(ศบ.ทก.) แถลงขั้นตอนการดำเนินการหลังข้อมูลและหลักฐานจากหน่วยงานความมั่นคงยืนยันว่าทุ่นระเบิดที่พบไม่มีใช้ในประเทศไทย เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่

จากกรณีที่ทหารชุดลาดตระเวณของไทยได้เหยียบเข้ากับกับระเบิดบริเซณ เนิน 481 ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเป็นเหตุให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งหนึ่งใน3 นายต้องสูญเสียขาตลอดชีวิต จากกรณีนี้เอง ทางเเม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้ ชุดเก็บกู้ระเบิดลงพื้นที่ตรวจสอบว่าระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดเก่าหรือระเบิดใหม่ ซึ่งผลการตรวจสอบออกมาว่า 80 % เป็นระเบิดใหม่ จากกรณีนี้เอง ล่าสุด

ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงขั้นตอนการดำเนินการหลังข้อมูลและหลักฐานจากหน่วยงานความมั่นคงยืนยันว่าทุ่นระเบิดที่พบไม่มีใช้ในประเทศไทย เป็นทุ่นระเบิดที่วางใหม่ ซึ่งสรุปได้ว่ากัมพูชาเป็นผู้วางทุ่นระเบิด

1. ไทยจะส่งหนังสือประท้วงกัมพูชา โดยย้ำว่ารัฐบาลไทยของประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และขัดกับหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ และละเมิดพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา

2. ตามพันธกรณีของไทยที่เป็นรัฐภาคีที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศ ทำให้ไทยต้องแจ้งการละเมิดอนุสัญญาของกัมพูชาต่อประธานการประชุมรัฐภาคีของอนุสัญญา ซึ่งปัจจุบันคือญี่ปุ่น เพื่อทำให้กัมพูชาต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

3. จะดำเนินการชี้แจงข้อมูลให้กับนานาชาติ โดยเฉพาะประเทศที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในกัมพูชาเช่น ญี่ปุ่น และนอร์เวย์ รวมถึงองค์กรต่าง ๆ ที่มีบทบาทในอนุสัญญาออตตาวา และจะจัดการบรรยายสรุปคณะทูตในประเทศไทยในเรื่องนี้

4. ในสัปดาห์นี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติเพื่อเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน และจะได้พบหารือกับผู้แทนระดับสูงจากประเทศต่าง ๆ เพื่อใช้โอกาสนี้ยืนยันจุดยืนของไทยที่มุ่งเน้นการแก้ปัญหาโดยสันติและการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี

โดยกระทรวงต่างประเทศเรียกร้องให้กัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้ตกลงกันไว้แล้วในกรอบทวิภาคี