เสียสละเพื่อชาติ! พลทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด แม่ทัพภาค 2 สั่งเลื่อนยศ-ปูนบำเหน็จทันที
กล้าหาญยิ่งกว่าชีวิต! แม่ทัพภาค 2 ปูนบำเหน็จพลทหารวัย 21 เหยียบกับระเบิดเท้าขาดกลางป่า พร้อมดูแลสิทธิ-บรรจุทายาทแทนในอัตรานายสิบ
จากเหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 บริเวณ เนิน 481 ช่องบก พื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งยังคงมี ระเบิดตกค้างจากการสู้รบในอดีต ทำให้ทหารไทย 3 นาย ได้รับบาดเจ็บขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อความมั่นคงของชาติ โดย 1 ในนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงขั้น ข้อเท้าซ้ายขาด จากการเหยียบกับระเบิดที่ยังไม่ระเบิด
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้สังคมไทยหันกลับมาระลึกถึง “ภารกิจลาดตระเวนเพื่อความปลอดภัยของประเทศ” เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของกำลังพลแนวหน้า ที่เผชิญหน้ากับความเสี่ยงทุกวัน เพื่อให้พวกเราทุกคนได้อยู่อย่างปลอดภัย
📍 เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร? — ลาดตระเวนเนิน 481 เจอกับระเบิดตกค้าง
ในช่วงบ่ายของวันที่ 16 กรกฎาคม 2568 หน่วยลาดตระเวนจากกองกำลังในสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ได้ปฏิบัติภารกิจตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดน บริเวณ เนิน 481 ช่องบก ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าทึบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อดีตเคยเป็นเขตสู้รบและยังมีระเบิดกับดักหรือระเบิดแสวงเครื่องตกค้างอยู่จำนวนมาก
ระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เมื่อ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน อายุ 21 ปี ได้เหยียบลงบนกับระเบิดที่ฝังอยู่ใต้ดินอย่างแนบเนียน ทำให้เกิดแรงระเบิดมหาศาล ส่งผลให้ “ข้อเท้าซ้ายขาด” ทันที ท่ามกลางเสียงระเบิดและควันคลุ้งในป่า อีก 2 นายที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้รับแรงอัดกระแทก จนมีอาการ “แน่นหน้าอก” และบาดเจ็บเล็กน้อย
🏥 ส่งตัวรักษาด่วน – ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ รับหน้าที่ดูแลใกล้ชิด
หลังเกิดเหตุ หน่วยฉุกเฉินของกองทัพได้รีบนำตัวทหารทั้ง 3 นายส่งโรงพยาบาลภายในค่ายทหาร คือ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน
โดย พลทหารธนพัฒน์ ถูกนำเข้าผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บจากแรงระเบิด ซึ่งแพทย์สามารถรักษาชีวิตเขาไว้ได้อย่างปลอดภัย แม้ต้องสูญเสียเท้าซ้ายไปตลอดชีวิต ขณะที่อีก 2 นายได้รับการดูแลเบื้องต้นและอาการปลอดภัยแล้ว
👨✈️ แม่ทัพภาค 2 เดินทางให้กำลังใจด้วยตนเอง – พร้อมปูนบำเหน็จทันที
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลทั้ง 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ระเบิด โดยเฉพาะ “พลทหารธนพัฒน์” ซึ่งถือเป็นผู้ที่บาดเจ็บสาหัสที่สุดจากการ “เสียสละในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ”
แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่ง “ปูนบำเหน็จเลื่อนยศ” ให้แก่ พลทหารธนพัฒน์ จาก พลทหาร (พลฯ) เป็น สิบเอก (ส.อ.) เพื่อยกย่องเกียรติและแสดงความขอบคุณต่อความกล้าหาญของเขา พร้อมกับประกาศให้ได้รับสิทธิ์และสวัสดิการแบบเต็มที่ ตามระเบียบของกองทัพบก
💰 สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ – ทั้งเงินเดือน บำเหน็จ บัตรทหารผ่านศึก และสิทธิ์บรรจุทายาท
นอกจากการเลื่อนยศแล้ว พลทหารธนพัฒน์ ยังจะได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ จากหลายหน่วยงาน ดังนี้:
✅ รายได้ประจำ:
บำนาญเดือนละ 15,600 บาท (กรณีปลดประจำการเนื่องจากพิการจากการรบ)
เมื่อรวมรายได้และเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐอื่น ๆ จะมีรายได้ประมาณ 29,800 บาทต่อเดือน
✅ เงินก้อน:
ได้รับเงินก้อนรวมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 1,047,150 บาท (เช่น จากกองทัพ, กรมทหารผ่านศึก, สำนักงานสวัสดิการกำลังพล ฯลฯ)
✅ บัตรทหารผ่านศึก:
ได้รับ บัตรทหารผ่านศึกชั้น 3 สิทธิพิเศษ เช่น:
ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ
ลดค่าโดยสารรถไฟ รถทัวร์ รถประจำทาง
สิทธิในการรักษาฟรีที่โรงพยาบาลของรัฐ
✅ เหรียญกล้าหาญ:
ได้รับ เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้น 2 ประเภท 1 เป็นเครื่องหมายเชิดชูเกียรติในการปฏิบัติหน้าที่แนวหน้า
✅ บรรจุทายาททดแทน:
พี่สาวของพลทหารธนพัฒน์ ได้รับการบรรจุเข้าเป็นข้าราชการในอัตรา นายสิบ เพื่อเป็นการตอบแทนและสร้างความมั่นคงในครอบครัว
✅ โครงการฟื้นฟูชีวิต:
เมื่อออกจากราชการด้วยเหตุพิการ สามารถยื่นเข้าร่วมโครงการฟื้นฟูอาชีพ หรือโครงการตามมาตรา 35 (3) และ 35 (7) ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
💬 เสียงสะท้อนจากสังคม – ทหารแนวหน้าคือ “วีรบุรุษตัวจริง”
หลังข่าวเผยแพร่ออกไป ประชาชนจำนวนมากได้แสดงความชื่นชมและให้กำลังใจผ่านสื่อออนไลน์ โดยยกย่อง พลทหารธนพัฒน์ ว่าเป็น “ตัวแทนของความกล้าหาญ” ที่ยืนหยัดต่อหน้าภัยอันตรายเพื่อประเทศชาติ
“เขาอาจเสียเท้าไป แต่ได้เกียรติและศักดิ์ศรีของทหารเต็มเปี่ยม”
“ขอให้หายเร็ว ๆ และมีชีวิตใหม่ที่เข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม”
“แม่ทัพภาค 2 ทำดีมากที่รีบลงพื้นที่และให้กำลังใจทันที”
✍️ สรุป
แม้จะต้องแลกด้วยการสูญเสียเท้าซ้าย แต่ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน กลับได้รับสิ่งตอบแทนที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือ เกียรติยศ ศักดิ์ศรี และการยอมรับจากกองทัพและประชาชน
กองทัพบก โดยแม่ทัพภาคที่ 2 ได้แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสวัสดิภาพของกำลังพล ไม่เพียงแค่การรักษา แต่ยังรวมถึงการดูแลครอบครัวอย่างครบวงจร
วีรกรรมของพลทหารธนพัฒน์จะไม่ถูกลืม เพราะเขาคือ “ผู้เสียสละแนวหน้า” ที่ยืนยันว่า “คนไทยยังมีผู้กล้าที่พร้อมยืนหยัดเพื่อชาติ”















