อีลอน มัสก์ ดับเน็ต! ปิด Starlink สกัดยูเครนรุกยึดพื้นที่รัสเซีย ทำไม SpaceX ถึงเลือกขัดขวาง?”
กลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกการเมืองและเทคโนโลยีอีกครั้ง เมื่อ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีเบอร์ต้นของโลก เจ้าของอาณาจักร SpaceX และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink ถูกเปิดโปงว่ามีคำสั่งปิดบริการ Starlink บางส่วนในเขตที่ยูเครนกำลังเปิดปฏิบัติการทวงคืนดินแดนจากรัสเซีย
แม้มัสก์จะไม่ได้ออกมายอมรับต่อสาธารณะโดยตรง แต่สื่อใหญ่หลายสำนัก เช่น CNN, BBC และ Financial Times ต่างรายงานตรงกันว่า คำสั่งนี้เกิดขึ้นเพื่อลดความเป็นไปได้ที่ยูเครนจะใช้ Starlink เชื่อมสัญญาณโดรนและระบบอาวุธ เพื่อโจมตีรัสเซียลึกเข้าไปในพื้นที่ยึดครอง
🚀 Starlink – อินเทอร์เน็ตเปลี่ยนเกมสงคราม
ในสงครามยูเครน–รัสเซีย ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา Starlink กลายเป็น “อาวุธลับ” ของยูเครน เพราะช่วยให้กองทัพยูเครนยังคงสื่อสารและควบคุมโดรนได้แม้ในพื้นที่ที่รัสเซียพยายามทำลายเครือข่ายสัญญาณทุกชนิด
รัฐบาลยูเครนต้องพึ่งพา Starlink อย่างมหาศาล ทั้งในแนวหน้าและการกู้ภัยในเมืองที่โดนระเบิด แม้จะไม่ได้ส่งกำลังพลหรืออาวุธโดยตรง แต่ว่ากันว่า Starlink คือ “สายเลือดดิจิทัล” ของยูเครนในสงครามนี้เลยก็ว่าได้
📌 แล้วทำไมมัสก์ถึงสั่งปิด?
จุดเปลี่ยนอยู่ที่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เมื่อยูเครนพยายามใช้สัญญาณ Starlink ในการเชื่อมต่อฝูงโดรนโจมตีทางทะเล เพื่อบุกเข้าไปในน่านน้ำที่รัสเซียยึดครอง โดยเฉพาะบริเวณ แหลมไครเมีย ที่รัสเซียผนวกไปตั้งแต่ปี 2014
รายงานข่าวระบุว่า มัสก์มองว่าการเปิดให้ยูเครนใช้ Starlink เพื่อ “รุกโจมตีลึก” ในพื้นที่รัสเซียหรือพื้นที่ยึดครอง อาจทำให้ SpaceX ถูกลากเข้ามาเป็น “คู่สงคราม” ทางกฎหมาย และกลายเป็นชนวนให้รัสเซียโต้ตอบ SpaceX ทางธุรกิจหรือทางทหารได้
ผลคือ มัสก์จึงสั่งให้วิศวกรของ SpaceX ปิดสัญญาณ Starlink ในบางโซน ทำให้โดรนยูเครนหลายหน่วยไม่สามารถปฏิบัติภารกิจได้จนต้องล้มเลิกไป
⚡ เสียงวิจารณ์ – ยุติสงครามหรือปกป้องผลประโยชน์?
ฝั่งผู้สนับสนุนยูเครนหลายคนมองว่ามัสก์กำลัง “เล่นสองหน้า” เพราะขณะหนึ่งก็บริจาคจานรับสัญญาณ Starlink หลายพันชุดให้ยูเครนใช้สู้กับรัสเซีย แต่ขณะเดียวกันกลับปิดสัญญาณในพื้นที่สำคัญช่วงที่ยูเครนกำลังได้เปรียบ
มัสก์เองออกมาให้เหตุผลว่า เขาแค่ไม่อยากให้ Starlink ถูกใช้เป็นเครื่องมือขยายสงคราม เพราะสิ่งที่เขากลัวคือสงครามจะบานปลายไปถึงนิวเคลียร์ หรือทำให้ชาวรัสเซียถูกโจมตีลึกเกินไปจนสันติภาพยิ่งยากขึ้น
แต่ฝ่ายนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่ามัสก์ก็กำลัง รักษาผลประโยชน์ธุรกิจ ของ SpaceX เพราะถ้ารัสเซียตอบโต้ด้วยมาตรการทางไซเบอร์หรือทางกฎหมาย โครงการปล่อยดาวเทียมของเขาอาจเจอปัญหาใหญ่ทั้งในตลาดยุโรปและเอเชีย
🕊️ ใครได้–ใครเสีย
คำถามใหญ่คือ สุดท้ายแล้วใครได้ประโยชน์? หากยูเครนถูกจำกัดความสามารถทางเทคโนโลยี การยึดพื้นที่คืนจะยากขึ้น ขณะที่รัสเซียอาจมีเวลาเสริมกำลังและสร้างแนวป้องกันใหม่
ส่วนมัสก์ได้ชื่อว่าเป็นคนกลางทางเทคโนโลยี ที่ไม่ “เข้าข้างใครเกินไป” แต่ก็ถูกมองว่าการดึงปลั๊กครั้งนี้เหมือนช่วยรัสเซียทางอ้อม โดยแลกกับการไม่ให้บริษัทตัวเองโดนลากเข้าสู่สงครามเต็มตัว
✅ สรุป
- Starlink กลายเป็นสายเลือดดิจิทัลที่ช่วยให้ยูเครนสู้รบได้
- มัสก์สั่งปิดสัญญาณในบางพื้นที่ หวั่นยูเครนใช้โจมตีรัสเซียลึกเกินไป
- ฝั่งยูเครนมองว่านี่คือการขัดขวางการยึดพื้นที่คืน
- นักวิเคราะห์เชื่อว่ามัสก์เลือกปกป้อง SpaceX จากการเป็นเป้าโจมตี
- บทเรียนใหญ่คือ เทคโนโลยีไม่ได้เป็นกลางเมื่อสงครามขยายตัว
นี่คืออีกหนึ่งภาพสะท้อนของโลกยุคใหม่ ที่ดาวเทียมของเอกชนสามารถเปลี่ยนสมดุลสงครามได้เพียงแค่กดเปิดหรือปิดสัญญาณ
ถ้าคุณคิดว่าควรให้เพื่อนรู้ แชร์บทความนี้ เพราะเกมสงครามวันนี้ไม่ได้มีแค่ปืน–รถถัง–ระเบิด แต่อาจอยู่บนมือของมหาเศรษฐีคนเดียว! 🚀🌏
อ้างอิงจาก: bbc cnn















