“ไทยลั่น! หนุนคุยตรง ยุติไฟขัดแย้งกัมพูชา ไม่เอา ‘ไกล่เกลี่ยหลายต่อ’”
ในขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ยังร้อนระอุจากเหตุปะทะที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บต่อเนื่อง ล่าสุดประเทศไทยออกท่าทีชัดขึ้น โดยยืนยันว่าต้องการเห็น การเจรจาโดยตรงระหว่างสองประเทศ มากกว่าการเปิดวงไกล่เกลี่ยหลายชั้นหรือดึงมือที่สามเข้ามา
ท่าทีนี้ถูกสื่อหลายสำนักทั้งในและต่างประเทศนำเสนอ โดยฝ่ายความมั่นคงของไทยให้เหตุผลว่า การเปิดวงพูดคุยกันตรง ๆ ระหว่างไทยกับกัมพูชา จะช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายง่ายกว่า เพราะสองฝ่ายต่างรู้บริบท ข้อมูล และพื้นที่ข้อพิพาทดีกว่าคนกลางที่อยู่ไกล
📌 ทำไมไทยถึงไม่อยากมี “มือที่สาม”?
หลายคนสงสัยว่าทำไมไทยถึงไม่อยากให้มีตัวกลาง แม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนเองก็พร้อมเสนอตัวเป็นผู้ประสาน อาทิ มาเลเซียหรือสิงคโปร์
เหตุผลหนึ่งมาจากประสบการณ์ในอดีต ที่ไทย–กัมพูชา เคยมีข้อพิพาทใหญ่ช่วงปี 2010–2011 บริเวณ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งครั้งนั้นมีหลายประเทศและองค์กรระหว่างประเทศพยายามเข้ามาช่วยเจรจา แต่สุดท้ายกลับซับซ้อนและยืดเยื้อ
ฝ่ายไทยจึงเห็นว่า การพูดคุยโดยตรงระหว่างผู้นำหรือรัฐมนตรีกลาโหม จะทำให้ทุกอย่างตกลงกันได้จริง ลดปัญหาการตีความผิดพลาดและไม่ถูกแทรกแซงจากวาระทางการเมืองของประเทศที่ 3
⚡ รัสเซียก็เรียกร้องให้ใช้โต๊ะเจรจา
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา รัสเซียผ่านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศก็ออกมาสนับสนุนแนวทางเดียวกัน โดยเรียกร้องให้ไทย–กัมพูชา ยับยั้งชั่งใจ และหาทางออกด้วย สันติวิธี เน้นว่าอาเซียนควรรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและใช้กลไกภายในแก้ปัญหา
สอดคล้องกับท่าทีของไทยที่ประกาศว่า ถ้าเจรจาตรงได้ จะไม่สร้างเงื่อนไขให้คนกลางเข้ามาแทรก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งเขตแดน วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชนสองฝั่ง
🕊️ ไฟชายแดน – บาดแผลที่ยังไม่หาย
พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา มีเส้นเขตแดนยาวหลายร้อยกิโลเมตร บางช่วงเป็นป่าเขา บางช่วงเป็นหมู่บ้านติดแนวชายแดน โดยเฉพาะบริเวณใกล้ ปราสาทพระวิหาร และเขตป่าทับซ้อนยังคงเป็นจุดเปราะบาง แม้จะมีคำตัดสินจากศาลโลกเรื่องสิทธิ์ครอบครองตัวปราสาทแล้วก็ตาม
แต่พื้นที่รอบปราสาทยังถูกใช้ประโยชน์โดยคนทั้งสองฝั่ง ทั้งทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ มีวัดและโรงเรียนติดแนวเขตแดน ทำให้โอกาสปะทะยังเกิดขึ้นได้เสมอ หากมีกองกำลังเคลื่อนย้ายผิดพลาดหรือมีสิ่งปลูกสร้างถาวรล้ำเขต
🔥 เกมการเมืองหลังชายแดน
หลายฝ่ายยังวิเคราะห์ว่าความขัดแย้งครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ข้อพิพาทเรื่องแผ่นดินเท่านั้น แต่ยังโยงกับประเด็นเศรษฐกิจและผลประโยชน์ เช่น การเปิดคาสิโนถูกกฎหมายของไทย ที่อาจแย่งรายได้จากฝั่งกัมพูชา รวมถึงการกวาดล้างศูนย์โกงออนไลน์ ที่มีข่าวเชื่อมโยงถึงกลุ่มผู้มีอำนาจในกัมพูชาเอง
เมื่อการเมืองในกัมพูชาต้องรักษาฐานอำนาจด้วยเงินจากธุรกิจสีเทา ขณะที่ไทยต้องการกำจัดปัญหาข้ามชาติ จึงทำให้ไฟชายแดนครั้งนี้ซับซ้อนกว่าการแค่เขียนแผนที่ใหม่
✅ สรุป : ไทยเดินเกมคุยตรง
- ไทยยืนยันให้ใช้การเจรจาโดยตรงกับกัมพูชา
- ไม่อยากให้มีคนกลางหลายต่อเพราะอาจยืดเยื้อ
- รัสเซียเองก็หนุนให้ใช้วิธีโต๊ะเจรจาสันติ
- ความขัดแย้งครั้งนี้โยงการเมือง เศรษฐกิจ และเขตแดนทับซ้อน
- ประชาชนสองฝั่งยังเฝ้ารอว่า “เสียงปืน” จะเงียบเมื่อไร
ในขณะที่ไฟยังคงลุกโชนบนแนวชายแดน สิ่งที่คนไทยและคนกัมพูชาหวังคือให้ผู้นำทั้งสองประเทศ คุยกันได้จริง และลงมือแก้ปัญหาโดยไม่ต้องมีเสียงปืนมาลั่นซ้ำเหมือนอดีต
📌 แชร์ข่าวนี้ เพื่อให้คนเห็นว่าทุกวิกฤตยังมีทางออก ถ้าเรากล้าคุยตรงกันจริง ๆ ✌️🌏
อ้างอิงจาก: รอยเตอร์ bbc cnn






















