ชายชาวอเมริกันเสียชีวิต หลังถูกเครื่อง MRI ดูดกระแทก
ชายชาวอเมริกันเสียชีวิต หลังถูกเครื่อง MRI ดูดกระแทก
เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในสหรัฐอเมริกา เมื่อชายวัย 61 ปี เสียชีวิตอย่างไม่คาดคิดหลังถูกแรงดูดจากเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) ดึงตัวเขาพุ่งเข้าไปกระแทกอย่างแรง ภายหลังจากที่เขาสวมโซ่เหล็กสำหรับยกน้ำหนักคล้องไว้ที่คอขณะเข้าไปในห้องตรวจ
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ศูนย์ตรวจ MRI แห่งหนึ่งในย่านลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก โดยชายคนดังกล่าวไม่ได้เป็นผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจ แต่เดินตามภรรยาเข้าไปในห้องหลังจากเจ้าหน้าที่เรียกให้มาช่วยประคองเธอซึ่งกำลังสแกนหัวเข่าเสร็จพอดี ในขณะนั้นเครื่อง MRI ยังคงเปิดใช้งานอยู่ และไม่มีใครทันสังเกตว่าเขายังคงคล้องโซ่เหล็กเส้นใหญ่หนักประมาณ 9-10 กิโลกรัมไว้ที่คอ
ทันทีที่เข้าไปใกล้สนามแม่เหล็กอันทรงพลังของเครื่อง MRI โซ่เหล็กก็ถูกดูดเข้าไปด้วยแรงมหาศาล พาร่างของชายผู้นั้นพุ่งกระแทกเข้ากับเครื่องอย่างรุนแรงต่อหน้าต่อตาภรรยาและเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในห้อง เขาหมดสติทันที และแม้จะมีความพยายามช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ทั้งการปิดเครื่อง การแจ้ง 911 และการนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง แต่ในที่สุดเขาก็เสียชีวิตในวันถัดมาเนื่องจากอาการหัวใจวายและการบาดเจ็บภายในอย่างรุนแรง
เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นตระหนกอย่างมากในวงการแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่อง MRI ซึ่งเป็นเครื่องมือถ่ายภาพภายในร่างกายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งมีสนามแม่เหล็กแรงสูงระดับที่สามารถดูดโลหะหนัก เช่น ถังออกซิเจน เก้าอี้เหล็ก หรือแม้แต่เข็มขัดเหล็ก ให้ลอยขึ้นและพุ่งเข้าใส่เครื่องได้ทันที ซึ่งอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ภายในเสี้ยววินาที
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยาอธิบายว่า การเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ห้อง MRI ต้องปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทั้งผู้ป่วยและบุคคลติดตามต้องถอดวัตถุโลหะทุกชนิดออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ เหรียญ กระเป๋า เข็มขัด หรือแม้แต่การแต่งหน้าที่มีส่วนผสมของโลหะ เพราะแม้แต่วัตถุเล็กที่สุดก็อาจกลายเป็นอันตรายร้ายแรงได้ในทันทีที่เข้าใกล้เครื่อง
ในกรณีนี้ เจ้าหน้าที่ทางการของศูนย์ MRI อยู่ระหว่างการให้ปากคำกับตำรวจและหน่วยงานสอบสวน ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ภรรยาของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่า สามีของเธอมักใส่โซ่เส้นนี้เป็นประจำทุกวัน เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมยกน้ำหนักที่เขาชื่นชอบ และในวันเกิดเหตุก็ไม่มีใครทันได้เตือนหรือสังเกตว่ามันยังอยู่ที่คอของเขา
ขณะเดียวกันก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเหตุการณ์นี้อาจเกิดจากความหละหลวมในมาตรการรักษาความปลอดภัยของสถานพยาบาล ซึ่งควรมีการตรวจสอบบุคคลทุกคนที่เข้าใกล้บริเวณห้อง MRI อย่างเคร่งครัด รวมถึงมีป้ายเตือนที่ชัดเจน ตลอดจนการอบรมเจ้าหน้าที่ให้สามารถสังเกตความผิดปกติและป้องกันเหตุได้ทันท่วงที
โศกนาฏกรรมในครั้งนี้กลายเป็นกรณีตัวอย่างที่ชัดเจนว่า เครื่องมือแพทย์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ก็สามารถกลายเป็นภัยถึงชีวิตได้ หากไม่มีมาตรการควบคุมอย่างเหมาะสม และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องตระหนักถึงความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีเครื่องมือที่ใช้สนามแม่เหล็กแรงสูง เช่น MRI ซึ่งแม้เพียงเสี้ยววินาทีของความประมาท ก็อาจแลกมาด้วยชีวิตของคนหนึ่งคนได้















