รัฐบาลไทยประกาศลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา พร้อมเรียกตัวเอกอัครราชทูตกลับประเทศ

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงมาตรการตอบสนองกรณีทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.55 น. โดยกำลังพลจากหน่วยลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 ได้เหยียบกับระเบิดขณะปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นเหตุให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นขาขาด ซึ่งทางกองทัพได้ทำการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่โดยทันที

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าระเบิดดังกล่าวเป็นของใหม่ ไม่เคยมีการตรวจพบในพื้นที่มาก่อน และมีการเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันหลายจุด ซึ่งส่งผลให้รัฐบาลมีความกังวลต่อความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนในพื้นที่ชายแดน

ด้วยเหตุนี้ กองทัพภาคที่ 2 จึงได้เสนอให้มีการปิดด่านชายแดนชั่วคราวทั้งหมด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบ พร้อมทั้งห้ามนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าออกโดยเด็ดขาด ซึ่งรัฐบาลได้มีมติอนุมัติตามข้อเสนอของกองทัพดังกล่าว

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนของประเทศไทยอย่างเป็นทางการ รัฐบาลได้ดำเนินการลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศกัมพูชา โดยมีคำสั่งให้เรียกตัวเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญกลับประเทศ และในขณะเดียวกันได้แจ้งให้เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเดินทางกลับประเทศเช่นกัน พร้อมทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการยื่นหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการ

ท่าทีครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการรักษาอธิปไตย ความมั่นคงของประเทศ และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเสียสละ ณ พื้นที่ชายแดน

ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าหรือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เพิ่มเติม ทางดิฉันจะนำข้อมูลมาเสนอแก่สมาชิกทุกท่านในโอกาสต่อไป