เครื่องบินรบพม่าทิ้งระเบิดลงวัด กลางซากายิง คร่าชีวิตพลเรือนอย่างน้อย 23 ราย
พม่า (เมียนมา) กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกอีกครั้ง หลังเกิดเหตุสะเทือนใจ เครื่องบินรบของกองทัพพม่า โจมตีวัดพุทธในเขตซากายิง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 ราย ในจำนวนนี้เป็น เด็กอย่างน้อย 4 คนและยังมีผู้บาดเจ็บอีกหลายสิบคน
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ ช่วงกลางดึกของวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ในหมู่บ้าน ลินทาลู (Lin Ta Lu) ซึ่งตั้งอยู่ในเขตซากายิง ทางภาคกลางของประเทศพม่า โดยวัดแห่งนี้ถูกใช้เป็น ที่หลบภัยของพลเรือนกว่า 150 คน ที่หนีสงครามและความรุนแรงในพื้นที่
รายงานจากหลายสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น AP และ ABC Australia ระบุว่า การโจมตีครั้งนี้ สร้างความเสียหายรุนแรง อาคารวัดบางส่วนพังถล่มเป็นซาก บรรยากาศหลังเหตุระเบิดเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง คราบเลือด และเสียงร้องไห้ของผู้รอดชีวิต
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกคนที่อยู่ในวัดเป็นพลเรือน ไม่มีอาวุธ ไม่มีทหารอยู่ที่นั่นเลย” และส่วนมากเป็นผู้สูงอายุ เด็ก และผู้หญิง
เขตซากายิง ถือเป็นฐานที่มั่นของกองกำลัง PDF (People’s Defence Force) ซึ่งต่อต้านกองทัพพม่า หลังจากการรัฐประหารเมื่อปี 2564 กองทัพพม่ายังคงพยายามกวาดล้างกลุ่มต่อต้านเหล่านี้อย่างหนัก ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดชนวนในการโจมตี
กองทัพพม่ายัง ไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เกี่ยวกับเหตุโจมตีครั้งนี้ แต่ก่อนหน้านี้ก็มักอ้างว่า การโจมตีทางอากาศเป็นเป้าหมายเพื่อทำลายฐานของ “ผู้ก่อการร้าย” ซึ่งต่างจากข้อเท็จจริงในครั้งนี้ที่ผู้เสียชีวิตเป็นพลเรือนแทบทั้งหมด
เหตุโจมตีครั้งนี้ทำให้หลายประเทศออกมา ประณามกองทัพพม่าอย่างรุนแรง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ออกแถลงการณ์เรียกว่าเป็น “อาชญากรรมที่เลวร้ายต่อมนุษยชาติ” โดยเฉพาะการโจมตีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเป็นเขตปลอดภัย
องค์กรสิทธิมนุษยชน เช่น Amnesty International และ Human Rights Watch ต่างออกมาเรียกร้องให้ หยุดการโจมตีพลเรือนทันที และให้มีการสืบสวนความจริง
แม้สงครามกลางเมืองในเมียนมาจะดำเนินมาเกือบ 4 ปีเต็ม แต่เหตุการณ์ล่าสุดยิ่งตอกย้ำว่า กองทัพพม่าพร้อมใช้ความรุนแรงกับทุกเป้าหมาย แม้กระทั่งวัดซึ่งควรเป็นที่หลบภัย
คนในพื้นที่บอกตรงกันว่า “เราไม่มีที่ให้หนีอีกแล้ว แม้แต่ในวัดก็ไม่ปลอดภัย” ความหวาดกลัวจึงเพิ่มขึ้นทวีคูณ และคาดว่าจำนวนผู้ลี้ภัยในเขตชายแดนไทย-พม่าจะเพิ่มขึ้นอีก












