นาตาลี เดวิส ใจสลาย! แม่บ้านคนสนิทขโมยเงินกว่า 1 ล้าน ต้องตัดใจพาเข้าคุก
นาตาลี เดวิส สุดช้ำ! แม่บ้านคนสนิทขโมยเงิน 1 ล้านบาท เอาคนเข้าคุก งานนี้เจ็บจี๊ดหัวใจแม่ลูกสอง
อดีตนักร้อง-นักแสดงชื่อดัง นาตาลี เดวิส ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในวันที่ “ยากที่สุดในชีวิต” เมื่อเธอต้องตัดสินใจเอาผิดนำแม่บ้านคู่ใจเข้าคุก หลังคนที่เคยดูแลบ้านและลูกของเธอดีเสมือนคนในครอบครัว กลับขโมยเงินสดกว่า หนึ่งล้านบาท จากการเก็บสะสมของสามีเธอ
นาตาลีเผยกับสื่อว่า เธอไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้จะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ และเธอไม่เคยคาดคิดเลยว่าคนที่ไว้ใจจนถึงขั้น “กินข้าวหม้อเดียวกัน อยู่ด้วยกันแทบทุกวัน” จะทุจริตขนาดนี้ ถึงวันนี้เธอกับสามีต้องเจ็บช้ำทั้งกายและใจ แต่ก็อยู่ในจุดที่ต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้กลับคืนมาให้ได้
🔍 เหตุการณ์แม่บ้านขโมยเงินล้านเกิดขึ้นได้อย่างไร
นาตาลีนับเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับคนดูแลบ้านและลูกอย่างมาก เธอเล่าว่าเธอลงทุนดูแลแม่บ้านให้เป็นเหมือนคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชวนรับประทานอาหาร ครอบครัวกิจกรรม และการดูแลทุกอย่างเหมือนกัน
“แม่สอนมาแต่เด็กว่าสิ่งหวานที่สุดคือการดูแลคนที่ดูแลเรา ไม่ให้เขารู้สึกเป็น ‘คนใช้’ จึงเรียกแม่บ้านว่า ‘ลูกมือเรา’ ดูแลให้ดีที่สุด ไม่คิดเลยว่าจะถูกคนใกล้ชิดเอาเปรียบ”
แต่หลังแม่บ้านคนนั้นถูกจับกุม ตำรวจ สน.คลองตัน ได้แจ้งว่าเธอขโมยเงินสดในบ้านไปจนหมดเกลี้ยง เหลือแค่ยอดในบัญชีที่โอนกลับ สปป.ลาว ซึ่งนักข่าวยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามีเงินในบัญชีจริงหรือไม่
😭 นาตาลี เดวิส เผยอารมณ์เจ็บช้ำ: “วันหนักที่สุดในชีวิต”
นาตาลีเผยว่าเธอร้องไห้มาทั้งวัน “เจ็บจนพูดไม่ออก” เมื่อจำใจต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย พร้อมกับแสดงความเจ็บช้ำที่ว่า:
“เราไม่เคยคิดว่าจะเอาคนเข้าคุก… แต่แม่บ้านที่เรารักเหมือนครอบครัว ก็กินข้าวหม้อเดียวกัน... แต่กลับเอาเงินเราไปหมด”
เธอเสริมว่า สิ่งที่เจ็บที่สุดคือ “ความสุจริตของสามีถูกทุจริตเอาไป” ทําให้ชีวิตกลายเป็นหนี้สินและความเชื่อใจระคนกันไปหมด
👮♂️ ดำเนินคดีแล้ว! “สน. คลองตัน” รวบแม่บ้านขโมยเงิน ขู่เอาเงินคืนให้ได้
นอกจากนาตาลีจะออกมาเปิดใจแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. คลองตัน ก็ออกแถลงยืนยันว่าแม่บ้านถูกดำเนินคดีข้อหาขโมยทรัพย์ และปัจจุบันอยู่ในสถานะถูกจับกุม
ตำรวจชี้ว่ามีหลักฐานหลายชิ้นที่ชี้ชัดว่าแม่บ้านได้ขโมยเงินสดออกมาจากบ้านไปก่อนหน้านี้ และมีการดำเนินการประสานกับหน่วยงานสากลกรณีพบการโอนเงินไปยังบัญชีใน สปป.ลาว ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน
หากตรวจสอบเสร็จสิ้น เธออาจถูกดำเนินคดีหนัก รวมถึงเรียกคืนเงินที่ขโมยไปด้วย
📦 เงินทั้งหมดหายไปไหน? วอนคืน “เงินกู้คืนได้ ขอผู้รู้ช่วยชี้ทางสว่าง”
นาตาลีกล่าวว่าสิ่งที่ต้องการตอนนี้คือการ ได้คืนเงินคืนทั้งหมด โดยเฉพาะยอดที่มาจาก “เงินเก็บของสามี” ที่เขาหาเองและเก็บสะสมมากว่า 10 ปี
“เงินมันเยอะจริง ๆ เราไม่ใช่ไฮโซอะไร แต่เงินก้อนนี้คือชีวิต เราอยากได้เงินคืน นาตาลีขอความกรุณา หากใครมีความรู้ด้านทวงหนี้ รบกวนชี้ทางสว่างให้ด้วยค่ะ ขอบคุณมาก”
เธอยังพูดถึงว่าแม่บ้านอ้างว่า “โอนเงินกลับ สปป.ลาวหมดแล้ว” แต่เธอเชื่อว่าไม่ทั้งหมดจะถูกโอนไป และยังอาจมีเงินหลงเหลือตามบัญชีอื่น
👩👦 ร้องไห้ออกสื่อ แต่ย้ำว่าหลังจากนี้ต้องเข้มแข็งเพื่อครอบครัว
ถึงแม้นาตาลีจะร้องไห้จนน้ำตาไหลเมื่อเธอเปิดประตูรับชีวิตในวันนี้ แต่เธอยืนยันว่าเธอจะต้องเข้มแข็งเพื่อ “ลูกสองและสามี” โดยกล่าวว่า:
“แม่บ้านดี ๆ ยังมีอยู่ เราเชื่อแบบนั้น แต่เราแค่อาจโชคร้ายที่ไว้ใจคนผิด”
ทั้งนี้ เธอเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญให้กับคนอื่น ที่อยากจ้างแม่บ้าน ควรมีมาตรการตรวจสอบ หรือเก็บหลักฐานความน่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในอนาคต
🔑 วิเคราะห์ประเด็นแวดล้อมสำคัญ
1. ความเชื่อใจ VS คดีเงินล้าน
ความน่าเศร้าคือเมื่อเชื่อใจมากที่สุด มักกลายเป็นช่องโหว่ที่ถูกหักหลังได้ง่าย การวางเกราะคุ้มกันเบื้องต้น เช่น กล้องวงจรปิด หรือการตรวจสอบประวัติ ควรทำแม้นจะไว้ใจแค่ไหนก็ตาม
2. การดำเนินคดีไทย-ลาว
การที่แม่บ้านอ้างว่าโอนเงินกลับ สปป.ลาว แสดงว่าอาจเป็นคดีข้ามชาติ มีช่องทางรับเรื่องผ่านกระทรวงยุติธรรม หรือประสานตำรวจปราบปรามการฟอกเงิน
3. บทเรียนด้านจ้างงานแม่บ้าน
นาตาลีย้ำว่าแม่บ้านดี ๆ ยังมีอยู่ แค่นี่คือบทเรียน: ทำตัวเป็น “คนในครอบครัว” แต่ควรมีระบบมาตรการ เช่น การทำสัญญาจ้างงาน การติดกล้องในจุดสำคัญ หรือนำเงินเก็บไปฝากธนาคารแทนเก็บเงินสด
4. เสียงสังคม – ไว้ใจง่ายหรือเป็นเหยื่อ?
ชาวโซเชียลแสดงความเห็นว่า “นาตาลีมีบุญคุณช่วยแม่บ้าน แต่ก็ต้องไม่ลืมหน้าที่คุ้มครองครอบครัว” และหลายคนเห็นใจว่าการทำคดีนี้ไม่ใช่เรื่องน่าด่า แต่เป็นการปกป้องครอบครัว
📌 สรุป: เรื่องเศร้า แต่กลับเป็นบทเรียนสำคัญ
นาตาลี เดวิส ต้องเผชิญ "วันหนักที่สุดในชีวิต" เมื่อแม่บ้านที่ไว้ใจ กลับขโมยเงินกว่า 1 ล้านบาท
เธอต้อง เอาคนเข้าคุก แม้จะใจเจ็บ แต่ทำไปเพื่อครอบครัว
ตำรวจจับกุมแม่บ้านแล้ว และกำลังตรวจสอบเส้นทางเงิน - หากการโอนเงินไป สปป.ลาวจริง ก็อาจเป็นคดีล้ำหน้า
เพื่อป้องกันเหตุช้ำใจแบบนี้ ต้องมี มาตรการตรวจสอบและเก็บหลักฐาน แม้จะไว้ใจมากแค่ไหน
สุดท้าย นาตาลีย้ำว่า แม่บ้านดี ๆ ยังมีอยู่ แต่ “เราอาจโชคไม่ดีที่ไว้ใจผิดคนเท่านั้น”















