ดร.น้ำแท้ ชี้คดี "น้องเมย" สะท้อนปัญหาศาลทหารขาดอิสระ แนะครอบครัวเดินหน้าฟ้องแพ่งเรียกร้องความเป็นธรรม
จากกรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ "น้องเมย" นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ภายหลังจากถูกลงโทษทางวินัยในโรงเรียนเตรียมทหาร จนนำไปสู่การเสียชีวิต ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลทหารสูงสุดได้มีคำพิพากษาชั้นฎีกาให้จำคุกจำเลยซึ่งเป็นรุ่นพี่ จำนวน 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท โดยให้รอลงอาญาไว้เป็นเวลา 2 ปี
คำพิพากษาดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของโทษและความเป็นธรรมที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตควรได้รับ
ในเรื่องนี้ ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ) ได้ให้ความเห็นว่า คดีของน้องเมยเป็นตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนถึงความไม่อิสระของกระบวนการยุติธรรมในศาลทหาร และเป็นกรณีที่ควรได้รับการพิจารณาในศาลยุติธรรมพลเรือนมากกว่า
ดร.น้ำแท้ ระบุว่า หากคดีนี้เกิดขึ้นหลังจาก พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มีผลบังคับใช้ การดำเนินคดีจะต้องอยู่ภายใต้การพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งจะช่วยให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการคุ้มครองและมีโอกาสเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใสและเป็นกลางมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวยังระบุชัดในมาตรา 42 ว่าผู้บังคับบัญชาที่ทราบการกระทำผิดของผู้ใต้บังคับบัญชา หากละเลยไม่ดำเนินการป้องกันหรือดำเนินคดี ถือว่ามีความผิดและต้องรับโทษด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม แม้คดีของน้องเมยจะเกิดขึ้นก่อนที่ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ จะมีผลบังคับใช้ ดร.น้ำแท้ได้แนะนำว่า ครอบครัวสามารถดำเนินคดีในส่วนของทางแพ่งเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นหนทางหนึ่งในการเรียกร้องความเป็นธรรมและการเยียวยาในทางกฎหมาย
กรณีนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นโศกนาฏกรรมส่วนบุคคล หากแต่เป็นบทเรียนสำคัญต่อสังคมไทยในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนของผู้ที่อยู่ภายใต้การควบคุมหรือบังคับบัญชาของรัฐ
จึงขอเรียนมาเพื่อทราบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากรณีของน้องเมยจะไม่สูญเปล่า หากแต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่นำไปสู่ความเป็นธรรมและความรับผิดชอบอย่างแท้จริงในอนาคต
สิบเลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 16/9/68
หลุมศพขนาดเล็กสุดรันทด ของอดีตผู้นำชื่อดังของประเทศกัมพูชา
เปิดวันเดียว ขาดทุน? หลัง''ฮุน เซน''คุยโว สนามบิน 5 หมื่นล้าน ดีกว่า สุวรรณภูมิของไทย
ญี่ปุ่นเตรียมส่ง F-15 จำนวน 4 ลำ ไปยังแคนาดาและยุโรป เพื่อแลกกับความร่วมมือ
มือปืนยิง "ชาร์ลี คาร์ก" ถูกจับโดยพ่อของตัวเอง
เตือน! มือถือ Samsung ระวังลิงก์ปลอมอ้าง One UI 8
"Scold's bridle" หน้ากากสำหรับคนขี้นินทา
สองหนุ่มจีนสุดกร่าง!!! ถ่ายคลิปโชว์ขณะฉี่ลงในหม้อไฟร้านดัง เจอค่าปรับอ่วมเกือบ 10 ล้านบาท
Ultraman Omega เข้าสู่ครึ่งหลัง! เปิดตัวเมเทโอโคจูตัวที่ 3 “วาลเจเนส” และเกราะใหม่
เหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องการให้เปิดด่านไทย-กัมพูชา
เบื้องหลังแตงโมเน่าถูกทิ้ง เมื่อความโลภทำลายธุรกิจที่จีน
สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถูกใช้งานมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลก
อัลเบเนียปฏิวัติการเมือง เปิดตัว "รัฐมนตรี AI" คนแรกของโลก สกัดทุจริต
ต้นไม้มงคล เสริมโชคลาภ ความสุข และความเจริญในบ้าน
3 สาขาเรียนในมหาวิทยาลัยจีนที่เงียบเหงาที่สุด บางปีมีบัณฑิตเพียงคนเดียว
เหตุผลที่ญี่ปุ่นต้องการให้เปิดด่านไทย-กัมพูชา
ทรัมป์ เผย ผมรู้สึกเหลืออดกับปูตินแล้ว!!
ตามล่า 6 ปี! เปิดโปง "นักซิ่งนิรนาม" ขับ Ferrari ทะลุถนนหลวงเช็ก
หอการค้าเมืองคอนพร้อมจัดการประกวดนางสาวนครศรีธรรมราช 'บุญสารทเดือนสิบ - งานกาชาด 'เฟ้นสาวงามฑูตวัฒนธรรมและท่องเที่ยว
กลลวงรักนักบินอวกาศ หลอกขอเงินหญิงชราญี่ปุ่น
เกมมรณะที่ต้องสังเวยชีวิต อุทาหรณ์จากชาย 2 คนที่ผลัดกันยิงปืนใส่กันด้วยหมวกกันกระสุน
สองหนุ่มจีนสุดกร่าง!!! ถ่ายคลิปโชว์ขณะฉี่ลงในหม้อไฟร้านดัง เจอค่าปรับอ่วมเกือบ 10 ล้านบาท