เดือด! กัน จอมพลัง ฟาดกลับคนแขวะช่วยชายแดน ลั่นแรง “ไม่ช่วยก็หุบปาก!”
ส่องโพสต์เดือด ‘กัน จอมพลัง’ ซัดกลับคนวิจารณ์ช่วยทหาร-ตชด. ลั่น “ไม่เคยเห็นความลำบาก อย่าริปากดี!” – เปิดเบื้องหลังชีวิตชายแดนที่หลายคนไม่เคยรู้
กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ เมื่อ “กัน จอมพลัง” หรือชื่อจริง นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพจิตร ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตอกกลับกลุ่มคนที่วิจารณ์การเข้าไปช่วยเหลือทหารและตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) โดยกล่าวหาว่า การช่วยเหลือดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่ “สุขสบายจนเคยตัว”
แต่กัน จอมพลัง ไม่ปล่อยผ่าน เขาตอบกลับด้วยถ้อยคำดุเดือด พร้อมเล่าความจริงจากประสบการณ์ตรงที่เขาได้ลงพื้นที่ชายแดนมาแล้วหลายจุด โดยระบุว่า สิ่งที่คนทั่วไปเห็นกับสิ่งที่เจ้าหน้าที่ชายแดนต้องเผชิญจริงนั้น “ราวกับอยู่คนละโลก”
ดราม่าเริ่ม! โดนกล่าวหา “ทำให้ทหารเคยตัว”
กัน จอมพลัง เล่าผ่านโพสต์ว่า เขาได้รับคำวิจารณ์จากบางคนว่า การที่เขานำสิ่งของ เครื่องใช้ อาหาร ยา เวชภัณฑ์ รวมถึงซ่อมแซมบ้านพักและห้องน้ำให้กับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนนั้น กำลังทำให้ทหารและตำรวจตระเวนชายแดน “เคยตัว” และไม่ฝึกความอดทนอย่างที่ควรเป็น
เขาตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า คนที่พูดแบบนั้น ไม่เคยสัมผัสชีวิตจริงของเจ้าหน้าที่ชายแดนเลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เจ้าหน้าที่เหล่านี้เผชิญอยู่ทุกวัน ไม่ได้หรูหรา ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างที่หลายคนเข้าใจ
“ที่นี่น้ำไม่มี ไฟไม่มี เดินแบกน้ำแบกของกิน 2 กิโลขึ้นลงทางชันเละลื่น บางคนนอนเสื่อ บางคนนอนเปล นอนห้อยเบียดกันในห้องแคบ ๆ ห้องน้ำมีห้องเดียวใช้ร่วมกัน 10-20 คน ต้องใช้สังกะสีมือสองกับผ้าใบ ห้องน้ำราดไม่ค่อยลง จะเข้าต้องถือกระป๋องตักน้ำไปด้วย”
ภาพที่หลายคนไม่เคยเห็น: ความลำบากของชีวิตแนวชายแดน
กัน จอมพลังเปิดเผยว่า จากที่เขาได้ลงพื้นที่หลายฐานปฏิบัติการชายแดน ทั้งฝั่งเหนือ ฝั่งใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขาเห็นกับตาว่า เจ้าหน้าที่ชายแดนจำนวนมากอยู่กันอย่างยากลำบาก
บางจุดไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องจุดตะเกียงหรือใช้โซลาร์เซลล์ที่ใช้งานไม่ได้เต็มที่
บางฐานไม่มีน้ำประปา ต้องเดินเท้าไกลหลายกิโลเพื่อหาน้ำมาใช้
ที่พักอาศัยเก่า ผุพัง ไม่กันฝน ไม่กันลม
ห้องน้ำมีจำกัด สกปรก และไม่มีระบบระบายน้ำ
ถนนเข้าฐานหลายแห่งพังมาแล้วนับ 10 ปี รถเข้าไม่ได้ ต้องเดินเท้าเท่านั้น
รองเท้าขาด อุปกรณ์หมดอายุ ไม่มีชุดเกราะที่ปลอดภัย
และบางครั้งยังต้องทำงานในพื้นที่เสียงปะทะ มีความเสี่ยงจากกลุ่มขบวนการผิดกฎหมาย
“คุณไม่เคยมาหรอก คุณนอนเปิดแอร์เย็น ๆ บนเตียงนุ่ม แล้วมาพูดว่าผมทำให้ทหารเคยตัว คุณไม่ละอายใจบ้างเหรอ?”
กัน จอมพลัง: ไม่ใช่แค่ช่วย แต่ลงมือทำจริง!
หลายฐานทัพต้องการความช่วยเหลือโดยด่วน แต่ติดขั้นตอนราชการที่ยุ่งยาก การรอการสนับสนุนจากส่วนกลางอาจใช้เวลานานไม่แน่นอน จึงมีการประสานมายัง “กัน จอมพลัง” เพื่อขอความช่วยเหลือโดยตรง เพราะเขาเป็นคนที่ “ทำจริง” เห็นผลจริง และรวดเร็ว
“บางฐานพังมา 5 ปี 10 ปี ไม่มีใครซ่อมให้ ทหารก็ต้องอยู่ให้ได้ทุกวัน ทั้งที่โครงสร้างมันเสียหายแล้ว และพวกเขาก็ยังขอความช่วยเหลือจากผมเพราะผมทำให้พวกเขาได้ใช้งานจริง”
กันเผยว่า หลายคนพูดว่า “มีทหารช่างอยู่แล้ว ไม่ต้องให้คนนอกช่วย” แต่ในความจริง เขาบอกว่า บางพื้นที่ยังไม่ได้อยู่ในแผนปรับปรุงของกองทัพ หรือถึงจะอยู่ก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกกี่ปี ขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องอยู่ที่นั่นทุกวัน
เจตนารมณ์: ทำเพื่อให้พวกเขา “มีโอกาสได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
สิ่งที่กันทำ ไม่ได้ต้องการให้เจ้าหน้าที่มีชีวิตสุขสบายเหมือนอยู่โรงแรมหรู แต่ต้องการให้พวกเขา “อยู่รอดได้อย่างปกติในพื้นที่อันตราย” และมีโอกาสมากขึ้นที่จะได้กลับไปหาครอบครัว
“ผมไม่ได้ให้ความสุขสบาย แต่ให้เขามีโอกาสกลับบ้านได้มากขึ้น ถ้าทหารเป็นลูกคุณ พ่อคุณ คุณจะห่วงไหม?”
เขาย้ำว่า คนที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยสัมผัส ไม่ควรพูดวิจารณ์สิ่งที่เขาทำอย่างดูถูก เพราะการทำงานแนวชายแดนนั้นไม่มีคำว่าสบาย ทุกนาทีมีความเสี่ยง การช่วยให้พวกเขามีห้องน้ำใช้ มีไฟฟ้า มีหลังคาแข็งแรงบังฝน นั่นคือเรื่องพื้นฐาน ไม่ใช่ความฟุ่มเฟือย
โลกโซเชียลแตกเป็นสองฝั่ง: ชื่นชม vs วิจารณ์
หลังจากโพสต์ของกัน จอมพลัง เผยแพร่ออกไป กระแสตอบรับในโซเชียลก็แบ่งออกเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน
ฝั่งหนึ่งชื่นชมว่า เขาทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ ลงพื้นที่จริง ใช้เงินและแรงตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนในพื้นที่เสี่ยง
ขณะที่อีกฝั่งยังยืนยันว่า การช่วยเหลือแบบนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ “เคยตัว” และควรใช้ระบบของรัฐในการพัฒนา ไม่ควรให้บุคคลภายนอกเข้ามา
แต่กันไม่หวั่น เขาย้ำว่า สิ่งที่เขาทำคือการช่วย “คน” ที่กำลังเผชิญความลำบาก ไม่ใช่การทำให้ใครเคยตัว
สรุป: เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ดราม่า แต่คือชีวิตจริงของชายแดนไทย
กรณีของ “กัน จอมพลัง” สะท้อนภาพที่หลายคนในเมืองหลวงอาจไม่เคยเห็น ว่าเจ้าหน้าที่ชายแดนยังต้องเผชิญกับ สภาพแวดล้อมที่โหดร้าย ขาดแคลน และไร้การดูแลอย่างทั่วถึง
การลงมือช่วยเหลือของใครสักคนหนึ่ง แม้ไม่ใช่หน้าที่ตามระบบราชการ แต่ถ้ามันช่วยชีวิต หรือทำให้พวกเขาอยู่ได้อย่างปกติในสถานการณ์อันตราย นั่นคือสิ่งที่ควรสนับสนุน ไม่ใช่ตำหนิ
และสำหรับผู้ที่ยังไม่เคย “ไปเห็น” ด้วยตา “ไปสัมผัส” ด้วยใจ บางที... ก็อาจถึงเวลาที่ต้องหยุดพูด และเริ่มฟัง
อ้างอิงจาก: เพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้






















