หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ศาลฎีกาทหารยืนตามเดิม! จำคุก 4 เดือน 16 วัน คดี "น้องเมย" แต่รอลงอาญา

เนื้อหาโดย bbb1236555

คดี “น้องเมย” ถึงที่สุด: ศาลทหารฎีกาพิพากษายืน จำคุกแต่รอลงอาญา – คำถามคาใจสังคมยังไม่สิ้นสุด

กรุงเทพฯ – กรกฎาคม 2568

ผ่านมาแล้วกว่า 7 ปี กับเหตุการณ์ที่สังคมไทยยังคงจดจำและตั้งคำถามถึงความยุติธรรมอย่างลึกซึ้ง “คดีน้องเมย” หรือกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ภายหลังถูก “ซ่อม” หรือธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ จนนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างน่าสลด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ศาลทหารชั้นฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด ยืนตามคำพิพากษาศาลทหารอุทธรณ์ ให้จำคุกผู้ต้องหาเป็นเวลา 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท แต่รอลงอาญาไว้ 2 ปี โดยให้เหตุผลว่า “การลงโทษจำเลยในสถานะปัจจุบันไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมเท่ากับการให้โอกาสรับราชการรับใช้ชาติ”

แม้คำพิพากษานี้จะถือเป็นบทสรุปทางกฎหมายของคดีอันยืดเยื้อมากว่าครึ่งทศวรรษ แต่กระแสสังคมยังคงเคลื่อนไหว ด้วยคำถามที่ยังไร้คำตอบอย่างชัดเจน—“ความยุติธรรมคืออะไร?” และ “เราปกป้องลูกหลานในระบบทหารได้จริงหรือ?”

 

ย้อนรอยเหตุการณ์: วันที่ชีวิตเยาวชนดับลงในรั้วโรงเรียนเตรียมทหาร

ย้อนกลับไปในวันที่ 17 ตุลาคม 2560 เป็นวันแรกที่ “น้องเมย” หรือ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ กลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร หลังลาออกไปก่อนหน้านี้เพียงไม่นานในขณะมีอาการเจ็บป่วย

ในช่วงสายของวันนั้นเอง เขาถูกนักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 สั่งลงโทษด้วยวิธี “การซ่อม” ซึ่งเป็นคำแสลงในหมู่ทหาร หมายถึงการลงโทษทางร่างกายเพื่อธำรงวินัย เช่น การวิ่งตากแดด วิดพื้น หรือทำกิจกรรมที่กระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง

ไม่นานหลังจากนั้น น้องเมยหมดสติ และถูกนำตัวส่งห้องพยาบาลในโรงเรียน แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ โรงเรียนแจ้งครอบครัวในเบื้องต้นว่าเสียชีวิตด้วย “ภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน”

การเปิดโปงของครอบครัว: จากข้อสงสัยสู่ความจริงที่เจ็บปวด

ครอบครัวของน้องเมย โดยเฉพาะ นายพิเชษฐ ตัญกาญจน์ พ่อของผู้เสียชีวิต ปฏิเสธที่จะรับคำอธิบายอย่างผิวเผินนั้น และได้ดำเนินการชันสูตรศพเพิ่มเติมด้วยตนเอง

ผลการชันสูตรเผยข้อเท็จจริงที่สะเทือนใจไปทั่วประเทศ:

ซี่โครงซ้ายหัก

กระดูกไหปลาร้าหักทั้งสองข้าง

มีรอยช้ำขนาดใหญ่ในช่วงท้อง

ร่องรอยการกระแทกซ้ำหลายแห่ง

และที่สะเทือนใจที่สุด—อวัยวะภายในหายไปทั้งหมด โดยไม่มีการแจ้งครอบครัว

ข้อสงสัยเหล่านี้ทำให้คดีน้องเมยกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งคำถามต่อวัฒนธรรมอำนาจนิยมในกองทัพ” และนำไปสู่แรงกดดันมหาศาลจากสังคม เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใสและเปิดเผย

 

กระบวนการยุติธรรมในศาลทหาร: คดีที่ยืดเยื้อกว่า 6 ปี

ในเดือนมีนาคม 2562 พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนให้อัยการทหาร มีการสั่งฟ้องผู้เกี่ยวข้อง 3 ราย ได้แก่

1. นักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ 2 นาย – ข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

2. ว่าที่ร้อยตรี (ในขณะนั้น) – ข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

กระบวนการยุติธรรมของคดีนี้ดำเนินใน ศาลทหาร โดยที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและนักสิทธิมนุษยชนหลายฝ่ายออกมาแสดงความห่วงใยว่า กระบวนการที่ดำเนินภายใต้ระบบทหารอาจขาดความเป็นกลางและโปร่งใสเท่าที่ควร

ในที่สุด ปี 2566 ศาลทหารชั้นอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง แต่ลงโทษจำคุกเพียง 4 เดือน 16 วัน ปรับ 15,000 บาท โดยรอลงอาญาไว้

และล่าสุด เดือนกรกฎาคม 2568 ศาลทหารฎีกาพิพากษายืนตามเดิม ถือเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดในทางกฎหมาย

 

คำพิพากษาที่สังคมยังตั้งคำถาม

แม้คำพิพากษาดังกล่าวจะยึดหลักกฎหมายและพิจารณาจากเจตนาและประวัติของจำเลย ศาลให้เหตุผลว่า “การลงโทษจำเลยไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เพราะยังเป็นเยาวชน ไม่เคยต้องโทษมาก่อน การให้โอกาสปรับปรุงตัวเพื่อรับราชการจะเกิดประโยชน์ต่อสังคมมากกว่า”

แต่ในอีกมุมหนึ่ง—ครอบครัวผู้สูญเสียและประชาชนจำนวนมากยังตั้งคำถามว่า นี่คือ “ความยุติธรรมที่แท้จริง” แล้วหรือไม่?

การที่ผู้กระทำผิดจากการซ้อมผู้อื่นจนเสียชีวิต ได้รับโทษรอลงอาญาและกลับไปใช้ชีวิตราชการตามปกติ คือผลลัพธ์ที่เหมาะสมแล้วหรือ?

 

วัฒนธรรม “ซ่อม” ในระบบทหาร: ความรุนแรงที่ถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ

หนึ่งในประเด็นหลักที่คดีน้องเมยสะท้อนคือ วัฒนธรรมความรุนแรงในสถาบันทหาร โดยเฉพาะในระดับโรงเรียนเตรียมทหาร ที่การฝึกฝนวินัยและระเบียบวินัยมักแฝงมาด้วยการใช้อำนาจโดยไม่มีขอบเขตที่ชัดเจน

การ “ซ่อม” หรือการลงโทษนอกกรอบกฎหมาย ถูกมองว่าเป็น “ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม” ที่หลายคนยอมรับในนามของการสร้างความแข็งแกร่งให้ทหาร แต่กรณีของน้องเมยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความรุนแรงเช่นนี้มีโอกาสทำให้ถึงแก่ชีวิตได้จริง และยากที่จะเรียกกลับคืน

 

บทเรียนจากคดีน้องเมย: จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง

คดีน้องเมยไม่ได้เป็นเพียงคดีอาญาทั่วไป หากแต่เป็นกรณีตัวอย่างที่สะท้อนถึงหลายมิติของปัญหาในสังคมไทย ได้แก่:

1. ขาดระบบตรวจสอบในองค์กรทหาร: การที่คดีนี้ต้องใช้เวลากว่า 7 ปีกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด สะท้อนถึงความซับซ้อนและความยากในการตรวจสอบองค์กรปิดเช่นกองทัพ

2. ช่องโหว่ของศาลทหาร: ระบบยุติธรรมที่ดำเนินการภายในกลไกของทหารเอง ย่อมทำให้เกิดข้อกังขาเรื่องความเป็นกลาง

3. วัฒนธรรมการปกปิดข้อมูล: การไม่แจ้งครอบครัวเกี่ยวกับอวัยวะที่ถูกนำออก และสาเหตุการเสียชีวิตที่คลุมเครือ ทำให้ครอบครัวรู้สึกถูกลิดรอนสิทธิในการรับรู้

4. การลงโทษที่เบาเกินไปต่อการกระทำอุกฉกรรจ์: แม้จะเป็นผู้กระทำความผิดครั้งแรก แต่การที่โทษถูกลดลงจนเหลือเพียงการรอลงอาญา อาจไม่สะท้อนความร้ายแรงของเหตุการณ์

 

สรุป: ความยุติธรรมทางกฎหมายอาจสิ้นสุด แต่ความยุติธรรมในใจคนยังคงเดินทาง

คดีน้องเมยอาจจบลงในทางกฎหมายแล้วเมื่อศาลทหารฎีกาพิพากษาถึงที่สุด แต่คำถามที่ฝังลึกในใจของครอบครัวผู้สูญเสีย และประชาชนที่ติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด ยังไม่จบ

คำว่า “ความยุติธรรม” ไม่ได้หมายถึงแค่ตัวบทกฎหมาย แต่หมายถึงความรู้สึกว่าถูกปกป้องและได้รับความเป็นธรรมในฐานะมนุษย์

และจนกว่าสังคมไทยจะสามารถสร้างระบบทหารที่ตรวจสอบได้ เปิดเผยได้ และเคารพในสิทธิมนุษยชนได้อย่างแท้จริง—คดีน้องเมย จะยังคงเป็นเงาสะท้อนที่เราต้องจดจำ และเรียนรู้ไปอีกนาน

 

เนื้อหาโดย: bbb1236555
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
bbb1236555's profile


โพสท์โดย: bbb1236555
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ญี่ปุ่นเตรียมส่ง F-15 จำนวน 4 ลำ ไปยังแคนาดาและยุโรป เพื่อแลกกับความร่วมมือตั้งรูปโปรไฟล์ คู่กับสัตว์เลี้ยง มีโอกาสถูกจีบเพิ่มขึ้นหนังศีรษะแห้ง ลอกเป็นแผ่น ๆ แก้ยังไงดี แตกต่างกันกับ รังแค อย่างไร?ศาลสั่งปรับเงินมหาศาลหลังหนุ่มทำคอนเท้นต์ฉี่ใส่หม้อชาบูสิบเลขขายดี สลากตัวเลขสามหลัก N3 งวด 16/9/68BTS ออกแพ็กเกจเอาใจคนผิดหวังจากโครงการรฟฟ 20 บาท3 เส้นทางถนน ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทยบุญพวงมาลัยไม้ไผ่บ้านกุดหว้า (บุญข้าวประดับดิน)สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ถูกใช้งานมากที่สุดอันดับหนึ่งของโลกสองหนุ่มจีนสุดกร่าง!!! ถ่ายคลิปโชว์ขณะฉี่ลงในหม้อไฟร้านดัง เจอค่าปรับอ่วมเกือบ 10 ล้านบาทกลลวงรักนักบินอวกาศ หลอกขอเงินหญิงชราญี่ปุ่น"Scold's bridle" หน้ากากสำหรับคนขี้นินทา
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ศาลสั่งปรับเงินมหาศาลหลังหนุ่มทำคอนเท้นต์ฉี่ใส่หม้อชาบูโทรศัพท์มือถือแบรนด์ไทย ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจนถึงปัจจุบัน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
พบศพลอยอืดอยู่ในแทงค์น้ำ ของอาคารแห่งหนึ่งในไทเปศาลสั่งปรับเงินมหาศาลหลังหนุ่มทำคอนเท้นต์ฉี่ใส่หม้อชาบู"แบมแบม" ปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ "Dancing By Myself" ดึง "ธามไท" ร่วม Featuring!!!BTS ออกแพ็กเกจเอาใจคนผิดหวังจากโครงการรฟฟ 20 บาท
ตั้งกระทู้ใหม่