ชาวบ้านลุกฮือฝ่าแนวกั้นบ้าน หนองจาน ตะโกนลั่น เขมรออกไป”
ด่วน! ชาวบ้านฝ่าแนวกั้น ทหาร-ตำรวจ บ้านหนองจาน ตะโกน “เขมรออกไป” เหตุการณ์บานปลาย
วันที่ 26 สิงหาคม 2568 มีรายงานเหตุการณ์ตึงเครียดบริเวณ บ้านหนองจาน ตำบลหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังมีมวลชนและชาวบ้านจำนวนมากพยายาม ฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ เพื่อเข้าไปเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเช้าและสร้างความตื่นตระหนกให้กับทั้งสองฝ่าย
เหตุการณ์เริ่มต้น
ตามรายงานระบุว่า ชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองจานจำนวนหลายร้อยคน รวมตัวกันบริเวณแนวเขตแดนไทย-กัมพูชา ก่อนตะโกนเรียกร้องให้ชาวกัมพูชา ออกจากพื้นที่ไทย ด้วยเสียงดัง “เขมรออกไป! เขมรออกไป!”
ความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนเข้ามารุกล้ำพื้นที่ชายแดนไทย สร้างบ้านเรือนและตั้งถิ่นฐานอย่างชัดเจน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดความไม่พอใจและต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม
การตอบสนองของเจ้าหน้าที่
เมื่อมวลชนเริ่มฝ่าแนวกั้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองต้อง รีบเข้ามากั้นและควบคุมสถานการณ์ อย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลาย
พล.ต.ต.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ได้ทำงานร่วมกันอย่างประสานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะ แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง และคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก”
พื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน
บ้านหนองจานถือเป็น พื้นที่สำคัญเชิงยุทธศาสตร์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยอยู่ใกล้กับบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาบางส่วนเข้ามารุกล้ำพื้นที่ไทย จนทางการไทยต้องลงพื้นที่ตรวจสอบและจัดการอย่างเข้มงวด
ก่อนหน้านี้ คณะเสนาธิการทหารไทยได้ลงพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเพื่อสำรวจสถานการณ์และชี้แนวเขตแดนอย่างชัดเจน พบว่ามีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามาถึง 18 หลังคาเรือน ซึ่งทางไทยถือว่าผิดข้อตกลง MOU 43 ที่กำหนดเขตแดนร่วมระหว่างสองประเทศ
ปฏิกิริยาของชาวบ้าน
ชาวบ้านในพื้นที่แสดงความไม่พอใจต่อการรุกล้ำของชาวกัมพูชา โดยหลายคนกล่าวว่า พวกเขาต้องการ เรียกร้องความเป็นธรรมและปกป้องแผ่นดินไทย
หนึ่งในชาวบ้านกล่าวว่า “เรามาที่นี่เพื่อแสดงออกว่าแผ่นดินไทยไม่สามารถให้ใครมารุกล้ำได้ เรารักแผ่นดินของเรา และต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด”
การตะโกน “เขมรออกไป” จึงเป็นการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ถึงความต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐดำเนินการ และเป็นการเตือนให้ชาวกัมพูชาที่อาศัยในพื้นที่รู้ว่า พื้นที่นี้เป็นเขตแดนไทยอย่างชัดเจน
การทำงานของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ
เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ ตั้งแนวป้องกันหลายชั้น เพื่อไม่ให้เกิดการปะทะรุนแรงกับชาวบ้านหรือชาวกัมพูชา โดยมีการใช้มาตรการดังนี้
1. ตั้งแนวคุมพื้นที่: กั้นมวลชนไม่ให้เข้าพื้นที่ที่ชาวกัมพูชาตั้งถิ่นฐาน
2. เจรจาเบื้องต้น: พยายามสื่อสารกับหัวหน้าชุมชนและผู้แทนชาวบ้าน เพื่อให้ยุติการฝ่าด่านและกลับบ้าน
3. การป้องกันเหตุการณ์บานปลาย: จัดเจ้าหน้าที่สำรองในพื้นที่ใกล้เคียง เฝ้าสังเกตและพร้อมเข้าควบคุมสถานการณ์
พล.ต.ต.วันชนะ สวัสดี ย้ำว่า เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะ ดำเนินการอย่างเหมาะสม และปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม เพื่อไม่ให้เกิดการใช้ความรุนแรง และสร้างความเสียหายต่อทั้งสองฝ่าย
ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา
เหตุการณ์บ้านหนองจานสะท้อนถึง ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการรุกล้ำเขตแดนซ้ำซาก ทั้งในบ้านหนองหญ้าแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง
ก่อนหน้านี้ กองทัพไทยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบว่าชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำไทยถึง 18 หลังคาเรือน โดยทางการไทยได้เตรียม แผนจัดการและแจ้งไปยังรัฐบาลกัมพูชา ให้ลงมาดูแลประชาชนของตนเอง
ในบางครั้ง การรุกล้ำเกิดจาก ความเข้าใจผิดเรื่องเขตแดน และบางครั้งเกิดจาก ความต้องการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชายแดน ทำให้เจ้าหน้าที่ไทยต้องดำเนินมาตรการป้องกันและตรวจสอบอย่างเข้มงวด
ผลกระทบต่อประชาชน
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนทั้งสองฝั่งชายแดน โดยชาวบ้านไทยกังวลเรื่องการบุกรุกและความปลอดภัย ขณะที่ชาวกัมพูชาบางส่วนอาจไม่ทราบข้อมูลเขตแดนที่แท้จริง
เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจต้อง จัดกำลังป้องกันและอธิบายข้อเท็จจริง ให้ทั้งสองฝ่ายเข้าใจ เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและความรุนแรง
มาตรการต่อไป
1. การประชุมหารือสองฝ่าย: ไทย-กัมพูชา จะมีการนำเรื่องนี้เสนอในที่ประชุม JBC (Joint Border Committee) เพื่อให้รัฐบาลกัมพูชาเข้ามาดูแลประชาชนของตนเอง
2. การติดตามแนวเขตแดน: กำลังเจ้าหน้าที่จะเฝ้าระวังและตรวจสอบแนวเขตแดนอย่างต่อเนื่อง
3. การเจรจาและให้ข้อมูลประชาชน: สร้างความเข้าใจแก่ชาวบ้านทั้งสองฝั่งเรื่องเขตแดนและสิทธิของแต่ละฝ่าย
พล.ต.ต.วันชนะ สวัสดี ระบุว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็น สิทธิ์ชอบธรรมของไทย ในการปกป้องอธิปไตย พร้อมยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติอย่าง ระมัดระวังและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม เป็นหลัก
บทสรุป
เหตุการณ์ฝ่าด่านของชาวบ้านบ้านหนองจาน เป็นตัวอย่างของ ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เกิดจากการรุกล้ำพื้นที่และความไม่เข้าใจเรื่องเขตแดน
เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจต้องทำงานอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันการปะทะและสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ทั้งสองฝ่าย การดำเนินการเชิงรุกและการสื่อสารอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษา อธิปไตยของชาติ และสร้างความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน
ประชาชนชาวบ้านไทยและเจ้าหน้าที่ทหาร ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหวังว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดซ้ำในอนาคต
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต
#ทายนิสัยจากกาแฟ: เดือนเกิดคุณเปรียบเหมือนกาแฟแก้วไหน? ทายบุคลิก ความรัก และการเงินจากเครื่องดื่มแก้วโปรด
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนาม โดยมีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์กว่า 100 คน คาดว่าฮอยอันและดานังจะประสบกับน้ำท่วมอีกครั้ง
ตำรวจจราจรกระบี่งดจับหมวก คว้าถุงดำช่วยเก็บกระทง ลอยเกลื่อนปากแม่น้ำ
หนังกลางแปลงในความทรงจำ กับการดูหนังสร้างรายได้ในโลกออนไลน์
นักดำน้ำฝ่าน้ำเชี่ยว งมหาโทรศัพท์นศ.สาวตกทะเลคืนลอยกระทง
แร่เงิน อะไรคือปัจจัยส่งผลต่อราคาขึ้น หรือลง? เจาะลึกกลไกตลาดและโอกาสลงทุน
เดือด! อดีตมิสยูนิเวิร์ส 1996 ชาวเวเนซุเอลา เหยียดไทย-เอเชีย เจอทั้งภูมิภาคสวนกลับยับ
ตำรวจจราจรกระบี่งดจับหมวก คว้าถุงดำช่วยเก็บกระทง ลอยเกลื่อนปากแม่น้ำ
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
ชายชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากการกินไข่ตุ๊กแก
รองฯ ปรินดา ร่วม “ดำนา โยนกล้า หว่านข้าว ปีที่ 4” บ้านป่าชิง ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชีวิตและการพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต