ฮือฮา! สาวกัมพูชากลางห้าง แกะฉลากเช็กหวั่นเป็นสินค้าจากไทย
ชาวกัมพูชาแห่ตรวจสอบสินค้า หวั่นเป็นของไทย หลังกระแสแบนสินค้าไทยลุกลามหนัก – โลกออนไลน์ไทยเดือด คอมเมนต์ถล่ม
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ได้เกิดกระแสการพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ หลังเพจ Army Military Force ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างทั้งความตกใจ ขำขัน และการวิพากษ์วิจารณ์ในเวลาเดียวกัน ภาพในคลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นหญิงชาวกัมพูชาคนหนึ่ง กำลังเลือกซื้อของภายในห้างสรรพสินค้าในกรุงพนมเปญ แต่กลับมีพฤติกรรมแปลกตา คือการ หยิบสินค้ามาแกะฉลากอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบว่าเป็นสินค้านำเข้าจากประเทศไทยหรือไม่
คลิปนี้ถูกตั้งชื่อว่า
“เขมรซื้อของในห้างที่พนมเปญ แกะดูฉลากสินค้า กลัวเสียมสวมรอย”
ซึ่งคำว่า “เสียม” เป็นคำที่ชาวกัมพูชาบางกลุ่มใช้เรียกคนไทยในเชิงเหยียด และกลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้คนไทยจำนวนมากเข้ามาแสดงความเห็นอย่างดุเดือด
ต้นตอกระแสแบนสินค้าไทยในกัมพูชา
หากมองย้อนกลับไป กระแสต่อต้านสินค้าไทยในกัมพูชาไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลพวงมาจากความตึงเครียดระหว่างสองประเทศในประเด็นชายแดน โดยเฉพาะกรณีการเผชิญหน้าบริเวณ บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว ที่เกิดเหตุปะทะและรื้อแนวลวดหนาม ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งในเชิงสัญลักษณ์ระหว่างประชาชนสองฝั่ง
รัฐบาลกัมพูชาถูกกล่าวหาว่า มีการปลุกกระแสชาตินิยม ผ่านสื่อและโซเชียลมีเดีย สนับสนุนให้ประชาชนแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อประเทศไทย หนึ่งในมาตรการที่ถูกผลักดันคือ การแบนสินค้าไทย โดยชักชวนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอุดหนุนสินค้าและบริการที่มีต้นทางจากไทย
ภาพหญิงชาวกัมพูชากับการแกะฉลาก
ในคลิปไวรัลดังกล่าว หญิงกัมพูชารายนี้ถูกบันทึกขณะกำลังหยิบขนมและของใช้จากชั้นวางสินค้า ก่อนจะพลิกซ้ายขวา และถึงขั้น แกะห่อบรรจุภัณฑ์บางส่วน เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อความ “Made in Thailand” หรือไม่
ภาพนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็น พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากการแกะฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ถือว่าเป็นการทำให้สินค้าที่ขายอยู่ในห้างเสียหาย และยังอาจกระทบต่อผู้ซื้อรายต่อไป เพราะสินค้าที่ถูกแกะแล้วมักไม่สามารถวางขายได้ตามปกติ
ปฏิกิริยาชาวเน็ตไทย – ทั้งโกรธ ขำ และประชด
เมื่อคลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในสังคมออนไลน์ไทย ได้เกิดการคอมเมนต์จำนวนมหาศาล ส่วนใหญ่แสดงความไม่พอใจ แต่ก็มีไม่น้อยที่เลือกใช้วิธีการเสียดสีประชดประชัน
บางความคิดเห็น เช่น
“ป้ายฉลากเขาพังหมด มารยาทการซื้อของควรมีบ้างนะ”
“ด่าทุกวัน ด่าจนสงสารตัวเองแล้ว”
“ถ้าลำบากขนาดนี้อย่ากินเถอะ 555”
“โอ้ยยยยยย แล้วเอาอันที่แกะไปจ่ายเงินด้วยละ?”
“ของไทยจะแกะกี่ห่อก็ยังเป็นของไทย ขอบใจเต้อที่รีวิวให้”
เสียงสะท้อนเหล่านี้สะท้อนความรู้สึกของคนไทยที่มองว่าพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งตลกและน่าเวทนาในเวลาเดียวกัน
มิติด้านเศรษฐกิจ – ไทยกับกัมพูชาแยกกันไม่ขาด
แม้ว่ากระแสแบนสินค้าไทยจะถูกโหมกระพือในฝั่งกัมพูชา แต่ในเชิงเศรษฐกิจแล้ว กัมพูชาพึ่งพาสินค้านำเข้าจากไทยอย่างสูง ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในครัวเรือน น้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ไทย ระบุว่าในแต่ละปีมูลค่าการส่งออกจากไทยไปกัมพูชามีมากกว่าหมื่นล้านบาท ซึ่งหมายความว่า การเลิกบริโภคสินค้าไทยโดยสิ้นเชิงแทบเป็นไปไม่ได้
ดังนั้น แม้ประชาชนบางส่วนในกัมพูชาจะร่วมรณรงค์แบนสินค้าไทย แต่ในชีวิตจริง การใช้สินค้าจากไทยยังคงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
การเมืองและชาตินิยม – เบื้องหลังความตึงเครียด
นักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลายคนมองว่า กระแสแบนสินค้าไทยครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการแสดงออกของประชาชนเท่านั้น แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การเมืองภายในกัมพูชา ที่ใช้ประเด็น “ชาตินิยม” และ “ความขัดแย้งกับไทย” เป็นเครื่องมือในการสร้างความนิยมในหมู่ประชาชน
การปลุกกระแสแบนสินค้าไทยจึงอาจเป็น กลยุทธ์ทางการเมือง ที่มุ่งเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนจากปัญหาเศรษฐกิจและสังคมภายในประเทศ
เสียงสะท้อนจากฝั่งกัมพูชา
แม้กระแสหลักจะดูเหมือนว่าชาวกัมพูชาจำนวนมากเข้าร่วมแบนสินค้าไทย แต่ก็มีชาวกัมพูชาบางส่วนออกมาแสดงความเห็นที่แตกต่าง โดยมองว่า
การแกะฉลากสินค้าในห้างเป็นเรื่องที่ไม่สมควร
การแบนสินค้าไทยอาจทำให้ประชาชนเองเดือดร้อน เนื่องจากสินค้าทางเลือกจากประเทศอื่นมีราคาสูงกว่า
ปัญหาชายแดนควรถูกแก้ไขในเชิงการทูต ไม่ใช่การสร้างความเกลียดชังระหว่างประชาชน
คลิปสั้นแต่แรงสะเทือนหนัก
คลิปหญิงกัมพูชากับการแกะฉลากสินค้าครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงคลิปสั้น ๆ แต่กลับสะท้อนปัญหาที่ซ่อนอยู่ในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง และทัศนคติของประชาชนสองชาติ
โลกออนไลน์ทั้งไทยและกัมพูชาอาจใช้พื้นที่โซเชียลมีเดียในการต่อสู้เชิงวาทกรรม แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งสองประเทศยังคงต้องพึ่งพาและพึ่งพิงกันอยู่
บทสรุป
ปรากฏการณ์หญิงกัมพูชาแกะฉลากสินค้าในห้างพนมเปญ คือภาพสะท้อนของกระแสความไม่พอใจที่กำลังลุกลามในระดับประชาชน แต่ก็ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เห็นถึง ความขัดแย้งที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้ง
แม้จะมีการรณรงค์แบนสินค้าไทย แต่ในชีวิตจริงผู้คนจำนวนมากในกัมพูชายังคงต้องพึ่งพาสินค้าไทยทุกวัน คลิปนี้จึงกลายเป็น ไวรัลที่ทั้งชวนหัวเราะและน่าคิด ว่าแท้จริงแล้วความขัดแย้งที่ปลุกปั่นขึ้นมานั้น ใครคือผู้ได้ประโยชน์ และใครคือผู้ที่ต้องเดือดร้อนที่สุด
อ้างอิงจาก: เพจ Army Military Force
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 พฤศจิกายน 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
🔥 ๒๑ ประเภทเปรตวิสัย: สิ่งที่พระโมคคัลลานะเห็นด้วยญาณ
พายุไต้ฝุ่นคัลแมกีกำลังมุ่งหน้าสู่เวียดนาม โดยมีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์กว่า 100 คน คาดว่าฮอยอันและดานังจะประสบกับน้ำท่วมอีกครั้ง
หนังกลางแปลงในความทรงจำ กับการดูหนังสร้างรายได้ในโลกออนไลน์
เดือด! อดีตมิสยูนิเวิร์ส 1996 ชาวเวเนซุเอลา เหยียดไทย-เอเชีย เจอทั้งภูมิภาคสวนกลับยับ
🚨 เตือนหนุ่ม ๆ! ระวังหลงเชื่อ “วิธีเพิ่มขนาดท่านชาย” ที่ไม่มีอยู่จริง 😱
สุดฮา! หนุ่มวัย 22 แบกต้นกล้วยทั้งต้นลอยกระทง กลางงานแสงเทียน
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต
นักดำน้ำฝ่าน้ำเชี่ยว งมหาโทรศัพท์นศ.สาวตกทะเลคืนลอยกระทง
ตำรวจจราจรกระบี่งดจับหมวก คว้าถุงดำช่วยเก็บกระทง ลอยเกลื่อนปากแม่น้ำ
"อนุทิน" ถูกแซวในงาน "ลอยกระทง" ลืมรูปซิปกางเกง..เจ้าตัวสวนกลับสุดฮา "ไม่มีออกมาเพ่นพ่านแน่นอนครับ"
“จาตุรนต์” กังวลว่า “อนุทิน” อาจจะยุบสภาก่อน ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ
ชายชาวกัมพูชาเสียชีวิตจากการกินไข่ตุ๊กแก
รองฯ ปรินดา ร่วม “ดำนา โยนกล้า หว่านข้าว ปีที่ 4” บ้านป่าชิง ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชีวิตและการพึ่งพาตนเอง เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร
วิดีโอ/เสียชีวิต 48 ราย! ไต้ฝุ่นถล่มเซบู ฟิลิปปินส์ ก่อนน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และวิกฤต

