โศกนาฏกรรมกลางห้างเปิดใหม่! ไฟไหม้คร่าชีวิตกว่า 60 ศพ อิรักไว้อาลัย 3 วัน
ไฟไหม้ห้างเปิดใหม่ในเมืองคุต ประเทศอิรัก คร่าชีวิตแล้ว 61 ราย สูญหายอีกหลายคน ทางการตั้งข้อหาเจ้าของอาคาร-ห้างฯ จ่อสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในประเทศอิรัก เมื่อห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการได้เพียงไม่กี่วัน ในเมืองคุต เมืองสำคัญทางตะวันออกของประเทศ เกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 61 ราย สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง และยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย สร้างความโศกเศร้าให้กับครอบครัวผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชนชาวอิรักที่ติดตามข่าวเหตุสลดครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
รายละเอียดของเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าในเมืองคุต
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 17 กรกฎาคม ตามเวลาท้องถิ่น โดยห้างสรรพสินค้าที่เกิดเหตุนั้น เป็นอาคารสูง 5 ชั้น ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อ สัปดาห์ที่ผ่านมา ภายในห้างมีร้านอาหารหลายแห่ง ร้านค้าแฟชั่น รวมถึงซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ ที่มักมีผู้คนแวะเวียนเข้าไปจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมาก
จากรายงานของกระทรวงมหาดไทยอิรักระบุว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุเพลิงไหม้นั้น ยังมีผู้คนอยู่ภายในอาคารจำนวนมาก โดย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ภายในออกมาได้ 45 คน แต่ก็ยังมีอีกจำนวนหนึ่งที่สูญหาย และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 61 ราย
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการควบคุมเพลิงที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวัสดุภายในอาคารส่วนใหญ่เป็นพลาสติก วัสดุตกแต่งสังเคราะห์ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ส่งผลให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง
บรรยากาศในช่วงที่เกิดเหตุ: ความตื่นตระหนกและโศกเศร้า
จากคำให้สัมภาษณ์ของพยานในที่เกิดเหตุ หลายคนเล่าว่า ได้ยินเสียงระเบิดเบา ๆ ตามมาด้วยควันไฟหนาทึบ ก่อนที่ไฟจะลุกไหม้ลามขึ้นไปยังชั้นบนอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้คนที่อยู่ในห้างเกิดความโกลาหล วิ่งหนีเอาชีวิตรอด บางคนติดอยู่ในลิฟต์หรือในห้องน้ำ ไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดเหล็ก รวมถึงบันไดไฮดรอลิกเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างอยู่ตามชั้นต่าง ๆ ของอาคาร โดยเฉพาะบริเวณชั้น 3-5 ที่ถูกไฟไหม้รุนแรงที่สุด เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพื่อไม่ให้ผู้รอดชีวิตเสียชีวิตจากควันพิษหรือไฟคลอก
ทางการอิรักแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ: ยืนยันยอดผู้เสียชีวิต และเริ่มการสอบสวนทันที
กระทรวงมหาดไทยของอิรัก ออกแถลงการณ์ในวันถัดมาว่า เหตุการณ์นี้นับเป็นหนึ่งในเหตุเพลิงไหม้ในอาคารพาณิชย์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบหลายปีของประเทศ โดย ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 61 ราย และยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง
เพื่อรับผิดชอบต่อความสูญเสียครั้งใหญ่ ทางการอิรักได้ประกาศตั้งคณะกรรมการสอบสวนเร่งด่วน พร้อมดำเนินคดีเบื้องต้นต่อ เจ้าของอาคาร และ เจ้าของห้างสรรพสินค้า โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดของข้อหาในขณะนี้ แต่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับมาตรฐานความปลอดภัยอาคารและระบบป้องกันเพลิงไหม้ที่อาจไม่ได้มาตรฐาน
ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศไว้อาลัยเป็นเวลา 3 วัน
นายโมฮัมเหม็ด อัล เมย์เยห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดที่เมืองคุตตั้งอยู่ ได้ประกาศไว้อาลัยอย่างเป็นทางการต่อผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้ เป็นระยะเวลา 3 วัน พร้อมระบุว่า เป็นความสูญเสียที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมให้คำมั่นว่า ทางจังหวัดจะให้ความร่วมมือเต็มที่กับหน่วยงานกลางในการสอบสวนหาสาเหตุอย่างโปร่งใส และนำตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด
ประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม: มาตรฐานความปลอดภัยของอาคารพาณิชย์ในอิรัก
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการตั้งคำถามต่อ มาตรฐานความปลอดภัยของอาคารพาณิชย์ในประเทศอิรัก โดยเฉพาะห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรืออาคารที่มีผู้คนจำนวนมากเข้าใช้บริการ หลายฝ่ายรวมถึงองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐบาลอิรักเข้มงวดต่อการตรวจสอบมาตรฐานอาคารก่อนอนุญาตให้เปิดให้บริการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเช่นนี้ซ้ำอีก
นอกจากนี้ยังมีการรายงานว่า ห้างดังกล่าว ไม่มีระบบฉีดน้ำอัตโนมัติ (sprinkler) ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ มีทางหนีไฟไม่เพียงพอ รวมถึง การจัดวางสินค้าในลักษณะที่ขวางทางเดินฉุกเฉิน ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เนื่องจากไม่สามารถอพยพออกมาได้ทันเวลา
ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านอัคคีภัย: “อาคารที่ใช้วัสดุไวไฟเสี่ยงเกิดโศกนาฏกรรม”
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากเพลิงไหม้ในตะวันออกกลางได้ให้ความเห็นผ่านสื่อว่า อาคารที่ใช้ วัสดุตกแต่งภายในที่เป็นพลาสติก ไฟเบอร์ และไม้สังเคราะห์ แม้จะช่วยลดต้นทุน แต่กลับเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้อย่างมหาศาล หากไม่มีระบบป้องกันที่เหมาะสม เช่น เซ็นเซอร์ควัน ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ หรือการฝึกซ้อมอพยพอย่างสม่ำเสมอ
ในกรณีของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ แม้จะเป็นอาคารใหม่ แต่หากไม่มีการออกแบบที่คำนึงถึงความปลอดภัยตั้งแต่ต้น หรือได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นโดยไม่มีการตรวจสอบจริงจัง ก็อาจกลายเป็น “กับดักเพลิง” ที่พรากชีวิตของผู้บริสุทธิ์อย่างที่เราได้เห็นในครั้งนี้
ปฏิกิริยาในโซเชียลมีเดียอิรัก: ประชาชนเรียกร้องความยุติธรรม
เหตุการณ์ไฟไหม้ห้างเปิดใหม่ในเมืองคุตกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดียของอิรัก โดยชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ระดับสูง ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
แฮชแท็กในภาษาอาหรับที่แปลว่า #ห้างไฟไหม้เมืองคุต ขึ้นเป็นอันดับ 1 บนทวิตเตอร์ในอิรักภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ โดยหลายคนโพสต์ภาพผู้สูญหาย รวมถึงคลิปขณะเกิดเหตุที่มีควันดำทะมึนพวยพุ่งจากอาคารสูงอย่างน่ากลัว
สรุปเหตุการณ์ไฟไหม้ห้างเมืองคุต: บทเรียนราคาแพงจากความประมาท?
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังเป็น บทเรียนราคาแพง ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ประกอบการในอิรักว่า ความปลอดภัยต้องมาก่อน ทุกครั้งในการก่อสร้างและเปิดใช้อาคารสาธารณะ
ขณะนี้ประชาชนชาวอิรักและทั่วโลกต่างเฝ้าติดตามผลการสอบสวนในกรณีนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่า รัฐบาลอิรักจะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษได้หรือไม่ และจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยในอนาคตอย่างไร

















