“ฮุน มาเนต โวย! ไทยรับปากหยุดยิง แต่กลับลำไม่ยอมจบ กัมพูชายันไม่ได้เริ่มก่อน”
✅ เมื่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาที่หลายคนกำลังจับตามองยังไม่จบลงง่าย ๆ ล่าสุดเกิดประเด็นใหม่ เมื่อ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาแถลงจุดยืนชัดเจนว่า “กัมพูชาไม่ใช่ฝ่ายเริ่ม” พร้อมเผยว่า ไทยเคยตกลงจะหยุดยิงแล้ว แต่กลับไม่ทำตามที่คุยกันคำให้สัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮุน มาเนต มีการหารือโดยตรงกับ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่ คนกลาง ช่วยประสานให้สองประเทศเพื่อนบ้านยุติเหตุรุนแรงชายแดน ที่เพิ่งทำให้มีทหารและพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วหลายสิบราย
📌 นายกฯ กัมพูชา ย้ำไทย “พูดแล้วไม่ทำ”
ฮุน มาเนต เผยกับสื่อท้องถิ่นและนักข่าวต่างชาติว่า หลังจากพูดคุยกับนายกฯ อันวาร์ ไทยได้แสดงท่าทีพร้อมจะ หยุดยิงชั่วคราว เพื่อเปิดทางให้เจรจา ลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนที่มีข้อพิพาท
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความเป็นจริงคือ หลังการหารือกลับยังมีเสียงปืนใหญ่และการโจมตีตอบโต้กันอย่างต่อเนื่อง จนฝั่งกัมพูชามองว่า ไทย กลับลำ ไม่ทำตามข้อตกลง
ฮุน มาเนต ระบุชัดว่า ฝ่ายเขา ไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นเหตุปะทะ แต่กองทัพกัมพูชาจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย และตอบโต้เมื่อถูกโจมตี ซึ่งเป็นสิทธิที่รัฐมีตามกฎหมายระหว่างประเทศ
⚡ ย้อนรอยไฟชายแดน – ทำไมหยุดยาก?
วิกฤตชายแดนไทย–กัมพูชา รอบนี้ถูกมองว่า ตึงเครียดที่สุดในรอบหลายปี นับตั้งแต่เหตุปะทะใหญ่เมื่อปี 2010–2011 บริเวณพื้นที่รอบ ปราสาทพระวิหาร ที่แม้จะถูกศาลโลกตัดสินให้เป็นของกัมพูชา แต่พื้นที่รอบ ๆ ยังคงมีชาวบ้านสองฝ่ายใช้ประโยชน์ทับซ้อนกัน ทำให้จุดนี้กลายเป็น ชนวนระเบิด ได้ง่ายมากการโจมตีล่าสุดลุกลามจนไทยตัดสินใจ ยกระดับการตอบโต้ โดยมีรายงานว่าไทยนำ เครื่องบิน F-16 ขึ้นบินจริงเป็นครั้งแรกเพื่อป้องปรามการยิงปืนใหญ่ของกัมพูชา ซึ่งฝ่ายกัมพูชาอ้างว่ายิงตอบโต้เพราะไทยเคลื่อนกำลังเข้ามาใกล้เกินไป
🕊️ อันวาร์ กลางวงไฟ – มาเลเซียยื่นมือหาทางออก
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซีย ถือเป็นผู้นำประเทศอาเซียนคนแรก ๆ ที่ลงมาเป็น ตัวกลาง ประสานให้ทั้งสองประเทศลดระดับความรุนแรง เพราะหากปล่อยให้เหตุปะทะลุกลาม อาจกระทบภาพลักษณ์อาเซียนทั้งภูมิภาค
อันวาร์พยายามใช้วิธีเจรจาทางโทรศัพท์และการติดต่อทางการทูต เพื่อให้ไทย–กัมพูชา ประกาศหยุดยิงชั่วคราว และนัดหารือในระดับรัฐมนตรีกลาโหมหรือผู้นำโดยตรง แต่จากท่าทีล่าสุดของฮุน มาเนต ดูเหมือนความพยายามนี้จะยังไม่ราบรื่น
🎰 เงื่อนไขเบื้องหลัง – เกมการเมือง–เศรษฐกิจยังซ่อนอยู่
หลายฝ่ายยังมองว่าไฟชายแดนรอบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องพื้นที่พิพาทเพียงอย่างเดียว แต่โยงถึง ปมผลประโยชน์เศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่อง ศูนย์หลอกลวงออนไลน์ และธุรกิจสีเทาที่มีข่าวว่าเชื่อมโยงกับบุคคลระดับสูงในกัมพูชา
ก่อนหน้านี้ ไทยเพิ่งจับกุม “ก็อดฟาเธอร์แห่งปอยเปต” คนสนิทตระกูลฮุน ทำให้เครือข่ายธุรกิจสีเทากระทบเต็ม ๆ ขณะเดียวกัน ไทยก็เตรียมเปิด คาสิโนถูกกฎหมาย แข่งกับกัมพูชาโดยตรง สิ่งนี้จึงยิ่งทำให้หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า เหตุปะทะชายแดนอาจเป็น “หมากต่อรอง” ระหว่างกันในเวทีเบื้องหลัง
✅ จบจริงหรือจบแค่ปาก?
แม้ฮุน มาเนต จะย้ำว่ากัมพูชาไม่ต้องการสู้รบและพร้อมหาทางออกด้วยการเจรจา แต่เมื่อเสียงปืนยังดัง ความหวังหยุดยิงก็ยังดูเลือนราง ยิ่งถ้าการเมืองเบื้องหลังยังซับซ้อนและโยงผลประโยชน์ระดับพันล้านดอลลาร์
คำถามคือ ไทย–กัมพูชา จะถอยได้จริงเมื่อไร? การหยุดยิงที่ผู้นำประกาศผ่านคนกลางจะเป็นจริงหรือแค่ลมปาก? และประชาชนริมชายแดนจะปลอดภัยได้แค่ไหน?
เหตุปะทะชายแดนครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสองประเทศเพื่อนบ้าน แต่คือบททดสอบสำคัญว่า อาเซียน จะจัดการไฟในบ้านตัวเองได้แค่ไหน ก่อนที่จะลุกลามกลายเป็นวิกฤตใหญ่ที่คนธรรมดาต้องรับกรรมแทน📌 ถ้าเห็นด้วยว่าเรื่องนี้ควรถูกพูดต่อ แชร์ข่าวนี้ให้เพื่อนรู้ทันว่า ไฟชายแดนครั้งนี้อาจไม่จบแค่ที่ปืนใหญ่ – แต่อาจลุกลามถึงเกมการเมืองทั้งภูมิภาค 🔥🌏
อ้างอิงจาก: bbc cnn



















