ผู้นำหลายประเทศออกมาแสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างไทย–กัมพูชา
ผู้นำหลายประเทศออกมาแสดงจุดยืนต่อเหตุการณ์ความรุนแรงระหว่างไทย–กัมพูชา หลังฝั่งเขมรเปิดฉากโจมตีพื้นที่ชายแดนไทยอย่างหนัก
จากสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย–กัมพูชาที่ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง ล่าสุดผู้นำหลายประเทศทั่วโลกต่างแสดงความเป็นห่วง และมีหลายรายถึงขั้น "ประณาม" การใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่มีการโจมตีพื้นที่พลเรือนของไทย
ทรัมป์ อดีตปธน.สหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ "หยุดยิงทันที" พร้อมพูดตรงๆ ว่า หากไม่ยุติความรุนแรง ก็จะไม่มีการค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้น และบอกว่าสถานการณ์นี้คล้ายกับกรณีอินเดีย–ปากีสถาน ที่เคยมีแนวโน้มรุนแรง แต่สามารถหาทางออกได้
อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯ มาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนตอนนี้ ก็ออกมาเสนอตัวเป็นคนกลางเจรจาระหว่างไทย–กัมพูชา และบอกว่าทางภูมิภาคไม่ควรปล่อยให้ความรุนแรงบานปลาย
UN เรียกประชุมฉุกเฉินเรื่องนี้ และย้ำให้หยุดยิงทันที ไม่ว่าจะเป็นฝั่งไหนก็ตาม พร้อมขอให้เคารพหลักสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประชาชนและเด็กได้รับผลกระทบ
EU ก็ออกแถลงการณ์เช่นกัน ว่ารู้สึกกังวลอย่างมากกับสถานการณ์ และขอให้ทั้งสองประเทศเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ
ฝั่ง ไทย เอง นายเชิดชัย ไชยวิเศษ เอกอัครราชทูตประจำ UN กล่าวในที่ประชุมว่า กัมพูชาเริ่มก่อนโดยไม่มีการเตือน โจมตีโรงเรียน โรงพยาบาล และชุมชนโดยตรง และขอให้ประชาคมโลกอย่าเพิกเฉย
ขณะที่ นายภูมิธรรม รักษาการนายกฯ ของไทย ก็ย้ำว่า “ไทยไม่ต้องการสงคราม แต่ก็จะไม่ยอมเสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียวของประเทศ”
ทางกัมพูชา เองก็โต้กลับว่า ไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และกล่าวหาว่าไทยยิงใส่พื้นที่ของเขาก่อน ทำให้ทหารและพลเรือนของเขาได้รับบาดเจ็บ จึงจำเป็นต้องตอบโต้กลับ
ด้าน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมาแสดงความเห็นว่า การกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ และไทยเองก็ปฏิบัติการภายใต้หลักการสากล ไม่ได้มุ่งเป้าทำร้ายพลเรือน
ล่าสุดยังคงมีประชาชนจำนวนมากอพยพออกจากพื้นที่ชายแดน ฝั่งไทยมีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย หลายหมู่บ้านได้รับความเสียหายหนัก
ตอนนี้ทุกฝ่ายในเวทีโลกต่างจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด และยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการหยุดยิงเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ที่มา: ต่างประเทศ





















