UN ชี้ "อาชญากรผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ผสมยาเสพติดในเอเชีย"
ในปี 2024 หญิงคนหนึ่ง พยายามจับกุมลูกชายวัย 19 ปีของเธอ ฐานติดบุหรี่ไฟฟ้าผสมยาเสพติด โดยเฉพาะรุ่น Kpods
วัยรุ่นที่เคยกระตือรือร้นคนนี้ เริ่มเก็บตัวมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2023 เมื่อเขาเริ่มสูบ Kpods ซึ่งเป็นบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสม "เอโทมิเดต" ซึ่งเป็นยาชาที่มีฤทธิ์รุนแรง
โดยหญิงคนดังกล่าว มีชื่อว่า "ซูซาน" กล่าวว่า "เราเห็นวิดีโอมากมายใน TikTok ที่ผู้คนพูดว่า Kpods สามารถทำให้คนคิดฆ่าตัวตายได้ ดังนั้นเราจึงพยายามหยุดเขา" และ "ผัวของฉันตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิดที่บ้าน แล้วกล้องก็ถ่ายติดตอนที่ลูกของเรา เดินโซเซออกมาจากห้องในวิดีโอ เขาเดินลำบากมาก..." และ "เช้าวันถัดมาฉันคุยกับเขาว่าเกิดอะไรขึ้น? ซึ่งเขาบอกว่าขาได้รับบาดเจ็บขณะกำลังเชิดสิงโต ฉันจึงไม่ได้สงสัยอะไรมาก..." และ "หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็เห็นคลิปของเขาผ่านกล้อง เราพบว่าเขาเปลี่ยนบ็อกเซอร์ ประมาณ 5 ถึง 10 ตัวตลอดทั้งคืน"
"ซูซาน" สงสัยว่าลูกชายของเธฮ สูญเสียความสามารถในการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ ทุกครั้งที่เขาเสพยาเอโทมิเดต" ซึ่งรายงานต่างๆ ระบุว่าอาจทำให้มือสั่น ทรงตัวไม่มั่นคง เฉื่อยชา และ เกิดอาการสับสนทางจิตได้ ซึ่งหลังจากนั้นเธอก็ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ และ บอกพวกเขาว่า "ลูกชายของฉันใช้ Kpods"
ในปัจจุบัน ผู้ที่พบว่ามีความผิดฐานบริโภคยาควบคุม อาจถูกจำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับสูงสุด 20,000 เหรียญหรือทั้งจำทั้งปรับ
"ซูซาน" ถูกแจ้งว่า "อีโทมิเดต" ไม่ใช่ยาควบคุมประเภท A อย่างมากลูกชายของเธอ จะถูกปรับฐานใช้บุหรี่ไฟฟ้า
ในสิงคโปร์ "เอโทมิเดต" อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติสารพิษ การนำเข้าหรือจำหน่ายจำเป็นต้องมีใบอนุญาต โดยผู้ที่ถูกพบว่าครอบครอง หรือ ใช้ฝักที่บรรจุเอโทมิเดต อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์ หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าบุหรี่ไฟฟ้า ที่ขายในเอเชียมักมีส่วนผสมของ ยาเสพติดสังเคราะห์อย่างเอโทมิเดตมากขึ้นเรื่อยๆ และ ต้นทางของแหล่งที่มาของน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมเอโทมิเดตนั้น มาจากประเทศมาเลเซีย
ในมาเลเซีย ซึ่งอนุญาตให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าได้ในบางรัฐ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย กล่าวว่า "น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่ยึดได้ในปี 2022 และ 2023 ร้อยละ 65.6% มีสารเสพติดอันตรายผสมอยู่"
พอตบุหรี่ไฟฟ้าที่ผสมกับเอโทมิเดต หรือ Kpods ได้รับความนิยมในสิงคโปร์เมื่อเดือนมีนาคม 2023 เมื่อสำนักงานวิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้ออกมากล่าวว่า "เราตรวจพบบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีเคตามีน 1 กรณี และ บุหรี่ไฟฟ้าที่มีเอโทมิเดต อีก 3 กรณี" และ "เราได้เข้าตรวจค้นโรงงานอุตสาหกรรม และ ยึดบุหรี่ไฟฟ้าได้มากกว่า 8,700 ชิ้น พร้อมส่วนประกอบต่างๆ มูลค่าประมาณ 137,000 ดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์ที่ผสมเอโทมิเดตด้วย"
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สิงคโปร์ได้รับข้อบ่งชี้ครั้งแรกว่า "กลุ่มวัยรุ่นสิงคโปร์ใช้ Kpods หลังจากพบว่าเด็กหญิงวัย 13 ปี มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม นอกศาลของรัฐขณะสูบบุหรี่ไฟฟ้า" และ "จากการบุกค้นบ้านของเธอในเวลาต่อมาพบว่า เธอมีอุปกรณ์ผสมเอโทมิเดตอยู่ในครอบครอง" นับตั้งแต่นั้นมา มีวิดีโอออนไลน์ของคนหนุ่มสาว ที่มีพฤติกรรมผิดปกติ ซึ่งคาดว่าเกิดจากการใช้งาน Kpods
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 สำนักงานวิทยาศาสตร์สุขภาพ ตรวจพบผู้ป่วย 28 รายที่เกี่ยวข้องกับ Kpods เพิ่มขึ้นจาก 10 ราย ที่บันทึกไว้ในปี 2024
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม ของสหประชาชาติ ได้ออกมากล่าวเดือนที่แล้วว่า "ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในสิงคโปร์ในชื่อ Kpods มีส่วนผสมของเอโทมิเดตหรือเคตามีน ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท A" และ "ตอนนี้วิกฤตการณ์ที่โคตรอันตราย กำลังใกล้เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกแล้ว เนื่องจากกลุ่มค้ายาเสพติดและกลุ่มอาชญากร ได้รวมตัวกันได้ผสมยาเสพติดสังเคราะห์ แล้วนำยาเสพติดเหล่านั้นมาใส่ในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า" และ "กลุ่มเหล่านี้กำลังใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนสูตรยาสังเคราะห์ หรือ สารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง..."
สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม ของสหประชาชาติ กล่าวอีกว่า "อีโทมิเดตปรากฏขึ้นครั้งแรกในประเทศจีน หลังจาก "แคนนาบินอยด์สังเคราะห์" ถูกกำหนดให้เป็นยาควบคุมในประเทศจีน"
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้รายงานว่ามีการใช้ผลิตภัณฑ์ยาอย่างผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้จำหน่ายยาพยายาม หาสารทดแทนยาที่เป็นกระแสหลัก [เมทแอมเฟตามีน และ เฮโรอีน] บางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการควบคุมยาเสพติด"
มีการระบุว่าพบว่า "มีการเติมเอโทมิเดต ซึ่งเป็นสารทำให้นอนหลับ ลงในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อใช้กับผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า"
อาการจากการใช้ยาเอโทมิเดตมากเกินไปนั้น มีอาการคล้ายมึนเมา มือสั่น มึนงง วิตกกังวล ตื่นตระหนก เฉื่อยชา และ สับสนทางจิต นอกจากนี้การใช้ยาเอโทมิเดตยังเกี่ยวข้องกับ อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสาธารณะอีกด้วย
"อินชิก ซิม" นักวิเคราะห์นำประจำ สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรม ของสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก กล่าวว่า "การใช้ยาเสพติดในภูมิภาคนี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ในช่วงโควิด เมื่อการระบาดใหญ่ทำให้ เส้นทางการค้าหยุดชะงัก และ ห่วงโซ่อุปทานของกลุ่มอาชญากรหยุดชะงัก" และ "ในขณะที่กลุ่มค้ายาเสพติด พยายามอย่างหนักที่จะขนส่งเมทแอมเฟตามีน จากเมียนมาร์เข้าสู่จีน กลุ่มค้ายาเสพติดก็หันไปใช้สารเคมี ที่ใช้ในทางการแพทย์แทน"
"อินชิก ซิม" กล่าวอีกว่า "ในช่วงแรก ยาจะถูกผสมลงในบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีรูปร่างและขนาดเหมือนบุหรี่ทั่วไป และ ต่อมามีการผสมลงในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า" และ "จากการแพร่การจาย มีความเป็นไปได้สูงที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จะได้รับความนิยมมากขึ้นในภูมิภาคนี้ เช่นเดียวกับเคตามีน ซึ่งไม่ได้เริ่มต้นเป็นยาเสพติดหลัก ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่กลับได้รับความนิยมมากขึ้น"
"อินชิก ซิม" กล่าวเสริมว่า "นอกจากเอโทมิเดตแล้ว ประเทศต่างๆ ยังรายงานการตรวจพบ เคตามีน และ เมทแอมเฟตามีน ด้วย!!" และ "ที่น่าสังเกตคือ ประเทศไทยได้รายงานการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ที่มีส่วนผสมของเคตามีน โดยบางครั้งอาจผสมกับเมทแอมเฟตามีนหรือเอโทมิเดต ใน Kpods ด้วย!!"












