ฟังแล้วสะอึก! สมรังสีชี้ไทย-เวียดนามคือตัวปัญหา แนะเขมรทำตัวดี ๆ เดี๋ยวฝรั่งช่วยเอง
“สม รังสี” ส่งสัญญาณถึงชาวเขมรและนานาชาติ: หยุดทำร้ายกันเอง แล้วจับมือสู้ศัตรูต่างชาติ
5 สิงหาคม 2568 – ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองภายในกัมพูชาที่ยังไร้ความแน่นอน พร้อมกับแรงกดดันจากภายนอกและความตึงเครียดกับประเทศเพื่อนบ้าน “สม รังสี” (Sam Rainsy) อดีตผู้นำฝ่ายค้านคนสำคัญของกัมพูชา ซึ่งลี้ภัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ได้โพสต์ข้อความสำคัญผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของเขา ส่งสารถึงชาวกัมพูชาและประชาคมโลก โดยเน้นย้ำแนวคิดหลักเกี่ยวกับ "การสามัคคีภายในชาติ" และ "การต่อต้านผู้บุกรุกจากต่างชาติ"
สารจากสม รังสีครั้งนี้ ถูกตีความได้หลายมิติ ทั้งในแง่ของความหวัง การเรียกร้องอิสรภาพ รวมถึงความเคลื่อนไหวที่อาจกระทบต่อทิศทางการเมืองภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต
จุดเริ่มต้นของสามัคคี: "หยุดทำร้ายกันเอง"
ในถ้อยคำที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สม รังสีระบุว่า:
“เพื่อต่อต้านผู้บุกรุกต่างชาติ ทั้งตะวันตกและตะวันออก เราต้องสามัคคีกัน และสามัคคีเริ่มจากการหยุดทำร้ายกันและกัน!”
ข้อความดังกล่าวชี้ให้เห็นถึงรากของปัญหาภายในที่กัดกินประเทศกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง — ความแตกแยก ความขัดแย้งระหว่างพี่น้องร่วมชาติ การคุกคามผู้เห็นต่าง และการจำกัดเสรีภาพของประชาชนในด้านความคิดและการเมือง
สม รังสีเสนอว่า การ “ยุติการข่มเหงชาวเขมร” จะต้องเริ่มจาก การปล่อยตัวนักโทษทางความคิด — ผู้ที่ถูกคุมขังเพียงเพราะแสดงออกทางความเห็นหรือมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างจากรัฐบาลปัจจุบัน
ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องมี “เสรีภาพ” และ “การเลือกตั้งที่ยุติธรรม”
หนึ่งในเงื่อนไขที่สม รังสีเน้นย้ำคือ หากกัมพูชาอยากได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากชุมชนนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น สหประชาชาติ สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และประเทศประชาธิปไตยอื่น ๆ กัมพูชาจะต้องแสดงความจริงใจในการเคารพหลักการประชาธิปไตยสากล
“เขามีเงื่อนไข คือ เชื่อฟังหลักการเสรีประชาธิปไตย ต้องผ่านการเลือกตั้งอย่างเสรี เป็นธรรม ตามเจตนารมณ์ของชาวเขมร”
การเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรมของสม รังสี ไม่ได้เป็นเพียงคำกล่าวเท่านั้น หากแต่สะท้อนเสียงของประชาชนชาวกัมพูจำนวนนับล้านที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่า “ผูกขาดอำนาจ” มานานหลายทศวรรษ
ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับโลกตะวันตก: ทางรอดของอธิปไตย?
สม รังสียังเสนอแนวทางว่า หากกัมพูชาเลือกที่จะเข้าร่วมกับประเทศตะวันตก เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ในฐานะ “หุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์” จะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าประเทศกำลังยึดมั่นในหลักการประชาธิปไตย และจะได้รับความเคารพในอธิปไตยจากประเทศเพื่อนบ้าน
“ถ้ากัมพูชาเข้าร่วมอเมริกาและยุโรปเป็นหุ้นส่วนเชิงกลยุทธ์ ประเทศเพื่อนบ้าน พวกเขาจะเคารพอำนาจอธิปไตยของเรา”
ข้อความดังกล่าวอาจตีความได้ว่าเป็นการแสดงความไม่ไว้วางใจต่อประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศที่อาจมีอิทธิพลต่อสถานการณ์ภายในของกัมพูชา — ไม่ว่าจะในรูปแบบการแทรกแซงทางการเมือง เศรษฐกิจ หรือความมั่นคง
สงครามเย็นเวอร์ชันเอเชีย: แรงกดดันจากจีน-สหรัฐฯ
ในฉากหลังของแถลงการณ์ของสม รังสี ยังมีมิติของ “เกมอำนาจระหว่างประเทศ” ที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่าง จีน และ สหรัฐอเมริกา ที่ต่างต้องการขยายอิทธิพลในภูมิภาคนี้
กัมพูชาในยุคของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน และปัจจุบันภายใต้การนำของ ฮุน มาแนต บุตรชายของเขา ถูกวิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่ามีแนวโน้มพึ่งพิงจีนในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคงอย่างลึกซึ้ง จนถูกมองว่าเป็น "รัฐลูกข่าย" ที่ขาดอิสระในเชิงนโยบาย
แน่นอนว่า สม รังสี ไม่ได้เอ่ยชื่อประเทศใดโดยตรง แต่การเน้นว่า “เราต้องต่อต้านผู้บุกรุกทั้งจากตะวันตกและตะวันออก” ทำให้เกิดข้อถกเถียงในหมู่ผู้สังเกตการณ์ว่าข้อความนี้อาจเป็น “การวิพากษ์อ้อม ๆ” ต่อรัฐบาลฮุน มาแนต ที่ยังไม่แสดงท่าทีห่างจากจีนอย่างชัดเจน
พรรคการเมืองทุกพรรคต้องร่วมมือ: สร้างกัมพูชาที่เป็นของทุกคน
อีกหนึ่งสารสำคัญในโพสต์ของสม รังสี คือ เขาเรียกร้องให้ พรรคการเมืองของชาวเขมรทุกพรรค ร่วมกันขอความช่วยเหลือจากประชาคมโลก เพื่อสร้างกัมพูชาที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ไม่ผูกขาดโดยกลุ่มอำนาจใดกลุ่มหนึ่ง
การแสดงจุดยืนเช่นนี้สะท้อนความพยายามของสม รังสี ที่ต้องการรวมพลังของกลุ่มการเมืองทุกฝ่าย โดยยกอุดมการณ์ชาติไว้เหนือความแตกต่างทางแนวทางหรือบุคคล เพื่อปลดปล่อยประเทศจากวงจรแห่งการกดขี่และการใช้อำนาจโดยมิชอบ
ความหวังหรือภาพลวงตา?
แม้แนวคิดของสม รังสี จะได้รับการสนับสนุนจากชาวกัมพูชาบางกลุ่ม รวมถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในเวทีโลก แต่ในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงในกัมพูชานั้นเป็นเรื่องยากยิ่ง
ฝ่ายรัฐบาลยังคงควบคุมสื่อมวลชน ระบบราชการ และโครงสร้างอำนาจในประเทศ
นักการเมืองฝ่ายค้านส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ หรือต้องหลบหนีการจับกุม
กฎหมายเลือกตั้งฉบับใหม่ที่บังคับใช้ มีแนวโน้มจำกัดโอกาสของฝ่ายค้าน
คำถามคือ สม รังสี และแนวร่วมของเขา จะสามารถสร้างแรงกระเพื่อมในประเทศได้เพียงใดในเวลานี้?
บทสรุป: กัมพูชาในทางแยก
โพสต์ของสม รังสีครั้งนี้ อาจเป็นเพียงข้อความสั้น ๆ ไม่กี่บรรทัดในโลกออนไลน์ แต่กลับเปี่ยมด้วยนัยยะทางการเมืองที่ลึกซึ้ง ทั้งในมุมของ ประชาธิปไตย, อธิปไตย, และ ยุทธศาสตร์ความร่วมมือระหว่างประเทศ
ณ วันนี้ กัมพูชายืนอยู่บนทางแยกสำคัญ — ทางหนึ่งคือการยึดมั่นในระบอบเดิมที่มีข้อจำกัดด้านเสรีภาพ กับอีกทางหนึ่งคือการเปิดรับแนวทางประชาธิปไตยเสรีในเวทีสากล
อนาคตของประเทศจะเดินไปในทิศทางใดนั้น คงต้องขึ้นอยู่กับ “เจตจำนงของประชาชนชาวเขมร” ว่าจะเลือกให้ใครนำพา และจะยอมสู้เพื่ออิสรภาพมากน้อยแค่ไหน
ปิดฉากจักรวาล เพิกถอน JKN ออกจากตลาดหลักทรัพย์
ต้นไม้เดินได้ ในป่าอเมซอน
เปิดตำนาน "ไซยาไนด์": จากความบังเอิญทางศิลปะ สู่สารพิษพลิกประวัติศาสตร์โลก
'น้องฉัตร' ทวงบัลลังก์! บินเดี่ยวเหินฟ้า 'ดูไบ-ซาอุฯ' เสกความปังให้ 'ไบรท์-ฝ้าย'
7 มัจจุราชเงียบ: เปิดตำนานการวางยาพิษครั้งยิ่งใหญ่ที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลก
เบื้องหลัง "หัวปากกา" ชิ้นจิ๋ว ความยากระดับสร้างยานอวกาศ ที่มหาอำนาจหลายชาติยังยอมแพ้
ราชันย์โพแทสเซียม" ชนะกล้วย! เผยอาหารลับฟื้นกล้ามเนื้อ สู้หนาวได้ดี
ร้ายกว่าน้ำมันหมู "ราชาแห่งไขมันอิ่มตัว" ทำลายหลอดเลือดที่หลายคนไม่คาดคิด
"ลาพิสลาซูลี" (Lapis Lazuli) มัจจุราชสีน้ำเงิน สัญลักษณ์เเห่งอำนาจในประวัติศาสตร์
จ.ส.อ.ศตวรรษ สุจริต พลีชีพปกป้องอธิปไตยชาติ
เปิดภาพของฝากให้เขมร
ภาษาที่ควรเรียนที่สุด ในอีก5ปีข้างหน้า




