พลเรือนไทยกว่าแสนคน หนีเอาชีวิตรอดหลังเขมรยิงถล่มไทย

     วันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] มีประชาชนมากกว่า 100,000 คน อพยพหนีการสู้รบบริเวณชายแดน ที่นองเลือดที่สุดระหว่างไทยและกัมพูชา ในรอบทศวรรษ ในขณะที่ยอดผู้เสียชีวิต กำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และ มหาอำนาจระหว่างประเทศ อย่างจีน อเมริกา และ มาเลเซีย ได้ออกมาเรียกร้องให้ยุติการสู้รบดังกล่าวแล้ว...

     ข้อพิพาทชายแดนที่ยืดเยื้อมายาวนาน ได้ปะทุขึ้น จนกลายเป็นการต่อสู้อย่างดุเดือด ด้วยเครื่องบินรบ ปืนใหญ่ รถถัง และ กองกำลังภาคพื้นดิน วานนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กำลังเตรียมจัดการประชุมฉุกเฉิน เกี่ยวกับวิกฤตการณ์นี้ในวันนี้ [ตามเวลาท้องถิ่น] 

     กระทรวงมหาดไทยของไทย กล่าวว่า "ประชาชนกว่า 100,000 คน จาก 4 จังหวัดชายแดน ถูกอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว เกือบ 300 แห่ง"

     กระทรวงสาธารณสุขของไทย ประกาศว่า "ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย โดยเป็นพลเรือน 13 ราย และ ทหาร 1 นาย"

     การสู้รบครั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก ในข้อพิพาทที่ยาวนานระหว่าง 2 ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ของนักท่องเที่ยวต่างชาติหลายล้านคน เกี่ยวกับพรมแดนร่วมกันที่มีความยาว 800 กิโลเมตร

     อเมริกาได้ออกมาเรียกร้อง ให้ยุติความขัดแย้งโดยทันที ในขณะที่ฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคมของกัมพูชา ก็ได้เรียกร้องในทำนองเดียวกัน ส่วนสหภาพยุโรปและจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของกรุงพนมเปญ กล่าวว่า "พวกเรากังวลอย่างยิ่ง เกี่ยวกับการปะทะกัน และเรียกร้องให้มีการเจรจาทันที..."