ฮุน เซน กล่าวพาดพิงไทยกรณี "ก๊ก อาน" พร้อมท้าทายให้สอบสวน “ทักษิณ” ด้วย
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านทางโซเชียลมีเดียภายหลังจากที่ทางการไทยมีการเข้าตรวจค้นเครือข่ายของนายก๊ก อาน ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวกัมพูชาและบุคคลใกล้ชิดกับท่านฮุน เซน โดยการเข้าปฏิบัติการของไทยครั้งนี้ครอบคลุมหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ ชลบุรี และสมุทรปราการ
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในถ้อยแถลงของท่านฮุน เซน ได้กล่าวเป็นนัยถึงความเชื่อมโยงระหว่างความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายก๊ก อาน กับตัวท่านเอง และได้โยงไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างนายทักษิณ ชินวัตร กับตนเอง โดยใช้ถ้อยคำที่ว่า "ถ้าศาลไทยจะสอบสวนก๊ก อาน เพียงเพราะเขาสนิทกับผม ก็ขอให้กล้าสอบสวนนายทักษิณด้วย เพราะทักษิณก็สนิทกับผมไม่แพ้กัน ถึงขนาดมีห้องพักอยู่ในบ้านผม"
คำกล่าวเช่นนี้ย่อมเป็นที่จับตามอง ไม่เพียงแต่ในเชิงการเมืองระหว่างประเทศ แต่ยังอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสำคัญในภูมิภาค และสะท้อนถึงภาพลักษณ์การเมืองของทั้งสองประเทศในสายตาสังคมโลก
ในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่ง ดิฉันมองว่า เรื่องนี้ควรพิจารณาด้วยความสุขุมรอบคอบ
1. ประเด็นหลักอยู่ที่ตัวกฎหมาย ไม่ใช่ความสัมพันธ์ส่วนตัว
การดำเนินคดีหรือสอบสวนควรยึดตามพยานหลักฐานที่ชัดเจน มิใช่ดำเนินการเพียงเพราะความใกล้ชิดกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะใกล้ชิดกับนักการเมือง หรือกับผู้นำต่างชาติ หากไม่มีหลักฐานที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย การนำความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเป็นเหตุผลในการสอบสวน อาจสร้างบรรทัดฐานที่ไม่เหมาะสมในกระบวนการยุติธรรม
2. ไทยควรยืนบนหลักอธิปไตยและกฎหมายของตนเอง
แม้จะมีแรงกดดันจากต่างประเทศหรือบุคคลสำคัญระดับภูมิภาค ไทยก็ควรดำเนินการทุกอย่างบนหลักของกฎหมายบ้านเมืองตนอย่างเที่ยงตรง ไม่ตกอยู่ภายใต้การชี้นำหรือท้าทายทางการเมือง
3. การสื่อสารผ่านโซเชียลของผู้นำต่างประเทศ ควรอ่านอย่างมีวิจารณญาณ
ท่านฮุน เซนมีประวัติการใช้โซเชียลมีเดียในการสื่อสารความคิดเห็นส่วนตัวอย่างเปิดเผยมาโดยตลอด ซึ่งบางครั้งอาจมีเจตนาในเชิงการเมืองภายในประเทศของท่านมากกว่าการส่งสารถึงไทยโดยตรง
สุดท้าย ดิฉันไม่ขอชี้ว่าใครถูกหรือผิด แต่หวังว่าประชาชนไทยทุกท่านจะติดตามข่าวสารเช่นนี้อย่างมีสติ และไม่หลงไปกับวาทกรรมทางการเมืองที่อาจมีเป้าหมายแฝง ไม่ว่าจะมาจากประเทศใดก็ตาม





















