนย์วิปัสสนา
หากวันใดหลวงพ่อไม่ดำเนินการตามที่กำหนด หรือหากหลวงพ่อเสียชีวิตลงเมื่อใด บ้านหลังนี้จะต้องถูกโอนกลับคืนเป็นของหมอบีทันที
สัญญานี้จึงถูกตีความว่า เป็นการวางเงื่อนไขเพื่อ “กันทางหนีทีไล่” ให้หมอบีสามารถกลับมาครอบครองทรัพย์สินได้ในอนาคต
มุมมองจากกองปราบปราม
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่หนุ่ม กรรชัยนำมาเผยแพร่นั้นตรงกับสิ่งที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน โดยในโฉนดมีชื่อหลวงพ่อจริง แต่ท้ายเอกสารก็มีการแนบ “บันทึกเงื่อนไข” ตามที่กล่าวมา
เจ้าหน้าที่ชี้ว่า จุดนี้สะท้อนถึงเจตนาอย่างชัดเจนว่า หมอบีอาจพยายามใช้วิธีทางกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้บ้านหรูหลุดมือไปตลอดกาล
บ้านหลังนี้มีมูลค่ามากกว่าเงิน
บ้านหรูที่เป็นข่าวนี้ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัยธรรมดา แต่มีคุณค่าทั้งทาง เศรษฐกิจ และ สัญลักษณ์
1. มูลค่าเงินตรา – บ้าน 70 ล้านบาทถือว่าอยู่ในระดับไฮเอนด์สุด ๆ ในประเทศไทย การโอนบ้านเช่นนี้สะท้อนถึงจำนวนเงินที่มหาศาล และทำให้สังคมตั้งคำถามว่ามาจากไหน
2. มูลค่าทางสังคม – บ้านหลังนี้ถูกมองว่าเป็น “หลักฐานทางรูปธรรม” ที่เชื่อมโยงไปถึงการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งกลายเป็นจุดสำคัญในคดี
กระแสสังคมและการตั้งคำถาม
หลังรายการออกอากาศ ประชาชนต่างแห่แชร์ข้อมูลนี้ในโซเชียลมีเดีย มีทั้งเสียงเห็นใจหลวงพ่อที่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ยุ่งยาก และเสียงวิจารณ์หมอบีว่าพยายามหาช่องโหว่เพื่อรักษาทรัพย์สินไว้
บางคนมองว่า การมอบบ้านและรถหรูเป็นการ “ยอมชดใช้” เพราะรู้ตัวว่าทำผิดจริง
บางคนตั้งข้อสงสัยว่า การโอนแบบมีเงื่อนไขเช่นนี้ อาจเป็นการพยายาม “สร้างภาพ” ว่ายอมคืน แต่แท้จริงแล้วยังต้องการครอบครอง
อีกมุมหนึ่งคือ มีการตั้งคำถามว่า เหตุใดหลวงพ่อจึงยอมรับสัญญาเช่นนี้ตั้งแต่แรก
วิเคราะห์ทางกฎหมาย
นักกฎหมายหลายคนมองว่า การทำสัญญาเงื่อนไขลักษณะนี้อาจเข้าข่าย การให้โดยมีภาระผูกพัน (Gift with Condition) ซึ่งในทางปฏิบัติสามารถบังคับใช้ได้หากเป็นไปตามกฎหมาย แต่หากเจตนาแฝงคือการ “กันทรัพย์” ไว้ไม่ให้สูญเสียจริง อาจถูกตีความในเชิงลบต่อผู้ทำ
ที่สำคัญ หากมีหลักฐานยืนยันว่าเงินที่นำมาสร้างบ้านนี้มาจากเงินบริจาคของวัด ก็จะเข้าข่ายความผิดทั้งทาง อาญา และ แพ่ง
เรื่องนี้สะท้อนอะไรในสังคมไทย
1. ปัญหาความโปร่งใส – การโอนบ้าน การทำสัญญา และการใช้เงินมหาศาล เป็นเรื่องที่ควรโปร่งใส แต่กรณีนี้กลับเต็มไปด้วยเงื่อนงำ
2. ความศรัทธาที่สั่นคลอน – เมื่อเรื่องราวเกี่ยวพันกับพระสงฆ์ที่ประชาชนเคารพ ทำให้ความเชื่อมั่นในศาสนาถูกสั่นคลอน
3. บทบาทของสื่อ – รายการโหนกระแสทำหน้าที่สำคัญในการเปิดเผยข้อมูลให้สังคมได้รับรู้ และกดดันให้หน่วยงานรัฐตรวจสอบ
บทสรุป
เรื่องราวบ้านหรู 70 ล้านของหมอบีที่ถูกโอนให้หลวงพ่ออลงกต พร้อมสัญญาเงื่อนไขซ่อนเร้น กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่สังคมจับตา ไม่เพียงเพราะมูลค่าทรัพย์สินมหาศาล แต่ยังสะท้อนถึง การจัดการเงินบริจาค ความโปร่งใส และความเชื่อมั่นต่อศาสนา
ปัจจุบันคดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน และสิ่งที่สังคมเฝ้ารอคือความจริงว่า บ้านหลังนี้และทรัพย์สินอื่น ๆ มีที่มาจากไหนกันแน่ และใครควรเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม
อ้างอิงจาก: รายการโหนกระแส





