ชีสแสนอร่อยที่เราชอบกิน อาจมีไมโครพลาสติกมากกว่าน้ำขวดถึง 45 เท่า!
วันนี้ดิฉันขออนุญาตมาแบ่งปันข่าวสารด้านสุขภาพที่เพิ่งได้อ่านจากต่างประเทศ ซึ่งต้องบอกตามตรงว่า ทำให้ดิฉันรู้สึกตกใจและกังวลใจพอสมควรค่ะ เพราะเกี่ยวข้องกับ “ชีส” อาหารโปรดยอดนิยมที่หลายท่านชอบ
จากบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร NPJ Science of Food และสื่ออังกฤษอย่าง Daily Mail รายงานว่า มีผลวิจัยที่ตรวจพบว่า ชีสบางประเภท โดยเฉพาะชีสที่เก็บรักษาได้นาน มีการ ปนเปื้อนไมโครพลาสติกมากกว่าน้ำดื่มบรรจุขวดถึง 45 เท่า เลยทีเดียวค่ะ
นักวิจัยจากอิตาลีได้สุ่มตัวอย่างชีสหลายชนิด พบว่า
ชีสที่เก็บได้นานกว่า 4 เดือน มีไมโครพลาสติกเฉลี่ย 1,857 ชิ้นต่อ 1 กิโลกรัม
ส่วนชีสที่เก็บไม่เกิน 1 เดือน มีอยู่ประมาณ 1,280 ชิ้นต่อ 1 กิโลกรัม
สิ่งที่น่ากังวลคือ ไมโครพลาสติกเหล่านี้ มีขนาดเล็กมาก บางส่วนเล็กกว่า 50 ไมโครเมตร ซึ่งเล็กพอจะทะลุผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ของร่างกายได้โดยตรง
นักวิจัยเชื่อว่า ไมโครพลาสติกเหล่านี้อาจมาจากกระบวนการผลิต เช่น ภาชนะพลาสติกที่ใช้ใส่น้ำนมหรือวัตถุดิบ การห่อชีสด้วยพลาสติก หรือแม้แต่ฟิล์มที่ใช้ในกระบวนการเก็บรักษา
ในแง่ของผลกระทบต่อสุขภาพ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการศึกษาอย่างต่อเนื่องค่ะ แต่จากการทดลองในสัตว์ พบว่า ไมโครพลาสติกอาจส่งผลเสียต่อระบบลำไส้ ตับ ปอด และอวัยวะสืบพันธุ์ และในมนุษย์ก็เริ่มพบความเชื่อมโยงกับโรคหัวใจและมะเร็งลำไส้เช่นกัน
ดิฉันเข้าใจค่ะว่าอาหารอย่างชีส พิซซ่า แฮมเบอร์เกอร์ หรือพาสต้า กลายเป็นของโปรดของเด็กๆ และวัยรุ่นในบ้านเราไปแล้ว แต่เมื่อได้ทราบข้อมูลนี้ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ จึงอยากฝากพี่น้องและผู้ปกครองทุกท่าน ให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
สิ่งที่พอทำได้ตอนนี้ คือ
ลดการใช้ภาชนะพลาสติกในการอุ่นอาหาร
หลีกเลี่ยงอาหารที่บรรจุด้วยพลาสติกโดยตรง
ใช้ภาชนะเซรามิก สแตนเลส หรือถุงผ้าแทน
และอาจเลือกบริโภคชีสเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงการรับประทานบ่อยหรือในปริมาณมากค่ะ
สุดท้ายนี้ ดิฉันหวังว่าเรื่องนี้จะทำให้เราหันมาใส่ใจทั้งเรื่องอาหารและสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนะคะ รวมถึงสนับสนุนให้ภาคอุตสาหกรรมหันมาใช้วัสดุทางเลือกที่ปลอดภัยต่อสุขภาพและโลกของเราค่ะ😊






