อุทกภัยรุนแรงถล่มพรมแดนจีน–เนปาล เสียชีวิต 8 สูญหาย 31 สะพานชายแดนถูกน้ำพัดขาด
🇨🇳 จีน – 🇳🇵 เนปาล : เกิดเหตุอุทกภัยและโคลนถล่มร้ายแรงบริเวณพรมแดนจีน–เนปาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และสูญหายอีก 31 ราย หลังฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ทำให้แม่น้ำโภเทโกชีที่ไหลผ่านแนวพรมแดนเอ่อล้นตลิ่ง พัดสะพานชายแดนจีน–เนปาลขาดหายไปในกระแสน้ำเชี่ยว
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ของวันที่ 8 กรกฎาคม บริเวณท่าเรือจีหลง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดผ่านแดนสำคัญระหว่างสองประเทศ ได้เกิดโคลนถล่มลงมาทับพื้นที่โดยรอบ รวมถึงบริเวณที่มีรถจอดอยู่จำนวนมากกว่า 200 คัน ทำให้รถหลายสิบคันถูกกระแสน้ำพัดหายไปพร้อมสิ่งปลูกสร้างบางส่วน
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากทั้งสองประเทศได้เร่งระดมกำลังค้นหาผู้สูญหายท่ามกลางสภาพอากาศที่ยังคงมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติและสิ่งแวดล้อมออกมาเตือนว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นสัญญาณชัดเจนของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักกะทันหันและรุนแรงมากขึ้นในภูมิภาคเทือกเขาหิมาลัย
ทั้งนี้ พื้นที่ชายแดนระหว่างจีนและเนปาลถือเป็นเขตภูเขาที่เปราะบางต่อดินถล่มและน้ำหลาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุมที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนของทุกปี ขณะนี้มีการประกาศเตือนภัยระดับสูงในหลายพื้นที่ และประชาชนในเขตเสี่ยงภัยได้รับการอพยพออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำแล้วบางส่วน
ทางการจีนและเนปาลยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะหวาดวิตกและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน.






















