เปิดโปงขอทานเขมร! ทีม “กัน จอมพลัง” ลุยเอง เจอรายได้วันละ 4,000 บาท
“กัน จอมพลัง” แฉขบวนการขอทานข้ามชาติ! เผยชายกัมพูชาแกล้งพิการ หาเงินวันละ 4,000 ก่อนลุกเดินหน้าตาเฉย
ปมร้อนกลางเมืองไทย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อดัง “กัน จอมพลัง” ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมหลอกลวงของชาวกัมพูชาที่เข้ามาขอทานในประเทศไทย โดยอ้างแกล้งพิการเพื่อเรียกความสงสารจากประชาชน จนได้เงินวันละหลายพันบาท สร้างความไม่พอใจในสังคม พร้อมตั้งคำถามถึงความปล่อยปละละเลยของประเทศเพื่อนบ้าน
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นจากโพสต์ของ “กัน จอมพลัง” หรือชื่อจริง นายกัณฐ์ศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ บุคคลที่เป็นที่รู้จักกันดีในโลกออนไลน์ในบทบาทของผู้ช่วยเหลือประชาชน โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพประกอบที่ชวนให้ช็อก โดยระบุว่า ได้ส่งทีมงานลงพื้นที่สำรวจพฤติกรรมของผู้ที่มาเป็นขอทานตามท้องถนนในประเทศไทย และพบว่า มีชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งแกล้งทำเป็นพิการขาขาด ใช้การคลานตามทางเท้าเพื่อเรียกร้องความเมตตาจากผู้คน
ภาพที่ปรากฏนั้นเต็มไปด้วยความเวทนา ชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าหม่นหมองคลานอยู่บนถนน พร้อมเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนผ่านไปมา ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างรู้สึกสงสาร บางรายถึงกับกล่าวโทษรัฐบาลไทยว่าทำไมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นได้
แต่ความจริงกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง...
เบื้องหลัง “ความสงสาร” คือ “กลลวง”
จากข้อมูลที่ “กัน จอมพลัง” เปิดเผย พบว่าชายคนดังกล่าวเป็น ชาวกัมพูชา อายุประมาณ 50 ปี ซึ่งหลบหนีเข้าประเทศไทยมาโดยผิดกฎหมาย และยึดอาชีพ “ขอทาน” โดยปลอมตัวเป็นคนพิการ ด้วยการถอดขาเทียมแล้วคลานไปตามถนน เพื่อให้ผู้คนรู้สึกเห็นใจ
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมงานของ “กัน จอมพลัง” เข้าควบคุมตัว กลับพบว่าเขาสามารถ หยิบขาเทียมมาใส่แล้วลุกขึ้นยืนเดินได้ทันทีอย่างหน้าตาเฉย โดยไม่มีอาการเจ็บป่วยใด ๆ ที่จำกัดการเคลื่อนไหว นั่นเป็นหลักฐานชัดเจนว่าชายผู้นี้ “แกล้งพิการ” เพื่อหลอกลวง
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ เขาให้ข้อมูลกับทีมงานว่า ในแต่ละวันสามารถ ขอทานได้เงินสูงถึง 4,000 บาทต่อวัน ซึ่งนับว่าเป็นรายได้ที่มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำในประเทศไทยหลายเท่า
กระแสสังคมเดือด! ประชาชนรับไม่ได้กับพฤติกรรมเช่นนี้
ภายหลังโพสต์ของ “กัน จอมพลัง” เผยแพร่ออกไป ได้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ทันที ผู้คนมากมายต่างแชร์โพสต์และแสดงความคิดเห็นกันอย่างดุเดือด โดยส่วนใหญ่ไม่พอใจที่มีขบวนการหลอกลวงในลักษณะนี้เกิดขึ้นกลางเมืองใหญ่ของไทย
บางความคิดเห็นถึงขั้นเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจังในการ ตรวจสอบขบวนการขอทานต่างด้าว ที่อาจมีการจัดตั้งเป็นเครือข่ายหรือมีผู้อยู่เบื้องหลังส่งคนเข้ามาก่อเหตุในไทย
ขณะเดียวกัน หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมจึงสามารถหลบหนีเข้าประเทศไทยได้ และเหตุใดถึงไม่มีการควบคุมหรือกำกับดูแลพื้นที่ที่พบเห็นขอทานเหล่านี้อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว หรือย่านการค้าสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
คำถามถึง “รัฐบาลกัมพูชา” และ “การจัดการชายแดน”
หนึ่งในประเด็นที่ “กัน จอมพลัง” กล่าวอย่างตรงไปตรงมาในโพสต์คือ การตั้งคำถามต่อรัฐบาลกัมพูชาว่า หากไม่ชอบประเทศไทยจริงตามที่กล่าวอ้างในบางกรณี ทำไมจึงยัง ปล่อยให้ประชาชนของตนเองหลบหนีเข้ามาทำผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน แถมยังอยู่ในสภาพที่ทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยดูแย่ต่อสายตาชาวต่างชาติ
เขาระบุชัดว่า ภาพของคนที่คลานอยู่ตามถนนนั้น อาจทำให้ชาวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยเข้าใจผิด คิดว่าไทยมีความเหลื่อมล้ำจนถึงขั้นที่ประชาชนบางกลุ่มต้องลงมาคลานขอเงิน แต่ความจริงกลับเป็น ขบวนการหลอกลวง จากชาวต่างด้าวที่มีระบบและแผนการชัดเจน
เสนอแนะแนวทางแก้ไข: ร่วมมือไทย-กัมพูชา และตรวจเข้มขบวนการขอทานแอบแฝง
กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นในการตรวจสอบและ จัดระเบียบผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติกรรมหลอกลวง เช่น แกล้งพิการ แกล้งเจ็บป่วย หรือแสดงอาการอนาถาต่าง ๆ เพื่อขอทาน
หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจฐานรากของประชาชนไทยที่แท้จริง แต่ยังจะ ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีนานาชาติ
หลายเสียงเรียกร้องให้มีการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ กองตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อให้สามารถควบคุมสถานการณ์เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงอาจมีการตั้ง ศูนย์รับแจ้งเหตุผู้ต้องสงสัยเป็นขอทานต่างด้าว และให้ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ข้อคิดจาก “กัน จอมพลัง”: อย่าให้ความสงสารกลายเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ
บทเรียนสำคัญจากกรณีนี้คือ การที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยมัก ให้ความช่วยเหลือด้วยความสงสาร โดยขาดข้อมูลว่าผู้ที่กำลังรับเงินของตนไปนั้นเป็นผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจริงหรือไม่
“กัน จอมพลัง” ฝากเตือนคนไทยให้ “แยกแยะ” ระหว่างคนที่สมควรได้รับความช่วยเหลือจริง ๆ กับผู้ที่แกล้งทำเป็นน่าสงสารเพื่อหวังผลประโยชน์ เขาเน้นย้ำว่า หากพบเห็นพฤติกรรมที่น่าสงสัย ไม่ควรเพิกเฉย และควรแจ้งเจ้าหน้าที่หรือทีมงานของเขาเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
สรุป: กรณีตัวอย่างที่ควรเปิดตาให้สังคม
กรณีชายกัมพูชาแกล้งพิการเพื่อขอทานในไทยจนได้เงินวันละ 4,000 บาท นั้น ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของ “หลอกลวง” หากแต่เป็นเครื่องสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างของการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ผู้อพยพ และการค้ามนุษย์ที่อาจซ่อนตัวอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ
หากภาครัฐยังไม่ตื่นตัวหรือดำเนินการอย่างจริงจัง ปัญหาเหล่านี้อาจลุกลามจนกระทบต่อเศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ และความมั่นคงของประเทศในระยะยาว
คุณล่ะ? เคยเห็น “ขอทาน” ลักษณะนี้ไหม และคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้?
หากคุณพบเห็นกรณีที่คล้ายคลึงกัน หรือสงสัยว่าอาจมีการหลอกลวงในรูปแบบนี้ สามารถแจ้งเบาะแสผ่านเพจ “กัน จอมพลัง” หรือสายด่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันปกป้องประเทศจากการถูกแสวงหาประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง


















