ไม่ยอมแพ้! “สมยศ” ลุยขี่ไรเดอร์ รายได้หักแล้วเหลือร้อย แต่ใจยังแกร่ง
ชีวิตหลังเกษียณของ "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" จากนักต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงาน สู่ไรเดอร์ Grab ผู้อยู่ในสนามชีวิตจริง
ในสังคมที่รายได้ไม่เคยไล่ตามรายจ่ายทัน การดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีกลายเป็นความท้าทายของคนทำงานจำนวนมาก ยิ่งในยุคแพลตฟอร์มครองเมือง ที่ผู้คนต้องพึ่งพาแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อหารายได้ ไม่เว้นแม้แต่ "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" นักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิแรงงาน ที่ในวัยเกษียณได้เลือกกลับสู่ "สนามแรงงาน" อีกครั้งในบทบาทใหม่ – พนักงานขับรถส่งอาหารของ Grab
บทบาทใหม่นี้ไม่ได้เป็นเพียงอาชีพหลังเกษียณ หากแต่เป็น "ภาพสะท้อน" ของโครงสร้างแรงงานไทยในปัจจุบัน ซึ่งผู้ใช้แรงงานจำนวนมากต้องดิ้นรนอยู่ภายใต้ระบบที่ไร้หลักประกัน สวัสดิการ และค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
จากนักโทษทางความคิด...สู่แรงงานแพลตฟอร์ม
หากย้อนดูประวัติของ สมยศ พฤกษาเกษมสุข หลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะอดีตบรรณาธิการนิตยสาร “Voice of Taksin” ที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นถกเถียงด้านเสรีภาพการแสดงออกของสังคมไทย โดยเขาต้องโทษจำคุกถึง 6 ปี และได้รับอิสรภาพในปี 2561
หลังพ้นโทษ สมยศยังคงมีบทบาทในวงการเคลื่อนไหวทางการเมือง เขาก่อตั้ง "กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย" ขับเคลื่อนกิจกรรมเพื่อสิทธิประชาชนและแรงงานมาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและสภาพสังคมที่กดดัน คนวัยเกษียณอย่างเขาจึงเลือกที่จะไม่เป็นภาระของลูกหลานหรือสังคม พร้อมโพสต์ภาพตัวเองในชุดไรเดอร์ Grab ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 สร้างความสนใจและการถกเถียงในโลกออนไลน์ทันที
รายได้ต่อวันที่ไม่พอใช้: ตัวเลขที่บอกเล่าความจริง
ในโพสต์ดังกล่าว สมยศเล่าถึงการทำงานในหนึ่งวันแบบตรงไปตรงมา เขาระบุว่า
“ขับ Grab วันละ 8 ชั่วโมง ได้รายได้รวม 900 บาท หัก GP บริษัทแพลตฟอร์ม 40% เหลือ 540 บาท หักค่าน้ำมัน 500 บาท ค่าข้าวอีก 80 บาท คงเหลือ 320 บาทต่อวัน”
ตัวเลขเหล่านี้ชี้ชัดว่า แม้จะทำงานอย่างเต็มวันและใช้แรงกายอย่างหนัก รายได้สุทธิกลับไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ ไม่ต้องพูดถึงค่ารักษาพยาบาล สวัสดิการ หรือเงินออม
สิ่งที่สมยศเปิดเผยไม่ใช่แค่รายได้ตัวเอง แต่เป็นตัวแทนของแรงงานแพลตฟอร์มอีกนับแสนรายทั่วประเทศ ที่กำลังทำงานในลักษณะเดียวกัน พวกเขาไม่มีสัญญาจ้างถาวร ไม่มีประกันสุขภาพ ไม่มีวันหยุดที่ได้รับค่าจ้าง และไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับบริษัทแพลตฟอร์มที่มีรายได้มหาศาล
ระบบแพลตฟอร์มที่ "ดูดี" บนความเหนื่อยล้าของคนทำงาน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม (Platform Economy) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันคนเมือง ไม่ว่าจะเป็นการสั่งอาหาร เรียกรถ ส่งพัสดุ หรือแม้แต่จองหมอ แต่สิ่งที่สังคมอาจมองข้ามไปคือ "ต้นทุนที่แท้จริง" ของความสะดวกสบายนี้
แรงงานแพลตฟอร์มในไทยต้องแบกรับต้นทุนทั้งด้านกายและใจ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อรถ มอเตอร์ไซค์ ค่าน้ำมัน ค่าซ่อมบำรุง ไปจนถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและสุขภาพ
เมื่อเทียบกับกำไรของบริษัทเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่เติบโตหลักพันล้านบาท กลับพบว่าผู้ที่ขับเคลื่อนระบบอยู่แทบไม่มีหลักประกันใดๆ รองรับ
สมยศยังได้แสดงความเห็นทิ้งท้ายไว้ว่า
“หมดเรี่ยวแรง ชักหน้าไม่ถึงหลัง เราจะมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆกัน?”
ข้อความนี้ชัดเจนในเชิงประชดประชันต่อคำหาเสียงของนักการเมืองหลายคน และสะท้อนถึงความเหนื่อยล้า ท้อแท้ของผู้คนที่ใช้แรงงานแลกเศษเงินในแต่ละวัน
ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ต้องพูดถึง
การที่ผู้สูงวัยอย่างสมยศยังต้องออกมาทำงานหนักในวัยหลังเกษียณ เป็นสิ่งที่สังคมไทยควรตั้งคำถามอย่างจริงจังต่อระบบสวัสดิการและความมั่นคงของผู้สูงอายุ
เรากำลังอยู่ในสังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ แต่รัฐยังไม่สามารถวางระบบที่รองรับคนวัยเกษียณได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นเงินบำนาญ สวัสดิการ หรือการส่งเสริมอาชีพอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน แรงงานแพลตฟอร์มซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี กลับอยู่นอกกฎหมายแรงงานเดิมที่ไม่สามารถครอบคลุมรูปแบบการจ้างงานใหม่ๆ ได้ รัฐจึงควรมีมาตรการที่ชัดเจนในการรับรองสิทธิขั้นพื้นฐานให้กับแรงงานกลุ่มนี้
เสียงสะท้อนจากภาคประชาชน
หลังโพสต์ของสมยศถูกเผยแพร่ ได้เกิดกระแสในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ผู้คนจำนวนมากแสดงความชื่นชมในความตั้งใจและอุดมการณ์ที่ยังไม่เปลี่ยนแปลง บางคนแชร์ประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามถึงความล้มเหลวของระบบสังคมไทย
"นี่ไม่ใช่เรื่องของสมยศคนเดียว แต่มันคือเรื่องของพ่อแม่พี่น้องของพวกเราทุกคนในอนาคต"
"เมื่อคนอย่างสมยศยังต้องทำงานหนัก แล้วคนธรรมดาทั่วไปจะอยู่กันอย่างไร?"
เสียงเหล่านี้ตอกย้ำว่าวิกฤตแรงงานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาสังคมร่วมที่เราทุกคนต้องร่วมกันหาทางออก
คำถามที่ต้องการคำตอบจากภาครัฐและสังคม
เมื่อไรแรงงานแพลตฟอร์มจะได้รับการรับรองสิทธิเท่าเทียมกับแรงงานในระบบ?
เราจะสร้างระบบประกันรายได้ให้ผู้สูงอายุได้อย่างไร?
รัฐสามารถสร้าง "โครงสร้างใหม่" ที่ทำให้คนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และอยู่ได้จริงหรือไม่?
การดำเนินชีวิตของสมยศในวันนี้อาจเป็นเพียงหนึ่งเสียง แต่เป็นเสียงที่ดังและชัดเจนพอจะปลุกให้สังคมไทยตื่นจากภวังค์ของคำว่า "แพลตฟอร์มคือโอกาส" แล้วหันมาทบทวนว่า ระบบแรงงานที่เรายอมรับนั้น "เป็นธรรมจริงหรือไม่?"
แม้ว่า "สมยศ พฤกษาเกษมสุข" จะผ่านประสบการณ์จากคุกสู่ถนน จากเวทีปราศรัยสู่เบาะมอเตอร์ไซค์ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน คือความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่เป็นภาระของใคร และยังคงยืนหยัดต่อสู้ในแบบของตัวเอง แม้ในสนามแรงงานใหม่ ที่ชื่อว่า "ไรเดอร์"
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนคนหนึ่ง แต่มันคือภาพสะท้อนของระบบที่ควรได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน

















