ภูมิธรรม ย้ำเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาไม่ใช่สงคราม
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์กรณีเหตุปะทะระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชาบริเวณชายแดนไทย หลังเกิดการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตประเทศไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย (พลเรือน 10 ราย และทหาร 1 นาย) และผู้บาดเจ็บ 28 ราย
ภายหลังการประชุม สมช. และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ นายภูมิธรรมได้แถลงว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ถือเป็นการประกาศสงคราม แต่เป็นเพียงเหตุปะทะที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการยั่วยุของฝ่ายกัมพูชา พร้อมย้ำว่าประเทศไทยยึดมั่นในหลักสันติวิธีและพยายามหาทางออกด้วยการเจรจา ทว่าต้องปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
ในด้านการดูแลประชาชน รัฐบาลได้สั่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนออกไปในรัศมี 50 กิโลเมตร เพื่อความปลอดภัย พร้อมเตรียมโรงพยาบาลสนามในพื้นที่แนวหลัง และสั่งปิดโรงเรียนใกล้แนวชายแดนชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีมาตรการเยียวยาผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตตามระเบียบที่กำหนดไว้
ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศได้ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา เรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศ และส่งตัวเอกอัครราชทูตกัมพูชากลับประเทศ ขณะเดียวกัน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจที่นครนิวยอร์ก ได้รายงานสถานการณ์ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายภูมิธรรมยังย้ำให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิด และระมัดระวังการเผยแพร่ข่าวลือหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้สถานการณ์บานปลาย พร้อมยืนยันว่ากองทัพไทยมีความพร้อมในการปกป้องประเทศและประชาชนอย่างเต็มที่
รัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อรักษาอธิปไตยและความสงบเรียบร้อย พร้อมเร่งหาทางยุติสถานการณ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด



















