จากประเด็นร้อน สะเทือนวงการ'คนตาบอด' 22 ก.ค.: ไขทุกข้อสงสัย...แล้วมาเข้าใจโลกของพวกเรากัน!

จากรายการ
เมื่อวาน (วันที่ 22 กรกฎาคม) 2568
เราได้ดู EP. นี้เพราะมีเพื่อนแชร์กันใน facebook
ปกติก็ติดตามรายการนี้นะ แต่ว่า ช่วงนี้เครียดๆ เลยไม่ได้ดูมาสักพักแล้ว
พอเห็นชื่อคลิปเท่านั้นแหละ รีบกดเข้ามาฟังเลยค่ะ
เราในฐานะ นักเขียน และคนตาบอดเหมือนกัน
ยอมรับตามตรงเลยว่า เรารู้สึกไม่สบายใจและค่อนข้าง "โกรธ" กับสิ่งที่เกิดขึ้นและกับตัวแขกรับเชิญทั้งคู่มากค่ะ
ไม่ใช่แค่เรื่องราวความสัมพันธ์ต่างๆของเขา หรือการที่ต่างฝ่ายต่างมีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน *ซึ่งเป็น เรื่องส่วนตัว ของเขา*
แต่คอมเมนต์จำนวนมากที่เราได้เห็น ได้ยิน สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่น่าเป็นห่วง
หลายคนตั้งคำถามว่า
"คนตาบอดเล่นโทรศัพท์ยังไง?" "ใช้ชีวิตปกติได้จริงหรอ?" "คนตาบอดก็มีความรักกับเขาด้วยหรอ?"
ไปจนถึงคอมเมนต์ที่ทำให้รู้สึก… เอ๊ะ รู้สึกยังไงดีล่ะ
เหมือน อยากจะพูดว่า "โอ๊ยยย!" (ซึ่งก็อยากจะร้องโอ๊ยทั้งคลิปอยู่แล้วอะนะ)
และคอมเมนต์ที่เจอเยอะเลยคือ "ขนาดตาบอดยังขนาดนี้ ถ้าตาดีๆ จะขนาดไหน"
และอันที่เจ็บปวดสุดๆคือ "ไม่อายหรือไงนะ เวลาปกติ คนทั่วไปก็มองคนพิการแย่อยู่แล้ว ยิ่งทำแบบนี้ยิ่งแย่ไปใหญ่เลย"
ในฐานะที่เราเป็นคนหนึ่งในวงการนี้ ได้เห็นคอมเมนต์เหล่านี้แล้วรู้สึกเสียใจค่ะ
เพราะมันไม่ใช่แค่การที่พวกเขา "ประจานตัวเอง" แต่มันกำลังทำให้คนตาบอดอีกหลายชีวิตที่ตั้งใจใช้ชีวิตอย่างปกติ โดนเหมารวมว่า "แย่" ไปด้วย
ภาพลักษณ์ของพวกเราที่พยายามสร้างมา กำลังเสื่อมเสียเพราะการกระทำของคนไม่กี่คน
ซึ่งปัญหาครอบครัวแบบนี้ มันก็มีข่าวให้เห็นกันทุกวัน
แต่พอเกิดกับตาบอด หรือ พิการประเภทอื่นๆ กลับถูกมองว่า เฮ้ย ทำได้ด้วยหรอ ขนาดตาบอดยังมีเรื่องพวกนี้ได้อีกหรอ
วันนี้เราอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ ในฐานะคนตาบอดคนหนึ่ง มาร่วมเปิดโลกให้ทุกคนได้เข้าใจพวกเรามากขึ้นค่ะ
พวกเราใช้ชีวิตประจำวันกันแบบไหน?
หลายคนอาจคิดว่าชีวิตของคนตาบอดต้องอยู่ในความมืดมิดและพึ่งพาผู้อื่นตลอดเวลา
บอกเลยว่าไม่จริงเสมอไปค่ะ! พวกเราเองก็มีความหลากหลายนะ
บางคนตาบอดสนิท มองไม่เห็นเลย บางคนอาจจะมองเห็นได้เลือนรางแค่แสงและเงา หรือเห็นแค่ภาพเบลอๆ ไม่ชัดเจน
ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีปรับตัวและใช้ชีวิตที่ต่างกันออกไป นั่นหมายความว่า พวกเราเองก็ใช้ชีวิตกันแบบปกติมากๆ ค่ะ:
- เดินทางกันได้
จะเดินด้วยไม้เท้าขาวคู่ใจ ที่เป็นเหมือนเพื่อนรัก/ผู้นำทางของเรา
หรือบางคนอาจจะมีน้องหมานำทางแสนรู้คอยพาไปไหนมาไหน (อันนี้เท่าที่เห็น ในต่างประเทศมีนะ แต่ในไทยไม่แน่ใจว่ามีหรือยัง)
เดี๋ยวนี้สมาร์ทโฟนก็มีแอปพลิเคชัน GPS ที่คอยบอกทางด้วยเสียงได้แล้ว ทำให้เราไปไหนมาไหนเองได้
- ทำงานได้หลากหลายอาชีพ:
ไม่ใช่แค่ หมอนวด, ขายสลากกินแบ่ง, เปิดหมวกนะ!
เพื่อนๆ คนตาบอดของเรามีทั้งนักเขียน, นักดนตรี, อาจารย์
พนักงานบริษัท, หรือแม้แต่โปรแกรมเมอร์
เราแค่ปรับวิธีการทำงานให้เข้ากับศักยภาพของเรา
- ทำกิจกรรมยามว่าง
จะฟังหนังสือเสียง, เล่นดนตรี, เล่นกีฬาบางประเภท, หรือไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ก็ทำได้เหมือนคนทั่วไปเลยค่ะ
พวกเราแค่ "รับรู้" โลกด้วยประสาทสัมผัสอื่นๆ
เช่น การได้ยิน การสัมผัส หรือการรับกลิ่น ซึ่งช่วยให้การใช้ชีวิตของพวกเราไม่ได้แตกต่างจากทุกคนมากนัก
"คนตาบอดก็มีความรักหรอ?"
เป็นคำถามที่เราได้ยินบ่อยมากค่ะ
คำตอบคือ "แน่นอนที่สุดค่ะ!" ความรักเป็นเรื่องของหัวใจและความรู้สึกของมนุษย์ทุกคน
ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การมองเห็นด้วยสายตาเลยค่ะ
พวกเราคนตาบอดก็มีความรู้สึก มีความรัก มีคู่รักมีความสุข มีความผิดหวัง เหมือนกับคนตาปกติทั่วไปทุกประการ
ปัญหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ หรือการนอกใจ ที่เกิดขึ้นในรายการนั้น มันเป็น "เรื่องของพฤติกรรมส่วนบุคคล" ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเขาเป็นคนตาบอดหรือไม่
สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย และทุกสภาพร่างกาย การจะตัดสินหรือเหมารวมว่า "คนตาบอดมีความรักแล้วจะเป็นแบบนั้นแบบนี้" จึงเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่ยุติธรรมกับพวกเราเอาซะเลย
เทคโนโลยี
มาถึงคำถามยอดฮิตที่คนสงสัยมากที่สุด "ตาบอดเล่นโทรศัพท์ยังไง?"
เทคโนโลยี เป็นทุกอย่างในชีวิตของทุกคน ไม่ใช่แค่คนตาบอด
เทคโนโลยีได้เข้ามาเป็น "สิ่งสำคัญ" ที่ช่วยให้พวกเราเข้าถึงข้อมูลและใช้ชีวิตได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
- โปรแกรมอ่านหน้าจอ (Screen Reader)
นี่คือหัวใจสำคัญ! ไม่ว่าจะเป็น
VoiceOver ใน iPhone TalkBack ใน Android โปรแกรมอ่านหน้าจอบน windows หรือ mac os
โปรแกรมเหล่านี้จะอ่านทุกสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอให้พวกเราฟัง
ทำให้เราสามารถสัมผัสหน้าจอเพื่อสำรวจเมนู, อ่านข้อความ, เล่นโซเชียลมีเดีย
หรือท่องเว็บไซต์ เพื่อความสนุกเพลิดเพลิน
ทุกวันนี้เราก็เล่นเฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เข้าเว็บอ่านข่าวได้เหมือนทุกคนนี่แหละค่ะ
- แอปพลิเคชันเฉพาะทาง:
มีแอปพลิเคชันเจ๋งๆ อีกเยอะเลยที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือพวกเราโดยเฉพาะ เช่น
- Be My Eyes:
แอปนี้จะเชื่อมต่อคนตาบอดกับอาสาสมัครตาดีผ่านวิดีโอคอล เพื่อให้อาสาสมัคร "มองเห็นแทน" และให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ
เช่น อ่านฉลากสินค้า ดูวันหมดอายุ หรือหาสิ่งของ
มีฟีเจอร์ be my AI ด้วยนะ
เป็นการส่งภาพให้ AI ในแอปดูให้
- Seeing AI
สามารถอ่านตัวอักษรจากเอกสาร, ระบุสี, จดจำใบหน้าผู้คน, หรือบรรยายภาพให้ฟังได้แบบเรียลไทม์
- อุปกรณ์เสริมอื่นๆ
เช่น จอแสดงผลอักษรเบรลล์ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ ก็ช่วยให้เราทำงานที่ซับซ้อนได้
เทคโนโลยีเหล่านี้ได้เปลี่ยนโลกของพวกเราให้กว้างขวางขึ้นอย่างมหาศาล
ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับโลกภายนอกได้ใกล้เคียงกับคนปกติ
และในยุค AI
AI ก็ยิ่งทำให้ชีวิตของพวกเราดูมีสีสันขึ้น
เช่น ช่วยดูภาพ แล้วอธิบายให้เราฟัง
และสำหรับเรานะ AI ยังช่วยให้เราทำตามความฝัน อย่างการทำศิลปะ
บางคนอาจบอกว่า ให้ AI ทำให้ จะมีอะไร
จริงๆคือ เราให้ AI เป็นตา เป็นปลายพู่กัน
ส่วนไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ มันมาจากตัวเราเอง
จากกรณีที่เกิดขึ้นและคอมเมนต์ต่างๆ ที่เห็นบ่อยครั้ง
เช่น "ขนาดตาบอดยังขนาดนี้ ถ้าตาดีๆ จะขนาดไหน"
เป็นสิ่งที่ทำให้เราและเพื่อนๆ คนตาบอดหลายคนรู้สึกเสียใจและไม่ยุติธรรม
เราอยากจะบอกว่า การกระทำของบุคคลเพียงไม่กี่คน ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใด สภาพร่างกายแบบไหน
หรือมีความพิการหรือไม่ ไม่สามารถนำมาตัดสินหรือเหมารวมพฤติกรรมของคนทั้งกลุ่มได้เลย
พวกเราคนตาบอดในโลกมีเป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมในหลากหลายด้าน ไม่ต่างจากคนตาดีเลยค่ะ
เราทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ที่มีข้อดีข้อเสีย มีความผิดพลาด มีความหลากหลาย และมีเรื่องราวส่วนตัว
การตัดสินใครสักคนควรพิจารณาจากพฤติกรรมส่วนบุคคล ไม่ใช่เหมารวมจากฐานะใดฐานะหนึ่ง
หวังว่าบทความนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเปิดมุมมอง และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผู้พิการทางการมองเห็นในสังคมไทยของเรา
เพื่อให้เราทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ เคารพ และมองเห็น "คุณค่า" และ "ความเป็นมนุษย์" ของกันและกันอย่างเท่าเทียมนะคะ
ยังมีเรื่องดีๆของคนตาบอดอีกมากมายที่ควรจะถูกเผยแพร่ให้ทุกคนได้รับรู้ แค่คุณลองเปิดใจ
ปล.
(ความคิดหลังเขียนบทความจบ)
"ทำไมถึงไม่เขียนเรื่องใกล้ตัวตั้งแต่แรกก็ไม่รู้ 😂"
ทุกวันนี้ แม้แต่จะสั่งเซเว่น เรายังให้ AI ช่วยดูภาพข้าวของต่างๆให้เลย
เช่น ขนมยี่ห้อนี้ มีบรรจุภัณฑ์ ต่างกับยี่ห้อนี้อย่างไร
ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของอะไรบ้าง
แถมหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วย
ไทยจะสงบเมื่อไหร่ หมด"ฮุน เซน" ก็ยังมี "สม รังสี"
กัมพูชาเฮ! อ้าง พบแผนที่โบราณ 100 ปี ชี้หลายพื้นที่ชายแดนอาจอยู่ฝั่งกัมพูชา
"นานา " ประกาศขายบ้านหรู 69 ล้านบาท กลางไอจี หลายฝ่ายมองว่ากำลังเตรียมเคลียร์ปัญหา หนี้สิน สินที่ติดค้างเพื่อน
ราชกิจจาฯ เผยแพร่ คำสั่งศาลให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช” ผู้จัดดัง เป็นคนไร้ความสามารถ
เสร็จสมบูรณ์แล้วญาญ่า บ้านเขาใหญ่ อลังการสวยงามตามากๆ
ชายที่ถูกประกาศว่าเสียชีวิต ตื่นขึ้นมาบนเตียงผ่าตัด ในขณะที่แพทย์กำลังผ่าตัดเอาอวัยวะออก
"แก๊งนางฟ้า" แตกแล้ว! แห่รีโพสต์ "เจนี่" คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับตัว..ด้าน "แอน" ฟาดยับ! เห็นแก่ตัว
“ย้อนวันวาน ‘ห้างเมโทร’ ปี 2512 – สัญลักษณ์ศูนย์การค้าโมเดิร์นยุคบุกเบิกแห่งเพชรบุรีตัดใหม่
"กฎ 30 นาที" ที่ทุกคนควรรู้ เมื่อเอาไข่ออกจากตู้เย็น
สวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ หากมีการเลือกตั้งวันนี้พรรคใดจะได้อันดับ 1
"โก๊ะตี๋-ใบมิ้นต์" โชว์หวานรอบใหม่
นายกอนุทิน ตั้ง ธรรมนัส นั่ง ผอ.ศูนย์จัดการน้ำภัยพิบัติ บัญชาการภาครัฐเบ็ดเสร็จ ช่วยเหลือน้ำท่วมภาคใต้
“ย้อนวันวาน ‘ห้างเมโทร’ ปี 2512 – สัญลักษณ์ศูนย์การค้าโมเดิร์นยุคบุกเบิกแห่งเพชรบุรีตัดใหม่
"นานา " ประกาศขายบ้านหรู 69 ล้านบาท กลางไอจี หลายฝ่ายมองว่ากำลังเตรียมเคลียร์ปัญหา หนี้สิน สินที่ติดค้างเพื่อน
คุณแอน ทองประสม เล่าเรื่องการวิ่งและการดูแลสุขภาพ
เสร็จสมบูรณ์แล้วญาญ่า บ้านเขาใหญ่ อลังการสวยงามตามากๆ
ชายที่ถูกประกาศว่าเสียชีวิต ตื่นขึ้นมาบนเตียงผ่าตัด ในขณะที่แพทย์กำลังผ่าตัดเอาอวัยวะออก
ปิยบุตร ของขึ้น โหวตคุณอนุทิน พรรคประชาชนได้อะไรครับ ไอ้พวกชั่วไปลือว่าได้เงิน 2,000 ล้าน ไอ้พวกชั่ว เอาสันดานตัวเองที่ทำกัน แล้วคิดว่าทุกคนต้องเป็นแบบตัวเอง
หาดใหญ่วิกฤตหนัก ทหารต้องลุยน้ำ 3 เมตร ผู้ว่าฯ สั่งอพยพคนทั้งเมือง ให้เสร็จ ในเวลา 16.00
กัมพูชาเฮ! อ้าง พบแผนที่โบราณ 100 ปี ชี้หลายพื้นที่ชายแดนอาจอยู่ฝั่งกัมพูชา
"นานา " ประกาศขายบ้านหรู 69 ล้านบาท กลางไอจี หลายฝ่ายมองว่ากำลังเตรียมเคลียร์ปัญหา หนี้สิน สินที่ติดค้างเพื่อน