ช็อก! สหรัฐฯ สั่งปลด จนท.กระทรวงการต่างประเทศ เกิน 1,300 ชีวิต –โยงนโยบายทรัมป์
ช็อก! สหรัฐฯ สั่งปลด จนท.กระทรวงการต่างประเทศ เกิน 1,300 ชีวิต –โยงนโยบายทรัมป์
เกิดกระแสฮือฮาเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2025 หลังสื่อใหญ่ในสหรัฐฯ รายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ (U.S. State Department) สั่งเลิกจ้างเจ้าหน้าที่มากกว่า 1,300 คน จนหลายคนต้องเก็บข้าวของออกจากสำนักงานแทบไม่ทัน!
ตัวเลขที่ออกมาระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่ถูกเลิกจ้างประกอบด้วย ข้าราชการพลเรือนกว่า 1,100 คน และ เจ้าหน้าที่ทูต (Foreign Service) อีกประมาณ 200 กว่าคน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการปลดคนครั้งใหญ่ที่สุดในหน่วยงานด้านการทูตของสหรัฐฯ ในรอบหลายปี
แม้รัฐบาลปัจจุบันยังไม่ได้แถลงรายละเอียดชัด ๆ แต่สื่ออย่าง Reuters, AP และ Politico เผยว่า การปลดครั้งนี้ โยงกับแนวทางของทรัมป์ ที่ต้องการลดขนาดรัฐบาล ตัดงบประมาณ และโละงานที่ถูกมองว่า “ซ้ำซ้อน” หรือไม่จำเป็น
ทรัมป์เคยผลักดันนโยบาย “America First” มาตั้งแต่ปี 2017 ที่มองว่าหน่วยงานรัฐบางส่วนเทอะทะ ใช้งบเยอะเกินจำเป็น จนหลายหน่วยงานต้องเข้าสู่กระบวนการ “ตรวจสอบภายใน” อย่างเข้มข้น — และนั่นคือสิ่งที่สะเทือนกระทรวงการต่างประเทศในรอบนี้
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า การเลิกจ้างเจ้าหน้าที่จำนวนมาก อาจกระทบงานทูตสำคัญ เพราะหลายตำแหน่งต้องใช้ความรู้เชิงลึก เช่น การเจรจาด้านสิทธิมนุษยชน การจัดการผู้อพยพ-ผู้ลี้ภัย ภารกิจในภูมิภาคที่มีความขัดแย้ง
แม้ตอนนี้การเลิกจ้าง ยังไม่กระทบเจ้าหน้าที่ที่ประจำในสถานทูตต่างประเทศโดยตรง แต่หลายฝ่ายกังวลว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ส่วนกลางหายไปเยอะ งานซัพพอร์ตที่จำเป็นสำหรับสถานทูตต่างประเทศอาจติดขัดตามไปด้วย
เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า แม้จะเปลี่ยนรัฐบาล แต่แนวคิดลดขนาดหน่วยงานรัฐแบบทรัมป์ ยังสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อเนื่อง และอาจกำหนดอนาคตของงานการทูตสหรัฐฯ ในระยะยาว
หลายฝ่ายยังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า จะมีการเลิกจ้างรอบใหม่อีกหรือไม่ เพราะหากเป็นจริง อาจส่งผลกระทบต่อบทบาทของสหรัฐฯ บนเวทีโลกอย่างเลี่ยงไม่ได้













