เดือดแต่เช้า ชาวบ้านตื่นมาพร้อมเสียงระเบิด… กัมพูชายิงใส่ไทยถึงบ้าน
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมบังเอิญไปเจอข่าวหนึ่งที่อยากจะเอามาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกันครับ เป็นเหตุการณ์ที่บอกตรงๆ ว่าอ่านแล้วหัวร้อนจี๊ดขึ้นมาทันที แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกำลังดูหนังสงครามแบบไม่ตั้งตัว เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่ข่าวต่างประเทศไกลตัว แต่มันคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้านเราเลยครับ!
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งจังหวัดสุรินทร์ครับ เมื่อเช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 06.40 น. เกิดเหตุการณ์ที่เรียกได้ว่า "เปิดฉากรบ" เลยก็ว่าได้ เมื่อกัมพูชาดันตัดสินใจ "ยิงปืนใหญ่" ใส่พื้นที่ฝั่งไทยแบบไม่เกรงใจใคร!
บ้านเรือนของประชาชนใน อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดนกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาเข้าไปเต็มๆ บางหลังเกิดไฟไหม้เสียหายหนัก ยังดีที่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตออกมา แต่แค่นี้ก็นับว่าอันตรายสุดๆ แล้วครับ
ย้อนกลับไปนิดนึงก่อนเกิดเหตุ 06.40 น. รายงานระบุว่า ตั้งแต่ช่วงประมาณตี 4 ครึ่ง เสียงปืน เสียงระเบิดเริ่มดังขึ้นจากฝั่งกัมพูชา บริเวณใกล้ปราสาทตาควาย ซึ่งเป็นพื้นที่แนวชายแดน จากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ตอนประมาณตี 5 ครึ่ง ฝั่งกัมพูชาก็จัดหนักเข้าไปอีก ด้วยการยิงอาวุธหนักลักษณะคล้าย BM-21 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “รถยิงจรวดหลายลำกล้อง” ใส่ฝั่งไทย งานนี้ไทยก็ไม่ยอมง่ายๆ ตอบโต้กลับไปด้วยอาวุธหนักเช่นกัน เรียกได้ว่า กลางป่ากลางเขาในแถบนั้นแทบกลายเป็นสมรภูมิย่อยๆ ไปเลย!
จวบจนเวลา 07.00 น. ก็ยังคงได้ยินเสียงระเบิด เสียงยิงปืนอยู่เป็นระยะๆ ครับ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบรายละเอียดได้มากนัก เพราะสถานการณ์ยังไม่สงบ
ถามว่าทำไมผมถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญและอยากมาเล่าให้ฟัง? ก็เพราะว่า นี่ไม่ใช่แค่เหตุการณ์เล็กๆ ระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน แต่มันคือการรุกราน! การยิงปืนใหญ่เข้ามาใส่บ้านเมืองเรา ยิงเข้ามาในเขตที่มีประชาชนอยู่ นั่นหมายถึงเขาไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพอธิปไตยของเราเลยแม้แต่น้อย!
แล้วถามว่าเราตอบโต้ยังไง? จากรายงานที่ออกมา ไทยไม่ได้อยู่เฉยแน่นอนครับ ฝ่ายความมั่นคงไทยมีการโต้ตอบด้วยอาวุธเช่นกัน เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนและอธิปไตยของประเทศ แต่คำถามก็คือ... นี่มันแค่จุดเริ่มต้นหรือเปล่า?
เพราะช่วงที่ผ่านมา กระแสในต่างประเทศเองก็เริ่มจับตามองการเคลื่อนไหวของผู้นำกัมพูชาและนโยบายของฮุนมาเนต ลูกชายของฮุนเซนที่เพิ่งขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง โดยเฉพาะนโยบายเรื่องชายแดน และการจัดวางกำลังทหารใหม่ตามแนวชายแดน
มีหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ฝั่งกัมพูชากำลังเล่นเกมอะไรบางอย่างอยู่หรือไม่? หรือว่ากำลังทดสอบปฏิกิริยาของไทย? เพราะเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดจากข้อพิพาททันทีทันใด แต่กลับเป็นการเริ่มต้นยิงก่อนจากฝั่งเขาอย่างชัดเจน
ในโซเชียลเองก็เริ่มพูดถึงกันเยอะมากครับ บางคนก็ห่วงคนในพื้นที่ บางคนก็ตั้งคำถามถึงท่าทีของรัฐบาลไทย ว่าจะรับมือยังไง จะเจรจายังไง หรือสุดท้ายจะปล่อยให้เรื่องเงียบเหมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นอีก?
ส่วนตัวผมมองว่า เรื่องนี้ควรต้องเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ และเราทุกคนไม่ควรนิ่งเฉย เพราะวันนี้เขายิงเข้ามาแล้ว ถ้าไม่มีการตอบโต้อย่างหนักแน่น หรือไม่มีการดำเนินการทางการทูตที่เข้มข้น พรุ่งนี้อาจมีเหตุการณ์ที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ก็ได้
อีกอย่างคือ ผมอยากขอชื่นชมทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่แนวหน้า พวกเขาคือกำแพงด่านแรกที่ปกป้องพวกเราทุกคน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็ขอให้ทุกคนปลอดภัย และรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างมั่นคงครับ
ใครที่อยู่ในพื้นที่สุรินทร์ หรือพื้นที่ใกล้เคียง ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือภาพจากสถานการณ์จริง ก็อยากให้มาแชร์กันหน่อยนะครับ เพราะยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ ยิ่งเตรียมตัวได้ดีเท่านั้น
สุดท้ายนี้ ผมไม่ได้มาเพื่อ煽หรือให้เกิดความเกลียดชังต่อเพื่อนบ้านนะครับ แต่ผมเชื่อว่า การเคารพกันต้องมีขอบเขต และเมื่อใครก็ตามล้ำเส้นเข้ามาในบ้านเรา ก็ไม่ควรนั่งเฉยให้เขาเหยียบพรมหน้าบ้านเฉยๆ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ ถ้าใครมีความเห็นยังไง หรือคิดว่าเราควรทำอะไรต่อจากนี้ ก็คอมเมนต์พูดคุยกันได้เลย
#ชายแดนเดือด #สุรินทร์ #ไทยกัมพูชา #ยิงปืนใหญ่ #ฮุนมาเนต #ข่าวเช้าเดือด
อ้างอิงจาก: coffeeman
















