สลดใจ! ดช. 10 ขวบรอดชีวิต พ่อสละเสื้อชูชีพให้ พบแม่-น้องเสียชีวิตเรือล่มฮาลองเบย์
โศกนาฏกรรมเรือล่มฮาลองเบย์ เวียดนาม เด็กชาย 10 ขวบรอดชีวิตปาฏิหาริย์ พ่อโยนเสื้อชูชีพให้ก่อนพลัดสูญ หญิงแม่-น้องสาวดับสลด ยอดตายพุ่ง 35 ศพ
เหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวล่มกลางอ่าวฮาลอง จังหวัดกว่างนิงห์ ประเทศเวียดนาม กลายเป็นโศกนาฏกรรมใหญ่ที่สร้างความเศร้าเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อครอบครัวนักท่องเที่ยวและสังคมทั้งในและนอกประเทศ โดยยอดผู้เสียชีวิต ณ ขณะนี้ยืนยันแล้วว่าอยู่ที่ 35 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
ในความสูญเสียครั้งนี้ มีเรื่องราวของเด็กชายวัย 10 ขวบชาวกรุงฮานอย ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือล่มอย่างปาฏิหาริย์ โดยมีภาพจำที่ตราตรึงใจและสื่อถึงความรักของพ่อที่เสียสละในวินาทีสุดท้าย เป็นแรงบันดาลใจและกำลังใจให้กับหลายคน
เหตุการณ์เรือล่มกลางอ่าวฮาลองเบย์
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรือท่องเที่ยวหมายเลขทะเบียน QN-7105 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวและลูกเรือรวมทั้งหมด 53 คน กำลังเดินทางเพื่อชมทิวทัศน์ในเส้นทางที่ 2 ของอ่าวฮาลอง ทว่ากลางทางเกิดพายุลมกระโชกแรงอย่างฉับพลัน ทำให้เรือเกิดพลิกคว่ำและล่มกลางทะเลทันที
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายอย่างเร่งด่วน ด้วยความหวังที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจนถึงตอนนี้ได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 35 ราย โดยมีผู้รอดชีวิตเพียงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือเด็กชายวัย 10 ขวบ ที่ได้รับการช่วยเหลือออกจากซากเรือด้วยความยากลำบาก
เด็กชายวัย 10 ขวบกับเรื่องราวสุดสะเทือนใจ
เด็กชายผู้รอดชีวิตนี้เป็นลูกชายของครอบครัวหนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยว โดยชื่อย่อว่า “ต.ซ.เอ็ม” เขาและครอบครัวประกอบด้วยพ่อแม่และน้องสาววัย 3 ขวบ เดินทางมาท่องเที่ยวพักผ่อนด้วยกัน 4 คนบนเรือลำดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ต.ซ.เอ็ม รอดชีวิตมาได้ในขณะที่แม่และน้องสาวเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ส่วนพ่อของเขายังคงอยู่ในสถานะสูญหายและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งค้นหาตัว
นายเหงียน วัน ทึก ญาติของครอบครัวได้เล่าเรื่องราวอันน่าสลดใจให้ทีมข่าวฟังว่า "ครอบครัวของญาติผมมาเที่ยวด้วยกัน 4 คน มีสามีภรรยาและลูกสองคน ลูกชายคนโตโชคดีรอดชีวิต แต่ภรรยาและลูกสาวคนเล็กเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ่อของเด็กตอนนี้ยังหาไม่พบ"
นาทีชีวิตของเด็กชายที่จดจำไม่ลืม
เรื่องราวสุดสะเทือนใจจากปากคำของนายทึกและเด็กชายต.ซ.เอ็ม ได้เล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาที่พ่อของเขาได้ช่วยชีวิตไว้ในเสี้ยววินาทีที่เรือกำลังจะจมว่า
"ตอนที่เรือกำลังจะล่ม พ่อของผมได้โยนเสื้อชูชีพให้กับผม ก่อนที่ผมจะถูกดันขึ้นสู่ผิวน้ำ" นี่คือคำพูดสุดท้ายที่เด็กชายบอกเล่าเกี่ยวกับความรักและความกล้าหาญของพ่อผู้เสียสละในนาทีที่ลมหายใจของเขาเองก็เสี่ยงต่อความตาย
เหตุการณ์นี้เป็นภาพแทนความรักของพ่อที่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อปกป้องลูกชาย และกลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับการเผยแพร่อย่างรวดเร็วในสื่อสังคมออนไลน์และข่าวสารต่างประเทศ
ความสูญเสียที่ยากจะทำใจ
บรรยากาศที่ฮาลองในขณะนี้เต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความหวาดกลัวของญาติพี่น้องที่เดินทางมารวมตัวกัน เพื่อติดตามข่าวคราวของผู้สูญหายและไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้
การสูญเสียแม่และน้องสาวของเด็กชายต.ซ.เอ็ม ถือเป็นความเจ็บปวดที่ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ การที่เด็กต้องเผชิญกับความสูญเสียของคนในครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจและชีวิตในอนาคต
ทางโรงพยาบาลในพื้นที่จึงให้ความสำคัญกับการดูแลจิตใจของเด็กชาย และยังมีการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาแก่ผู้รอดชีวิตและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
การช่วยเหลือและการค้นหาผู้สูญหาย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอย่างเต็มที่ แม้สภาพอากาศในอ่าวฮาลองจะยังคงท้าทายด้วยพายุและคลื่นลมแรง การดำเนินงานต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน
มีการประสานงานระหว่างหน่วยงานท้องถิ่น กองทัพเรือ และหน่วยงานภาคประชาชน รวมทั้งอาสาสมัครในพื้นที่ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ที่อาจยังรอดชีวิตอยู่
ความช่วยเหลือยังขยายไปถึงครอบครัวผู้ประสบภัย โดยมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือและให้คำปรึกษา เพื่อรับฟังความต้องการและมอบการสนับสนุนด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการเงินและจิตใจ
บทเรียนและความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางน้ำ
เหตุการณ์เรือล่มในฮาลองเบย์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยในการเดินเรือและการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเวียดนามต้องเร่งปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยของเรือท่องเที่ยว รวมถึงการฝึกอบรมลูกเรือเพื่อให้มีความพร้อมในการจัดการเหตุฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวควรตระหนักถึงความเสี่ยงและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและรักษาความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง
สรุป
โศกนาฏกรรมเรือล่มกลางอ่าวฮาลองที่ประเทศเวียดนามครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 35 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก เรื่องราวของเด็กชายวัย 10 ขวบที่รอดชีวิตมาได้ พร้อมคำพูดสุดท้ายที่พ่อโยนเสื้อชูชีพให้ เป็นภาพแทนความรักและความเสียสละที่ยังคงถูกจดจำในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้
เหตุการณ์นี้ถือเป็นการเตือนใจให้ทุกคนตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทางและความไม่แน่นอนของชีวิต พร้อมกับส่งกำลังใจและความช่วยเหลือให้กับครอบครัวผู้ประสบภัยทุกคนให้สามารถก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปได้




















