มอบตัวแล้ว!พี่เขยโหดมีดเดือยได่กระซวกน้องเมียดับ อ้างป้องกันตัว
จากกรณีนายภาณุพงศ์ อายุ 25 ปี,น.ส.ปานทิพย์ อายุ 38 ปี เพี่น้องกัน และนายจักรกฤษ อายุ 27 ปี หลาน น.ส.ปานทิพย์ คนเจ็บ ซึ่งทำงานรับจ้างแบกไม้ ถูกนายพนม หรือ นม อายุ 42 ปี สามีของ น.ส.ปานทิพย์ ก่อเหตุใช้อาวูมีดเดือยไก่แทงนายภาณุพงศ์ เข้าชายโครงขวา ทะลุปอดบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ น.ส.ปานทิพย์ ภรรยาของคนก่อเหตุ ถูกอาวุธมีดเดือยไก่แทงเข้าแขนขวา ได้รับบาดเจ็บ และนายจักรกฤษ บาดเจ็บถูกอาวุธมีดแทงที่หลัง ผู้ตาย และผู้บาดเจ็บ รวม 3 คน เป็นญาติกัน หลังจากนายพนม หรือ นม ก่อเหตุขับรถบรรทุกหกล้อ สีขาว ทะเบียนนครศรีธรรมราช หลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.ทุ่งสง เหตุเกิดเมื่อเวลา 02.30 น.วันที่ 18 ก.ค.68 บริเวณลานทำไม้ยางพารา พื้นที่ว่างประตูหลังมหาวิทยาลัย หมู่ 5 ต.หัวตะพาน อ.ท่าศาลาจ.นครศรีธรรมราช
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา สั่งการตำรวจชุดสบสวน เร่งติดตามจับกุมพร้อมกับกดดันนายพนม หรือ นม คนก่อเหตุ อย่างใกล้ชิด และพนักงานสอบสวน เร่รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อเสนอศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อขออุนมัติหมายจับ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเฉตนา,พยายามฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ ต่อมาทางศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อนุมัติหมายจับนายพนม หรือ นม อายุ 42 ปี ก่อนที่ญาติจะประสานตำรวจนำตัวนายพนม หรือ นม เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ธวัชชัย สังฆมิตกล ผกก.สภ.ท่าศาลา ก่อนจะนำตัวสอบสวนนายพนม หรือ นม ให้การรับสารภาพ ว่าก่อเหตุจริง แต่ทำไปเพราะป้องกันตัว เพราะถูกนายภาณุพงศ์ น้องเมีย และนายจักรกฤษ หลานเมีย รุมทำร้ายชกต่อยก่อน
อย่างไรก็ตามทางนายพนม หรือ นม คนก่อเหตุ ปฏิเสธทำแผนประกอบคำรับสารภาพ จึงคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายตากฏหมาย
นายพนม หรือ นม คนก่อเหตุ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่าอยู่กินกับ น.ส.ปานทิพย์ เกือบ 10 ปี มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 7 ปี ตนและเมีย และญาติเมีย มีอาชีพรับเหมาตัดไม้ แบกไม้ ตามที่นายจ้างว่าจ้างที่เกิดเหตุเป็นเวลา 4 วันแล้ว ตนทำหน้าที่ตัดต้นยางนา เมียทำบัญชี ส่วนนายภาณุพงศ์ น้องเมีย และนายจักรฤษ หลานเมีย ทำหน้าที่แบกขนไม้ยางขึ้นรถบรรทุก ก่อนเกิดเหตุตนตัดไม้ยางนาและช่วยขนไม้ขึ้นรถบรรทุกจนใกล้เที่ยงคืนแล้วตนเกิดความเหนื่อยล้า ต้องการไปพักผ่อน จึงขอกุญแจกรถกับเมีย เพื่อกลับไปพักผ่อนที่ห้องพัก แต่เมียไม่ให้ตนกลับและไม่ให้กุญแจรถ จึงโมโห บันดาลโทสะตบหน้าเมียไป 3 ครั้ง ก่อนที่เมียจะไปฟ้องนายภาณุพงศ์ น้องเมีย และนายจักรกฤษ หลานเมีย ว่า ถูกตนทำร้าย น้องเมียและหลานเมีย จึงปรี่เข้ารุมทำร้ายชกต่อยตน แต่ตนสู้ไม่ได้ จึงชักมีดเดือยไก่ที่พบติดตัวแทงสวนไปจำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ก่อนที่นายภาณุพงศ์ น้องเมีย จะล้มฟุบบาดเจ็บ ด้วยความกลัวว่าจะถูกรุมทำร้ายอีก จึงขับรถบรรทุกหกล้อหนีไปตั้งหลักที่บ้านญาติ ใน อ.จุฬาภรณ์ และญาตินำเข้ามอบตัว ยอมรับความผิด ไม่ตั้งใจให้น้องเมียตาย ทำไปเพราะป้องกันตัวเท่านั้น นอกจากนี้บางช่วงบางตอนนายพนม หรือ นม คนก่อเหตุ น้ำตาคลอ ไหล ด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์เกิดขึ้น
ขณะที่ศพนายภาณุพงศ์ ญาติรับศพจากรพ.ท่าศาลาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดสระแก้ว หมู่ 1 ต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางบรรยากาศความเสียใจของบรรดาญาติๆ โดยนายสำราญ อายุ 58 ปี พ่อผู้ตายและนางสมพรอายุ 60 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.นาหลวงเสน อ ทุ่งสง แม่ของตาย รอรับศพลูกชายด้วยความเศร้าโศกเสียใจและเผยว่าผู้ตายเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นคนดีขยันทำมาหากินมีความประพฤติเรียบร้อย เป็นที่รักใคร่ของญาติๆและเพื่อน ทั้งพ่อและแม่อยากให้ตำรวจ สภ.ท่าศาลา ดำเนินคดีกับนายพนม หรือ นม ลูกเขยโหดอย่างเต็มที่และถึงที่สุดเลย และตนจะไปคัดค้านการประกันตัวของลูกเขย






