เล่าจากเพื่อนร่วมรุ่น “เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว” หายตัวพร้อมค่าแหวนรุ่นกว่า 4 หมื่นบาท
เมื่อครู่นี้ ดิฉันได้ไปเจอข่าวที่กำลังถูกพูดถึงกันในโลกออนไลน์ เลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อหลายท่านที่อาจไม่ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดจะได้เข้าใจเรื่องราวมากขึ้นค่ะ
เป็นเรื่องของชายที่ชื่อว่า “เกรียงไกร เพ็ชร์แก้ว” ซึ่งมีเพื่อนร่วมรุ่นออกมาเล่าประสบการณ์ในสมัยที่เรียนอยู่ที่เกษตรบ้านกร่าง พิษณุโลก (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา) เมื่อราวปี 2521–2523
เพื่อนเล่าว่า เกรียงไกรเป็นคนเรียนเก่ง มีภาวะผู้นำ และยังเล่นกีฬาฟุตบอลเก่ง เคยติดทีมเยาวชนจังหวัดขอนแก่น และตอนมาเรียนที่เกษตรบ้านกร่าง ก็ยังเป็นนักฟุตบอลของวิทยาลัย เล่นตำแหน่งกองหน้า
ช่วงใกล้เรียนจบ เกรียงไกรอาสาเป็นคนจัดการเรื่อง ค่าแหวนรุ่นและทำเนียบรุ่น ตอนนั้นมีเพื่อนอยู่ประมาณ 200 คน ช่วยกันจ่ายคนละ 200 บาท รวมเป็นเงินกว่า 40,000 บาท ซึ่งถือว่าเยอะมากในสมัยนั้น (ทองทั้งบาทยังแค่ 3–5 พันบาท) แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเกรียงไกรหายตัวไปในช่วงเทอมสุดท้าย ไม่มีใครทราบว่าไปอยู่ที่ไหน หายไปเพราะเหตุใด และเงินค่าแหวนรุ่นที่เพื่อน ๆ รวบรวมกันมาก็หายไปด้วย
ที่สำคัญคือ หลังจากนั้นเกรียงไกรก็ไม่เคยกลับมาเจอเพื่อน ๆ เลย แม้เวลามีการนัดเลี้ยงรุ่นทุกปีก็ตาม
ต่อมามีประเด็นที่ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกต เนื่องจาก “พระอลงกต” มีใบหน้าคล้ายเกรียงไกร เพื่อนบางคนถึงกับเดินทางไปถามท่านถึงที่วัด แต่พระอลงกตก็ยืนยันว่าไม่รู้จักและไม่เคยเรียนที่เกษตรบ้านกร่าง ทำให้เพื่อน ๆ ไม่สามารถยืนยันได้ว่าท่านกับเกรียงไกรเป็นคนเดียวกันจริงหรือไม่
ส่วนเรื่องประวัติการศึกษา พระอลงกตก็เคยให้ข้อมูลว่าเรียนที่เทพศิรินทร์ ต่อปริญญาตรีวิศวกรรม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาโทที่ออสเตรเลีย แต่เมื่อมีการตรวจสอบ กลับไม่พบข้อมูลตรงตามที่กล่าวไว้ ต่อมาท่านจึงชี้แจงว่าไม่ได้จบจากที่นั่น เพียงแต่เป็นความฝันที่เคยตั้งใจอยากจะเรียน
ปัจจุบันเรื่องนี้ยังคงถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง โดยมีทั้งคนที่สงสัยและคนที่มองว่าไม่ควรไปยึดติดกับอดีต เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลนั้น ๆ
ดิฉันอ่านแล้วรู้สึกว่า เรื่องนี้เป็นทั้งบทเรียนและข้อคิดค่ะว่า “ความจริงย่อมเป็นความจริง” วันหนึ่งไม่ว่าอย่างไร ความจริงก็มักจะปรากฏเสมอ








