ท่าที "จีน" ต่อสงคราม "ไทย VS กัมพูชา"..จะเลือกข้างไหน หรือแค่รับบท "พระเอกขี่ม้าขาว" มาไกล่เกลี่ย
ท่าที "จีน" ต่อสงคราม "ไทย VS กัมพูชา"..จะเลือกข้างไหน หรือแค่รับบท "พระเอกขี่ม้าขาว" มาไกล่เกลี่ย เรื่องนี้อย่าบอกว่าพี่ใหญ่อย่างจีนไม่เกี่ยวก็ไม่ได้ เพราะเป็นคนสนับสนุนอาวุธ และเทคโนโลยีทางการทหารให้กัมพูชา โดยตามรายงานข่าวก่อนหน้าที่เสนอข่าวฮุนเซนขึ้นเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวจากกรุงพนมเปญไปยังประเทศจีนในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างกองทัพไทยและกัมพูชา ทั้งนี้ก็กลายเป็นประเด็นที่สื่อต่างๆ และหลายคนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าภายหลังทางฮุนเซนจะออกมาชี้แจงในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเขายังคงอยู่บัญชาการกองทัพในประเทศกัมพูชา แต่ว่างานนี้หลายคนต่างจับผิดว่าฮุนเซนคงจะสับขาหลอก เพราะถ้าไปจีนจริงๆ แล้วจีนให้ความร่วมมือกับกัมพูชา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนจบเห่แน่ๆ ซึ่งทางจีนก็คงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน
ทั้งนี้ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นใกล้ชิดระหว่างกัมพูชาและจีนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง ซึ่งมีการลงทุนจากจีนในโครงการต่างๆ ในกัมพูชา ซึ่งมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ Belt and Road Initiative (BRI) ของจีน การลงทุนต่างๆ ของจีนในกัมพูชาไม่เพียงแต่มีผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีนัยยะสำคัญทางทหารที่ชัดเจน ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับความใกล้ชิดทางทหารระหว่างจีนและกัมพูชา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสมดุลความมั่นคงในภูมิภาคนี้
ข่าวสมเด็จฮุนเซนเดินทางไปจีน จึงไม่ได้เป็นแค่ข่าวลือ แต่ยังคงเป็นประเด็นที่มีการคาดการณ์ว่า กัมพูชาอาจจะร้องขอความช่วยเหลือทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากจีน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ความตึงเครียดกับกองทัพไทย ซึ่งเป็นการเพิ่มความกังวลให้กับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีการปฏิเสธข่าวนี้ในภายหลัง แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ฮุนเซนจะต่อรองและร้องขอการสนับสนุนทางทหารจากจีน
ซึ่งในเวลาต่อมา ทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ก็รีบออกมาเคลื่อนไหวทันที และแสดงความกังวลต่อเหตุปะทะกันระหว่างชายแดนไทย – กัมพูชาที่เกิดขึ้น หวังจะให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากันอย่างสันติ เรียกได้ว่าจีนฉลาดสมกับเป็นนักปราชญ์อย่างขงเบ้ง ที่ไม่พูดออกมาตรงๆ ว่าเลือกข้างไหน จริงๆ แล้วก็ไม่น่าให้อาวุธกัมพูชาตั้งแต่แรก ประเทศไทยจะได้ไม่ต้องระแวงแบบนี้
















