AI ทำพิษ ภาพสุนัขนำไปสู่การระงับบัญชี Instagram และความเสียหายทางธุรกิจเกือบ 1 ล้าน
เมื่อเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าขึ้นเรื่อย ๆ การใช้งาน AI ในการคัดกรองเนื้อหาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็เป็นเรื่องปกติ อย่างไรก็ตาม กรณีศึกษาล่าสุดจากประเทศออสเตรเลียได้เผยให้เห็นถึง ข้อจำกัดและความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจาก AI ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจและชื่อเสียงของบุคคล
โรเชลล์ มารินาโต้ ผู้ประกอบการหญิงชาวออสเตรเลีย ได้เผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เมื่อบัญชี Instagram ส่วนตัวของเธอถูกระงับ หลังจากที่เธอโพสต์คลิปวิดีโอสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก 3 ตัวกำลังพิงขอบหน้าต่าง ซึ่งเป็นภาพที่ดูอบอุ่นและไม่เป็นพิษเป็นภัยใด ๆ แต่ AI ของ Meta บริษัทแม่ของ Instagram กลับตีความเนื้อหานี้ผิดพลาดอย่างมหันต์ โดยระบุว่าวิดีโอดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็ก การทารุณกรรม หรือภาพเปลือย ซึ่งเป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ชุมชนอย่างร้ายแรง
มารินาโต้รู้สึกประหลาดใจและงงงันกับข้อกล่าวหาที่ไร้สาระนี้ เธอพยายามติดต่อ Meta เพื่อขอชี้แจงและยื่นอุทธรณ์หลายครั้ง แต่กลับไม่ได้รับการตอบกลับใด ๆ ในตอนแรก เธอคิดว่านี่เป็นเพียงความผิดพลาดชั่วคราวที่ระบบจะแก้ไขได้เองในไม่กี่วัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับบานปลายและสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจของเธอ
สำหรับธุรกิจขนาดเล็กอย่างของมารินาโต้ การมีตัวตนบนโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ช่องทางโซเชียลมีเดียถูกใช้เป็นเครื่องมือหลักในการโฆษณาและเข้าถึงลูกค้า เมื่อบัญชี Instagram ของเธอถูกระงับ เท่ากับว่าเธอ สูญเสียช่องทางการโฆษณาทั้งหมด และไม่สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าเดิมได้ ส่งผลให้ รายได้ของบริษัทลดลงถึง 75% ในช่วงที่บัญชีถูกระงับ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เธอประเมินว่าความเสียหายทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 50,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ประมาณ 950,000 บาท)
นอกจากผลกระทบทางการเงินแล้ว การที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากเด็กยัง สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ทางธุรกิจ ของเธออย่างร้ายแรง แม้ว่าสุดท้ายแล้วบัญชีของเธอจะได้รับการกู้คืนหลังจากผ่านไปสามสัปดาห์ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งในแง่ของรายได้และชื่อเสียงก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
กรณีของมารินาโต้ตอกย้ำถึง ความท้าทายที่มาพร้อมกับการพึ่งพา AI อย่างเต็มที่ ในการตรวจสอบเนื้อหาบนแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ แม้ว่า AI จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลและช่วยคัดกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมี ข้อจำกัดในการตีความบริบทและแยกแยะความแตกต่าง ระหว่างเนื้อหาที่บริสุทธิ์กับเนื้อหาที่เป็นอันตรายอย่างแท้จริง
Meta ได้ออกแถลงการณ์ว่า "เราดำเนินการกับบัญชีที่ละเมิดนโยบายของเรา และหากผู้ใช้เชื่อว่าเราทำผิดพลาด พวกเขาสามารถยื่นอุทธรณ์ได้" ซึ่งแสดงให้เห็นว่ากระบวนการอุทธรณ์เป็นช่องทางเดียวที่ผู้ใช้สามารถแก้ไขความผิดพลาดของ AI ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ชี้ให้เห็นว่า กระบวนการอุทธรณ์อาจใช้เวลานานและขาดประสิทธิภาพ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ
เรื่องราวของมารินาโต้จึงเป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการ พัฒนาระบบ AI ที่มีความซับซ้อนและแม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงการสร้าง กระบวนการอุทธรณ์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์จากการตัดสินใจที่ผิดพลาดของ AI และปกป้องสิทธิของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มออนไลน์





