เกาหลีเหนือ "ห้ามคนหน้าอกใหญ่" เดินตามท้องถนน
เปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ได้สั่งปราบปรามการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ซึ่งผิดกฎหมายของเกาหลีเหนืออย่างเข้มงวด หลังจากเกิดกรณีต่างๆมากมาย โดยกล่าวหาว่า "การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงออกถึง อุดมการณ์ทุนนิยมที่ฉ้อฉล ที่ได้รับมาจากชาติตะวันตก"
กระทรวงประกันสังคมของเกาหลีเหนือ ได้ออกคำสั่งฉุกเฉินถึงกรมความมั่นคงกรุงเปียงยาง โดยเรียกร้องให้มีการปราบปราม การศัลยกรรมเสริมหน้าอก ที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างครอบคลุม ซึ่งทางกรมความมั่นคงกรุงเปียงยาง ก็เชื่อว่าการศัลยกรรมดังกล่าว เป็นพฤติกรรมที่ไม่เข้าสังคม พร้อมวิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิงว่า "ได้รับอิทธิพลจากระบบทุนนิยมและใช้ชีวิตแบบขี้เกียจ ตั้งแต่การทำตาสองชั้นและการสักคิ้วในอดีต ไปจนถึงการเสริมหน้าอกในปัจจุบัน พวกเธอค่อยๆ เบี่ยงเบนไป จากค่านิยมหลักของสังคมนิยม ของเกาหลีเหนือ"
ในพื้นที่ที่ข้าราชการระดับสูงและครอบครัวอาศัยอยู่ เช่น เขตเซ็นทรัลและเขตเปียงยาง ผู้หญิงอายุ 20-30 ปี กำลังมองหารูปร่างที่อวบอิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และ แม้แต่การเสริมหน้าอกก็กลายเป็นเทรนด์ ที่ได้รับความนิยมในเกาหลีเหนือ และ เมื่อถึงช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ผู้หญิงหลายคนต่างต้องการอวดหุ่นสวยในชุดว่ายน้ำ และ ความต้องการศัลยกรรมในปีนี้ ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้สั่งห้ามการผ่าตัดดังกล่าว สถาบันทางการแพทย์จึงไม่สามารถให้บริการที่เกี่ยวข้องได้ ศัลยแพทย์บางรายใช้บ้านของตนเอง เพื่อทำการผ่าตัดอย่างลับๆ และ ใช้วัสดุซิลิโคนที่นำเข้าจากจีนอย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมในการผ่าตัดเหล่านี้ ขาดการจัดการสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ส่งผลให้มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ มีกรณีหนึ่งเกิดขึ้นที่เขตถงกง เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยหญิงวัย 30 ปีรายหนึ่ง มีผลข้างเคียงร้ายแรงหลังจากเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก 2 ครั้ง ต่อมาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดถูกจับกุม หลังจากการสอบสวนพบว่าเขา เป็นทันตแพทย์ที่ไม่มีคุณสมบัติทางศัลยกรรม และ ทำการผ่าตัดแบบผิดกฎหมาย เพื่อแสวงหากำไรเท่านั้น
เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงความมั่นคงทางสังคม ได้สั่งการให้กรมความมั่นคงแห่งกรุงเปียงยาง เริ่มปฏิบัติการปราบปรามอย่างเข้มข้น และ จัดตั้งทีมปราบปรามพิเศษ วิธีการปราบปรามประกอบด้วย การส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวที่ปลอมตัวเป็นผู้ป่วย เข้าไปในคลินิกผิดกฎหมาย หรือ ร่วมมือกับหัวหน้าหน่วยลาดตระเวนตามท้องถนน เพื่อค้นหาผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่ผิดปกติ จากนั้นนำตัวไปยังสถานีตำรวจ หรือ โรงพยาบาลเพื่อสอบสวนและตรวจร่างกาย หากพบร่องรอยการผ่าตัด เจ้าหน้าที่จะทำการจับกุมหญิงคนดังกล่าว พร้อมสืบหาว่าแพทย์คนใด เป็นคนผ่าตัดให้เธอเพื่อจับกุม
ในขณะนี้ ทีมปฏิบัติการภาคเอกชน ได้ถูกส่งตัวไปยังใจกลางกรุงเปียงยา งเพื่อเริ่มปฏิบัติการ ผู้หญิงที่ถูกจับกุมและแพทย์ที่เกี่ยวข้อง อาจถูกตั้งข้อหา "พฤติกรรมที่ไม่เข้าข่ายสังคมนิยม" ซึ่งอาจถูกลงโทษด้วยการ ฝึกงานแรงงานและบทลงโทษอื่นๆอีกมากมาย และ ยังออกกฎหมายว่าด้วย "การห้ามคนที่มีหน้าอกใหญ่ เดินทางท้องถนนอีกด้วย" ซึ่งการมีหน้าอกใหญ่ แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงคนนั้น สนับสนุนพวกชาติตะวันตก ซึงจำเป็นต้องไปรับการผ่าตัดเพื่อลดขนาดหน้าอก เพื่อไม่ให้ผิดกฎหมายและโดนจับกุม...






















