วิ่งสุดใจไปกับคอร์กี้ มหกรรมความน่ารักที่เติมเต็มรอยยิ้ม
เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ กรุงวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนีย ได้มีการจัดงานประจำปีสุดแสนน่ารักอย่าง "Corgi Race 2025" หรือการแข่งขันวิ่งของน้องหมาพันธุ์คอร์กี้ ที่รวมตัวน้องหมามากกว่า 120 ตัว จาก 6 ประเทศ เข้ามาประชันความสามารถและความน่ารักกันใน 5 ประเภทการแข่งขัน ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว แต่ยังรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ เสียง และไหวพริบ เพื่อเติมเต็มช่วงท้ายฤดูร้อนของลิทัวเนียให้เต็มไปด้วยพลังและเสียงหัวเราะ
เอ็ดวินาส มิสคาส ผู้ก่อตั้งงานซึ่งเป็นเจ้าของคอร์กี้สองตัว เล่าว่ากิจกรรมนี้เริ่มต้นขึ้นจากความเบื่อหน่ายในช่วงโควิด-19 โดยจัดขึ้นกับเพื่อน ๆ เป็นครั้งแรก แต่กลับได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนเติบโตขึ้นทุกปี และในปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 4 มีผู้เข้าร่วมงานนับพันคน
การแข่งขันในปีนี้มีทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่ การแข่งขันเห่าเสียงดัง การไขปริศนาวิ่งหาขนม การวิ่งเดี่ยว และสองรายการที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ การประกวดชุดแฟนซีสุดครีเอท และการวิ่งแข่งคอร์กี้
ในการแข่งขันเห่าเสียงดัง น้องหมาจะต้องเห่าใส่ไมโครโฟนตามคำสั่งของเจ้าของเพื่อวัดความดัง ส่วนการไขปริศนา เจ้าของจะทดสอบไหวพริบและความ "ตะกละ" ของน้องหมา โดยดูว่าตัวไหนสามารถหาขนมจากของเล่นปริศนาได้มากที่สุด ขณะที่การประกวดชุดแฟนซี ก็เปิดโอกาสให้ทั้งน้องหมาและเจ้าของได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ โดยมีทั้งคอร์กี้ "เครื่องบิน" 3 ลำ ไปจนถึง "สุนัขสามหัว" จากเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ และแม้กระทั่งตัวการ์ตูนยอดฮิตอย่าง Labubu ก็ยังเป็นแรงบันดาลใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บางตัวไม่สนใจคำสั่งเอาแต่ขอขนม บางตัวพยายามสะบัดเครื่องแต่งกายออก และมีน้องหมาบางตัวถึงกับฉี่ใส่กระถางต้นไม้ ทำเอาผู้ชมหัวเราะกันยกใหญ่
ไฮไลท์สำคัญของงานคือการวิ่งแข่ง ซึ่งจัดในรูปแบบคล้ายกับการแข่งม้า โดยมีคอร์กี้ 8 ตัวลงสนามพร้อมกันเพื่อประชันความเร็วในระยะทาง 50 เมตร เพื่อวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของเจ้าของที่รออยู่ที่เส้นชัย ท่าทางการวิ่งของน้องหมาคอร์กี้ที่มีรูปร่างกลมและขาสั้น ๆ พยายามวิ่งสุดกำลังสร้างความน่ารักจนผู้ชมหลงใหลไปทั่วทั้งงาน เต็มไปด้วยเสียงเชียร์และเสียงหัวเราะอย่างต่อเนื่อง
วิกตอเรีย ผู้เข้าร่วมจากลัตเวียที่ทราบข่าวจากเฟซบุ๊ก บอกว่างาน "Corgi Race" ไม่ใช่แค่สนุกสำหรับเจ้าของและผู้ชม แต่ยังเป็นโอกาสดีสำหรับน้องหมาในการเข้าสังคม เธอวางแผนที่จะกลับมาเข้าร่วมอีกในปีหน้า
โดวิเล ไบโลโซไวเต ผู้จัดการกิจกรรม ย้ำว่าเหตุผลที่ยังคงจัดงานนี้อย่างต่อเนื่องนั้นเรียบง่ายมาก นั่นคือ "ไม่มีอะไรน่าประทับใจไปกว่าการได้เห็นคอร์กี้หลายสิบตัววิ่งสุดกำลัง ในขณะที่ผู้คนนับพันคนส่งเสียงเชียร์และหัวเราะพร้อมกัน" เธอเน้นย้ำว่าการแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่การวิ่งเข้าเส้นชัย แต่เป็นการสร้างสรรค์ประเพณีที่ทำให้บรรยากาศของเมืองวิลนีอุสผ่อนคลาย อบอุ่น และแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันวิลนีอุสให้เป็น "เมืองหลวงแห่งคอร์กี้ของยุโรป" ในอนาคต












