ขอให้รัฐเร่งพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ “ผู้ลี้ภัยในค่าย” ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ดิฉันขอหยิบยกประเด็นหนึ่งที่กำลังเกิดขึ้น และรู้สึกว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐและสังคมจะต้องหันมามองอย่างจริงจัง นั่นคือเรื่องของ “ผู้ลี้ภัยในค่ายพักพิงชั่วคราวตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา” ที่กำลังประสบปัญหาอย่างรุนแรงจากการขาดแคลนงบประมาณด้านอาหารและการดูแลรักษาพยาบาล หลังองค์กรช่วยเหลือระหว่างประเทศ เช่น The Border Consortium (TBC) และ International Rescue Committee (IRC) เตรียมยุติการสนับสนุนภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้
ท่านสุรพงษ์ กองจันทึก อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ให้ความเห็นไว้อย่างน่าคิดว่า หากไม่สามารถให้ผู้ลี้ภัยมีอาหารกินได้ ก็ควรเปิดโอกาสให้พวกเขาทำงาน เพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เพราะการไม่ให้อาหารมนุษย์กิน ก็ไม่ต่างจากการผลักเขาไปสู่จุดที่ต้องเลือกทางรอดเอง ซึ่งอาจหมายถึงการพังค่าย หลบหนี หรือเข้าสู่ระบบแรงงานผิดกฎหมาย
ต้องเรียนตรงๆ ว่า คนที่อยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยกว่า 80,000 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่กับประเทศไทยมานาน บางคนอยู่มาแล้วกว่า 40 ปี มีลูกมีหลานเติบโตในค่าย แต่กลับไม่มีสถานะทางกฎหมาย ไม่มีสิทธิทำงาน ไม่มีรายได้ ในขณะที่ค่าครองชีพและราคาอาหารในปัจจุบันก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านั้น หญิงตั้งครรภ์ในค่ายบางคน ได้รับเงินช่วยเหลือด้านอาหารเพียงเดือนละ 80 บาท ตกวันละแค่ 2 บาทกว่า ซึ่งแทบไม่พอแม้แต่ข้าวเปล่า 1 มื้อ
ดิฉันเข้าใจดีว่ารัฐมีภาระมากมาย แต่ในเมื่อเรามีคนที่อยู่ในประเทศเรามานาน และไม่สามารถกลับไปประเทศต้นทางได้แล้ว การหาทางออกอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การขึ้นทะเบียนให้สามารถอยู่อาศัยและทำงานในอาชีพที่ไม่สงวนไว้สำหรับคนไทย น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุดในระยะยาว และยังช่วยลดปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในอนาคตด้วย
ข้อเสนอที่น่าสนใจ คือ การจัดทำสถานะเฉพาะ เช่น "กลุ่มผู้พลัดถิ่นจากเมียนมา" และใช้มาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เปิดช่องให้สามารถอยู่ได้ชั่วคราว พร้อมมีสิทธิทำงานตาม พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว เป็นแนวทางที่เคยมีมาก่อน และสามารถนำกลับมาใช้ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้
สุดท้าย ดิฉันอยากฝากถึงผู้มีอำนาจว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของ “คนต่างด้าว” แต่เป็นเรื่องของ “มนุษย์” ที่กำลังอดอยากและหมดทางเลือก เราอาจไม่สามารถดูแลพวกเขาได้ทุกคน แต่การให้โอกาสเขายืนอยู่ได้ด้วยลำแข้งของตนเอง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่สังคมไทยทำได้และควรทำ
















