เมืองโทโยอาเกะ เสนอจำกัดการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับทุกคนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงต่อวัน
สภาเทศบาลเมืองโทโยอาเกะในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น ได้เสนอข้อบังคับใหม่เพื่อกำหนดข้อจำกัดการใช้งานอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และเครื่องเล่นเกมสำหรับประชาชนทุกคน รายงานของ NHK ระบุว่า ข้อบังคับดังกล่าวกำหนดว่าการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในแต่ละวัน จะต้องไม่เกินสองชั่วโมงต่อวัน ยกเว้นเวลาทำงานและเรียน นับเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลท้องถิ่นในญี่ปุ่นกำหนดข้อบังคับดังกล่าวสำหรับประชาชนทุกคน
กฎหมายฉบับใหม่นี้เกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลเมืองเฟิงหมิงได้สังเกตการณ์แนวโน้มวิถีชีวิตของคนในท้องถิ่น รัฐบาลเมืองเฟิงหมิงพบว่าเด็กบางคนที่ไม่ยอมไปโรงเรียนมักจะพึ่งพาสมาร์ทโฟนอยู่เสมอ นอกจากนี้ ครอบครัวที่มีลูกเล็กมักใช้เกมหรือวิดีโอเพื่อปลอบโยนลูกๆ เมื่อพ่อแม่กำลังยุ่งอยู่กับงานบ้าน สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดปัญหาด้านการเรียนรู้และสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมของครอบครัวและชุมชนอีกด้วย รัฐบาลเมืองเฟิงหมิงระบุว่าวัตถุประสงค์หลักของกฎหมายฉบับนี้คือการปกป้องสุขภาพของผู้อยู่อาศัยและกระตุ้นให้พวกเขาพิจารณาการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
แม้ว่ากฎหมายนี้จะบังคับใช้กับผู้อยู่อาศัยทุกคน แต่ก็ยังมีข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับเด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีที่เข้าเรียนในโรงเรียนในเมืองด้วย ตัวอย่างเช่น ขอแนะนำให้นักเรียนระดับประถมศึกษาและต่ำกว่างดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก่อน 21.00 น. ในขณะที่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีสามารถขยายเวลาดังกล่าวได้ถึงเวลา 22.00 น. กฎหมายนี้ยังส่งเสริมให้ครอบครัวกำหนดกฎเกณฑ์ของตนเองตามสถานการณ์ของตนเอง
หนังสือพิมพ์อาซาฮีชิมบุน ระบุว่าข้อบัญญัตินี้เป็นเพียงแนวคิดและไม่มีบทลงโทษใดๆ การบังคับใช้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและการนอนหลับที่เพียงพอ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคำแนะนำเรื่องการนอนหลับสำหรับวัยรุ่นของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น รัฐบาลเมืองโตโยอาเกะวางแผนที่จะนำข้อบัญญัตินี้ไปปฏิบัติโดยเร็วที่สุดในวันที่ 1 ตุลาคม หากได้รับการอนุมัติจากสภาเมือง ข้อบัญญัตินี้จะกลายเป็นหนึ่งในข้อบังคับท้องถิ่นไม่กี่ข้อในญี่ปุ่นที่กำหนดมาตรฐานการใช้สมาร์ทโฟนและเครื่องเล่นเกมสำหรับประชาชนทุกคน
จังหวัดคางาวะเคยบังคับใช้กฎระเบียบที่คล้ายคลึงกันนี้สำหรับเด็กมาก่อน แต่การรวม “พลเมืองทุกคน” ไว้ในกฎระเบียบนี้ถือเป็นตัวอย่างที่หาได้ยาก รัฐบาลเมืองโตโยอาเกะย้ำว่าหวังว่ากฎระเบียบใหม่นี้จะกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนทางสังคมเกี่ยวกับผลกระทบของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่มีต่อชีวิตของเรา และกระตุ้นให้พ่อแม่ เด็กๆ และผู้สูงอายุได้ร่วมกันอภิปรายถึงความหมายที่แท้จริงของ “การใช้งานอย่างเหมาะสม”

















