แฉสนั่น! เศรษฐีนีนครสวรรค์แค่เบอร์ 2 “ทิดสฤษดิ์” โลก 3 ใบ สึกแล้วอาจไม่รอดคดี
เบื้องหลังดราม่ารักซ่อนเงื่อน "เศรษฐีนีปากน้ำโพ" กับอดีตเจ้าอาวาสวัดดัง จ.นครสวรรค์ ปมรัก 3 ใบ-คดีเงินวัด สะเทือนศรัทธา
กลายเป็นข่าวใหญ่เขย่าวงการสงฆ์และสังคมไทยในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เมื่ออดีตพระผู้ใหญ่ "พระธรรมวชิรธีรคุณ" หรือ "พระสฤษดิ์" อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ได้ตัดสินใจลาสิกขากะทันหันในช่วงกลางดึกของวันที่ 19 กรกฎาคม ท่ามกลางกระแสข่าวลือและกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ลับระหว่างท่านกับ "เศรษฐีนี" รายหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ ที่ขณะนี้ถูกสังคมตั้งฉายาว่า "เศรษฐีนีปากน้ำโพ"
เบื้องหลังการลาสิกขาครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตัดสินใจส่วนตัว หากแต่เชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์ซ่อนเร้น คดีทุจริตเงินวัด และโลกส่วนตัวอีกถึง 3 ใบของอดีตพระสงฆ์ ซึ่งกำลังกลายเป็นจุดสนใจของทั้งสื่อกระแสหลักและชาวโซเชียล
เปิดประวัติ “เศรษฐีนีปากน้ำโพ” สาววัย 57 ผู้พลิกชีวิตจากค้าขายสู่กระแสรักต้องห้าม
จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า หญิงสาววัยประมาณ 57 ปีรายนี้เคยมีอาชีพค้าขายขนมพื้นบ้าน โดยเฉพาะ "โมจิ" ซึ่งเป็นของฝากชื่อดังของจังหวัดนครสวรรค์ จนร่ำรวยขึ้นมาภายในเวลา 15 ปี จากหญิงธรรมดาคนหนึ่งสู่การเป็นเจ้าของทรัพย์สินมากมาย ทั้งบ้าน รถยนต์ และที่ดินหลายแปลง
แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวลือว่าเธอเป็นเจ้าของกิจการร้านโมจิชื่อดังในตัวเมืองนครสวรรค์ แต่จากการตรวจสอบล่าสุดโดยสื่อหลายสำนัก รวมถึงคำชี้แจงของเจ้าของร้านโมจิรายจริง กลับระบุว่า เศรษฐีนีคนนี้ "ไม่เคยเกี่ยวข้องหรือมีหุ้นส่วนใด ๆ กับร้านดังกล่าว" แต่อย่างไรก็ตาม เธอมีความชอบทำบุญ ชอบเข้าวัด และมีบทบาทในกิจกรรมทางศาสนาอยู่เสมอ
ความสัมพันธ์ต้องห้าม ย้อนหลัง 15 ปี จุดเริ่มต้นรักซ่อนเงา
ความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐีนีรายนี้กับอดีตพระสฤษดิ์ ไม่ได้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น แต่มีข้อมูลว่าทั้งคู่คบหากันแบบลับ ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 ซึ่งในขณะนั้น อดีตพระสฤษดิ์ยังเป็นเพียงพระราชาคณะชั้นราชเท่านั้น ก่อนจะได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ในเวลาต่อมา
ความสัมพันธ์ของทั้งสองถูกเก็บเป็นความลับมานานกว่า 15 ปี ท่ามกลางความเคลือบแคลงของคนในพื้นที่ และบรรดาลูกศิษย์ใกล้ชิด แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องราวถูกเปิดเผย ไม่ได้มาจากฝ่ายตรงข้ามหรือสื่อใด ๆ หากแต่เป็น "คนใกล้ตัว" ของอดีตเจ้าอาวาสเองที่ไม่พอใจ และเริ่มแฉข้อมูลลับในโลกออนไลน์
เพจชื่อดัง "เจ๊มอย V+" ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ตัวต้นเรื่องที่แฉข่าวนี้คือคนใกล้ชิดของอดีตเจ้าอาวาส ที่จับได้ว่าท่านไปมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวคนใหม่ ทำให้เศรษฐีนีปากน้ำโพเกิดความหึงหวงและตัดสินใจนำเรื่องราวไปบอกชาวบ้าน จนเกิดการร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด
โลก 3 ใบของ “ทิดสฤษดิ์” แฉหนัก มีเมียถึง 3 คน?
นอกจากเรื่องเศรษฐีนีคนดังที่เป็นข่าวแล้ว เพจเจ้าเดิมยังเผยข้อมูลสุดช็อกว่า อดีตพระสฤษดิ์มี "โลก 3 ใบ" คือมีความสัมพันธ์ลับกับผู้หญิงถึง 3 คนด้วยกัน
ใบที่ 1: สีกา น. ซึ่งเป็นหญิงสาวคนแรกที่พระสฤษดิ์คบหาด้วยในช่วงก่อนรับตำแหน่งเจ้าอาวาส
ใบที่ 2: สีกา จ. หรือ "เศรษฐีนีปากน้ำโพ" ที่เป็นประเด็นใหญ่ในเวลานี้
ใบที่ 3: สีกา ต. ซึ่งมีรายงานว่าเป็นหญิงสาวคนล่าสุดที่ถูกจับได้ว่าแอบคบหาอย่างลับ ๆ จนนำไปสู่ความขัดแย้งและการแฉในที่สุด
ข้อความหนึ่งจากโซเชียลกล่าวอย่างเจ็บแสบว่า
"ใครบอกโลกแค่ 2 ใบ? สมิสฤษดิ์มี 3 ค่ะ ซุกเมียไว้ทุกทิศ แถมมีคนกราบไหว้โดยไม่รู้ว่ากราบอะไรอยู่!"
คดีเงินวัดยังต้องจับตา — ปมยักยอกเงินยังไม่จบ
นอกจากประเด็นความรักซ่อนเงื่อนแล้ว อีกหนึ่งเรื่องที่กำลังถูกรวบรวมหลักฐานอย่างเงียบ ๆ คือ คดีการทุจริตหรือยักยอกเงินวัด ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบโดยกองบังคับการสอบสวนกลาง (CIB) โดยมี “พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บ้านแก้ว” เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีนี้
แม้ยังไม่มีข้อสรุปแน่ชัดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่อาจถูกยักยอก แต่เบื้องต้นมีการสืบหาทรัพย์สินของเศรษฐีนีคนดัง ซึ่งอาจเชื่อมโยงกับการใช้เงินบริจาคหรือทรัพย์สินของวัด โดยทรัพย์สินที่ถูกพูดถึงประกอบด้วย:
บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ 2 หลัง ใน อ.เมือง จ.นครสวรรค์
รถยนต์หรู 3 คัน (Honda Accord Hybrid, Toyota Fortuner, Toyota Vigo)
เครื่องประดับมูลค่าสูง เช่น สร้อยทอง สร้อยเพชร และแหวนเพชร
ที่ดินใน อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ซึ่งต่อมาถูกยกให้กับหมอดูชื่อดังใน จ.ลำพูน
ข้อมูลเหล่านี้ยังคงต้องรอการพิสูจน์จากทางเจ้าหน้าที่อย่างเป็นทางการ และหากพบว่ามีการยักยอกเงินวัดจริง ก็อาจส่งผลให้เกิดคดีอาญาตามมาในลำดับถัดไป
บทเรียนจากศรัทธาที่ถูกสั่นคลอน: ความศักดิ์สิทธิ์ไม่ควรซ่อนความลับ
กรณีของอดีตพระสฤษดิ์ กับเศรษฐีนีปากน้ำโพ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องรักซ่อนเร้นเท่านั้น หากแต่ยังสะท้อนถึงความเปราะบางของศรัทธาในสถาบันทางศาสนา ซึ่งควรเป็นสถานที่แห่งความโปร่งใส ความยึดมั่นในหลักธรรม และเป็นต้นแบบทางคุณธรรมแก่ประชาชน
เมื่อผู้นำทางจิตวิญญาณกลับกลายเป็นข่าวฉาวในลักษณะนี้ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนในวงกว้าง และเป็นบทเรียนสำคัญที่สังคมไทยต้องหันกลับมาทบทวนในเรื่องการตรวจสอบคุณธรรม จริยธรรมของผู้นำศาสนา รวมถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดให้โปร่งใสและตรวจสอบได้
สรุป: ความจริงยังต้องรอพิสูจน์ แต่ศรัทธาต้องมีความชัดเจน
เรื่องราวของเศรษฐีนีปากน้ำโพ กับอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ยังคงมีรายละเอียดอีกมากที่ต้องรอการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว ทรัพย์สิน และความเชื่อมโยงกับเงินวัด
แต่สิ่งหนึ่งที่สังคมควรตระหนักคือ ความศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่จะใช้บังหน้าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว และการเป็นผู้นำทางศาสนาต้องมาก่อนด้วยจริยธรรมที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยชื่อเสียงหรือทรัพย์สินใด ๆ

















