กัน จอมพลัง ลั่น! ขอรถดูดส้วม 10 คัน รับคำท้าเขมรแบบจัดหนัก

กัน จอมพลัง จุดกระแสเดือด! ลั่นตามหารถดูดส้วม 10 คัน หลังเขมรโพสต์คลิปท้า บอกชัด “เรียกร้องเอง อย่ามางอแง”

สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาบริเวณจังหวัดสระแก้วในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2568 ยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งเข้ามาปักหลักบริเวณพื้นที่ บ้านหนองจาน อำเภออรัญประเทศ มีการโพสต์คลิป(ท้าทาย) ใส่ฝั่งไทย ทั้งตะโกนด่าทอและแสดงกิริยาท้าทายเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลแนวชายแดน

หนึ่งในบุคคลที่ออกมาเคลื่อนไหวและกลายเป็นกระแสอย่างมากในโลกออนไลน์คือ นายกัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” นักเคลื่อนไหวที่มักปรากฏตัวในประเด็นสังคมร้อนแรงอยู่เสมอ โดยล่าสุดเขาได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมท้าทายกลับไปยังฝั่งกัมพูชา ในประเด็นที่หลายคนไม่คาดคิด

โพสต์เดือด "กัน จอมพลัง" : รถดูดส้วมคือคำตอบ?

กัน จอมพลัง โพสต์ข้อความตอบโต้ไปยังฝั่งกัมพูชาที่ถ่ายคลิปท้าทาย โดยระบุว่า

“เขมรถ่ายคลิปท้ากันจอมพลัง ไหนรถดูดส้วมอยู่ไหน นี่ถือว่าพวกมรึงเรียกร้องหิว (อีโมจิรูปอุจจาระ) คนไทยเองนะ ผมต้องการรถดูดส้วมอีก 10 คัน ของเต็มลำ อยากได้แบบหัวพ่นแรง ๆ ใครมีของทักมาเลยครับ”

ข้อความดังกล่าวสร้างเสียงฮือฮาในโซเชียลอย่างมาก เพราะไม่ใช่เพียงแค่การโต้กลับเชิงสัญลักษณ์ แต่ยังสื่อถึงการ “เอาของเสียของคนไทย” ไปใช้เป็นอาวุธตอบโต้คู่กรณี

กันยังโพสต์ต่อว่า

“นี่ทุกคนเป็นพยานนะ มันเรียกร้องเอง แล้วอย่ามางอแงนะ”

คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่าเขามองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝ่ายเดียวจากไทย แต่เป็นการ “ถูกเรียกร้อง” ให้ตอบโต้จากฝั่งกัมพูชาเอง

ย้อนปม “แผนรถดูดส้วม” ของกัน จอมพลัง

ความคิดเรื่องการใช้ “รถดูดส้วม” ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ กัน จอมพลัง เคยเสนอแนวทางดังกล่าวมาแล้ว โดยเขาระบุว่าเป็นวิธีการตอบโต้ที่ไม่ต้องใช้ความรุนแรงถึงขั้นอาวุธ แต่สามารถสร้างความหวาดกลัวและความอับอายให้แก่ผู้ที่พยายามละเมิดชายแดนไทย

“ผมเสนอวิธีการตอบโต้กัมพูชาที่กำลังรื้อรั้วลวดหนามและแหกปากใส่ทหารไทย เราใช้รถดูดส้วมพ่นของที่ดูดมาใส่เขมร รับรองไม่กล้าแหกปากใส่ทหารไทย”

แนวคิดนี้แม้จะถูกวิจารณ์ว่าดูตลกร้าย แต่ก็ได้รับการแชร์ต่ออย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยว่าเป็นการตอบโต้เชิงสัญลักษณ์โดยไม่ใช้ความรุนแรงจริงจัง และฝ่ายที่มองว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อาจยิ่งสร้างความบาดหมางระหว่างสองประเทศ

เสียงตอบรับในโซเชียล: แบ่งเป็นสองฝั่ง

หลังโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียล มีเสียงสะท้อนที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน

ฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่าแนวคิดนี้เป็นการตอบโต้ที่ “สร้างสรรค์” และทำให้คู่กรณีไม่สามารถโต้กลับด้วยเหตุผลเรื่องความรุนแรงได้ อีกทั้งยังสร้างแรงกดดันทางสังคมให้กัมพูชาเสียหน้า

ฝ่ายที่คัดค้าน มองว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อาจถูกมองว่าเป็นการก่อสงครามเชิงจิตวิทยาที่ไม่เหมาะสม และอาจนำไปสู่ความบาดหมางในระยะยาว

เสียงวิจารณ์เหล่านี้ยังสะท้อนถึงความกังวลว่า หากนำแนวคิดไปปฏิบัติจริง อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศอย่างรุนแรง

มุมมองด้านความมั่นคง

นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงบางรายชี้ว่า การใช้ “รถดูดส้วม” อาจฟังดูตลก แต่หากนำไปใช้จริงจะเข้าข่าย “อาวุธชีวภาพ” ในมุมกฎหมายระหว่างประเทศ เพราะสิ่งปฏิกูลสามารถแพร่เชื้อโรคและสร้างความเสียหายต่อสุขภาพได้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงอาจทำให้ไทยถูกโจมตีทางการเมืองในเวทีโลก

ในขณะเดียวกัน ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่บุคคลสาธารณะอย่างกัน จอมพลัง ออกมาโพสต์เช่นนี้ อาจทำให้สถานการณ์ชายแดนซับซ้อนขึ้น เพราะกัมพูชาอาจนำคำพูดไปใช้เป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อต่อประชาชนของตนเอง

กัน จอมพลัง: บุคคลผู้สร้างสีสันในทุกประเด็นร้อน

ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา กัน จอมพลัง มักเป็นบุคคลที่สังคมไทยให้ความสนใจ เพราะเขามักเข้าไปมีบทบาทในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นการร้องเรียนเรื่องความไม่เป็นธรรม การแฉกลโกง หรือแม้กระทั่งการเสนอแนวคิดแปลก ๆ ที่มักจะถูกพูดถึงในโลกออนไลน์

กรณี “รถดูดส้วม” จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับผู้ที่ติดตามเขามาอย่างต่อเนื่อง เพราะกันมักใช้การสร้างกระแสแรง ๆ เพื่อผลักดันประเด็นที่ตนเองสนใจให้กลายเป็นที่พูดถึงในสังคม

บทเรียนจากเหตุการณ์นี้

แม้แนวคิด “รถดูดส้วม” จะถูกมองว่าเป็นเพียงการพูดเชิงสัญลักษณ์ แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความจริงจังของปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ซึ่งยังคงมีความตึงเครียดและอาจลุกลามหากไม่มีการจัดการอย่างระมัดระวัง

ในอีกด้านหนึ่ง กรณีนี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจให้สังคมไทยตระหนักว่า คำพูดและการโพสต์บนโซเชียลมีอิทธิพลสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อมาจากบุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เพราะสามารถกระตุ้นกระแสสังคมและสร้างผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้

“กัน จอมพลัง” ได้สร้างกระแสอีกครั้งด้วยการโพสต์ตามหารถดูดส้วม 10 คันเพื่อตอบโต้ชาวกัมพูชาที่โพสต์คลิปท้าทาย พร้อมย้ำว่า “มันเรียกร้องเอง อย่ามางอแง” แม้จะเป็นการพูดเชิงประชดประชัน แต่ก็กลายเป็นประเด็นร้อนที่สังคมไทยพูดถึงอย่างกว้างขวาง

ในมุมหนึ่ง นี่อาจเป็นเพียงการสร้างสีสันหรือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่ในอีกมุมหนึ่งก็สะท้อนถึงความตึงเครียดและความเปราะบางของสถานการณ์ชายแดน ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขด้วยความรอบคอบและสันติวิธีมากกว่าการใช้การตอบโต้